ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 221 ความรู้สึกของลูกผู้ชาย

ตอนที่ 221 ความรู้สึกของลูกผู้ชาย

ภูเขาสีม่วงลูกนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 400 เมตรเท่านั้น ทำให้เย่เชียนสามารถเดินขึ้นไปถึงบนยอดเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเย่เชียนมองย้อนลงไปทางด้านล่างของภูเขา เขาก็พบว่ามันมีหมอกหนาปกคลุมอยู่โดยรอบ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองทางด้านบน เขาก็เห็นเมฆลอยอยู่เหนือศีรษะไม่ไกล ทว่าเมื่อเทียบอุณหภูมิกันระหว่างตีนเขากับยอดเขาแล้ว ที่ยอดเขานั้นมีอุณหภูมิต่ำอย่างน้อยก็สามถึงสี่องศาซึ่งถือว่าเย็นพอควรเลยทีเดียว

เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียอย่างมิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้…

ทางเดินขึ้นภูเขาสีม่วงนั้นไม่แย่มากนักเพราะมันมักจะได้รับการปรับปรุงอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีเพียงบางช่วงเท่านั้นที่ยังมีความชันและขรุขระอยู่บ้าง เย่เชียนกระโดดข้ามราวบันไดไปยืนอยู่บนขอบหน้าผาและมองออกไปสู่ห้วงนภาเบื้องหน้า แววตาของเขานั้นดูหดหู่ระคนเหงาหงอย จะว่าไปในช่วงหลายปีมานี้ เย่เชียนได้ต่อสู้มาอย่างหนักเพื่อกลุ่มเขี้ยวหมาป่าของเขา แม้ว่ามันจะมีบ้างที่เขาต้องเจอกับช่วงเวลาอันแสนยากเย็น แต่ทุกครั้งเขาก็จะสามารถผ่านมันไปจนได้ในที่สุด ทว่าครั้งนี้เขากลับรู้สึกหมดหนทางอย่างแท้จริง เพราะเขานั้นไม่สามารถเปลี่ยนใจคนที่เขานับถือว่าเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่งให้กลับมาจากความมืดมิดได้

ความรู้สึกของลูกผู้ชายคืออะไรกันแน่ ? มันคือความแข็งแกร่ง การต่อสู้ การดื่มกิน การร้องไห้ หรือว่าความเศร้าโศกเสียใจ ?

ผู้ชายก็เป็นมนุษย์เดินดินคนหนึ่งเหมือนกัน เป็นมนุษย์ที่มีเลือด มีเนื้อ มีความรู้สึก ชีวิตของเย่เชียนนั้นต้องผ่านเรื่องราวทั้งดีร้ายมามากมาย และบางครั้งเขาก็รู้สึกว่าโชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่ อย่างเช่นตอนนี้ที่เขาจะต้องห้ำหั่นกันเองระหว่างคนที่เป็นเหมือนดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด

เย่เชียนยังคงจำร่องรอยของความเหงาและความเศร้าโศกที่มักจะฉายอยู่ในแววตาของกัปตันเทียนเฟิงผู้ก่อตั้งกลุ่มเขี้ยวหมาป่าได้อย่างชัดเจน และแล้วในตอนนี้สิ่งเดียวกันนั้นเองที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวของเขา

……

สิบสองปีที่แล้ว บนทางหลวงแห่งกรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

รถแท็กซี่คันหนึ่งพุ่งฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว ที่ด้านข้างของตัวรถนั้นมีร่องรอยของการเฉี่ยวชนมาอย่างโชกโชนจนนับไม่ถ้วน รถแท็กซี่คันดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานทูต

ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ รถตำรวจมากมายวิ่งมาจากทุกสารทิศ ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็คือรถแท็กซี่คันนั้นนั่นเอง คนขับรถแท็กซี่เป็นชายอายุประมาณสามสิบ ดวงตาของเขาแดงก่ำและเต็มไปด้วยความกระหายเลือด ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจจอดรถที่ข้างทางอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็หันไปคว้าเอาปืนไรเฟิลจู่โจมออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วเดินลงมาจากรถอย่างมุ่งมั่น

เสียงไซเรนของรถตำรวจค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ชายคนนั้นทีละนิด ๆ ทว่าใบหน้าของเขากลับยังคงสงบนิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีอารมณ์หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกต่างหาก

ชายคนนั้นหรี่ตามองไปที่รถตำรวจคันแรกที่ขับเข้ามาในระยะยิง เขาสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนที่จะเล็งปืนไปที่รถตำรวจอย่างไม่ลังเล ชั่ววินาทีนั้นเองที่นิ้วของเขาลั่นไกปืนที่อยู่ในมือ กระสุนลูกแรกพุ่งออกไปเจาะเข้าที่ล้อรถจนเกิดเสียงยางระเบิดดังสนั่น รถตำรวจคันนั้นเสียหลักจนพุ่งลงไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางจนช่วงหน้ารถยับยู่ยี่ แต่ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะยังไม่สาแก่ใจ เขายิงตามไปอีกสองนัดติดกัน โดยเล็งไปที่หัวของตำรวจทั้งสองนายที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น และผลก็เป็นไปตามที่คาด ตำรวจทั้งสองนายเสียชีวิตคาที่ทันที

เมื่อปลิดชีวิตตำราจทั้งสองนายได้แล้ว รถตำรวจคันอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามาสมทบในบริเวณนั้นมากขึ้น ชายคนนั้นจึงยิงกราดเพื่อป้องกันตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปในสวนสาธารณะขนาดย่อมที่อยู่ไม่ไกล ช่วงจังหวะนั้นเหล่าบรรดาตำรวจแล้วทหารที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถแม้แต่จะมีโอกาสได้เงยหน้าขึ้นมาจากที่กำบังได้เลย ชายคนนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมฝีมือของพวกตำรวจและทหารเหล่านี้นั้นมันถึงไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย

วินาทีต่อมารถจี๊ปทหารลายพรางก็ถูกขับเข้ามาในที่เกิดเหตุ ชายคนหนึ่งกระโดดลงมาจากรถอย่างเท่และทรงพลัง เขาสวมเครื่องแบบของหน่วยรบพิเศษและถือปืนไรเฟิลจู่โจมในมือ สีหน้าของเขานั้นดูเย็นชาปนโศกเศร้าขณะที่มองไปที่ชายขับรถแท็กซี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ ๆ

เขาคือคนนี้คือ เทียนเฟิง สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีนนั่นเอง และชายขับรถแท็กซี่คนนั้นก็คืออาจารย์ของเขาเอง ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนร่วมรบและคนที่คอยสอนความรู้ทางทหารให้กับเขามาอย่างนับไม่ถ้วน

 ทุกคนหลบไปก่อน เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเอง!  เทียนเฟิงตะโกน

เมื่อได้ฟังคำสั่งอันหนักแน่นจากกัปตันของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีนแล้ว ตำรวจและทหารทุกนายก็ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง

……

เย่เชียนยังคงจำสีหน้าและท่าทางของเทียนเฟิงในขณะที่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังได้เป็นอย่างดี หลังจากที่อาจารย์ของเทียนเฟิงรู้ว่าเทียนเฟิงได้มาถึงที่นั่นแล้ว อาจารย์ของเทียนเฟิงก็เลิกคลั่งและหยุดยิง ทั้งสองคนคุยกันอย่างสงบเป็นเวลานาน จนในที่สุดอาจารย์ของเทียนเฟิงก็ฆ่าตัวตาย!

ก่อนที่จะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของอาจารย์ของเทียนเฟิง เขาได้จับมือของเทียนเฟิงเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง จากนั้นคำขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจก็หลุดออกมาจากปากของเขา  ฉันต้องขอโทษด้วย… ทั้งกับนาย กับเครื่องแบบนี่ กับยศที่ไหล่อันนี้ แล้วยังเหรียญกล้าหาญบนหน้าอกอีก… 

เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีก่อนระหว่างเทียนเฟิงและอาจารย์ของเขา ผู้ที่ซึ่งเป็นเหมือนดั่งพี่น้องร่วมสาบานมันกำลังจะซ้ำรอยกันอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเป็นเรื่องของเย่เชียนและไป๋ฮวย ซึ่งเขาทั้งสองคนก็เปรียบได้ดั่งเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันมาเช่นกัน สำหรับเย่เชียนนั้นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วว่าต่อจากนี้ไปใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องสิ้นชีพไป เพราะสำหรับเขาที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้นั้น มันก็เหมือนกับว่าทั้งเขาและไป๋ฮวยได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว

ทางด้านของเซียวหวันที่เห็นเย่เชียนยืนอยู่ริมหน้าผา เธอก็รู้สึกแปลก ๆ ในใจ มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ตัวเธอเองนั้นก็ไม่อาจที่จะสรรหาคำมาบรรยายได้ จู่ ๆ ขาของเธอก็ก้าวออกไปข้างหน้าหมายที่จะเดินไปหาเย่เชียน แต่ทว่าจื่อจุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คว้าข้อมือของเธอเพื่อหยุดเธอเอาไว้เสียก่อน เซียวหวันจึงหันไปมองจื่อจุนและเห็นว่าเขานั้นกำลังส่ายหัวให้เธออยู่เบา ๆ เธอจึงก้าวเท้ากลับมายืนอยู่ที่เดิมและปล่อยให้เย่เชียนยืนอยู่ที่ริมหน้าผาอย่างนั้นต่อไปเงียบ ๆ

ทั้งสามคนยืนอยู่ที่หน้าผานั่นกันอย่างเนิ่นนานโดยไม่มีแม้แต่คำพูดแม้แต่คำเดียวหลุดออกมาจากปาก…

เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง แต่เย่เชียนนั้นยังคงยืนอยู่นิ่งไม่ขยีบตัวเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเขานั้นได้ถูกสาปให้กลายเป็นหินไปเสียแล้ว ทว่าเซียวหวันและจื่อจุนที่อยู่ทางด้านหลังนั้นทนไม่ไหว พวกเขาจึงนั่งยอง ๆ พลางถูแขนและขาของตัวเองไปมาด้วยความหนาวเย็น พวกเขาอดที่จะสงสัยอยู่ในได้ใจไม่ได้เลยว่า ‘นี่เย่เชียนไม่หนาวบ้างเลยรึไง ?’

แน่นอนล่ะว่าความอดทนของเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นเลิศ โดยเฉพาะราชาหมาป่าเย่เชียน แล้วพวกเขาทั้งสองจะเทียบเคียงกับเขาได้อย่างไร ? ในเมื่อผู้ก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นนักรบที่เก่งที่สุดของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีน ทำให้ในระหว่างการฝึกซ้อมวิชาการต่อสู้ต่าง ๆ นั้น ความอดทนก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนจะต้องฝึกมันด้วย เพราะถ้าไม่มีความอดทน ก็จะไม่สามารถเป็นนักรบที่ดีได้ตามที่กัปตันเทียนเฟิงเคยกล่าวเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

ภาพที่เย่เชียนนั้นยืนอยู่ริมหน้าผาโดยมีชายหญิงคู่นั่งเฝ้าอยู่ข้างหลังนั้น มันทำให้พวกนั้นท่องเที่ยวที่เดินผ่านมาอดไม่ได้ที่จะหยุดดูพวกเขาด้วยความแปลกใจ จนมีครั้งหนึ่งที่สองตายายเดินผ่านมาแล้วทักเย่เชียนว่า  มันไม่มีอะไรที่คนหนุ่มสาวพยายามแล้วทำไม่ได้หรอกหลานเอ๋ย… อย่าเพิ่งรีบโหยหาความตายเลย อุปสรรคในชีวิตมันเป็นเรื่องธรรมดา 

 อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!! 

จู่ ๆ เย่เชียนก็ตะโกนออกไปสู่ท้องฟ้าเบื้องหน้าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงสะท้อนดังกึกก้องไปมาอยู่ในหุบเขาเบื้องล่างจนฟังดูพิลึกชอบกล

หลังจากที่เย่เชียนตะโกนออกไปอย่างนั้น เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก ทว่าเขาเองก็รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อยที่จู่ ๆ เขาตะโกนออกไปเสียงดังแบบนั้น เขาจึงหันไปขอโทษขอโพยสองตายายยกใหญ่และไม่ลืมที่จะพูดขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจด้วย

จากนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองจื่อจุนและเซียวหวันแล้วพูดว่า  ไปกันเถอะ 

การที่เย่เชียนไปยืนอยู่ที่ริมหน้าผาแบบนั้น เขาไม่ได้มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายแต่อย่างใด เพราะการฆ่าตัวตายหนีปัญหามันไม่ใช่วิถีของลูกผู้ชายในความคิดของเขา เย่เชียนเพียงแค่ต้องการหาที่สงบ ๆ เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ความหดหู่ที่อยู่ข้างในออกมาก็เท่านั้น

เมื่อลงมาถึงตีนเขา เย่เชียนก็โยนกุญแจรถให้จื่อจุนแล้วพูดว่า  คุณช่วยมาขับรถให้ผมที 

 นี่นาย! นายเห็นพวกเราเป็นอะไรน่ะ ? เราแค่มาช่วยนายทำงานให้เสร็จไม่ได้มาเป็นคนขับรถของนายนะ  เซียวหวันพูดอย่างเกรี้ยวกราดเพื่อทำลายบรรยากาศและความรู้สึกที่คลุมเครือภายในใจของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะพูดไปแบบนั้นแต่เซียวหวันก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจเย่เชียนอยู่ลึก ๆ ซึ่งเธอก็เข้าใจดีว่ามิตรภาพระหว่างสหายที่เป็นเหมือนดั่งพี่น้องนั้นมันลึกซึ้งเพียงใด และการต่อสู้ระหว่างพี่น้องนั้นก็โหดร้ายมากขนาดไหน

จื่อจุนจ้องเขม็งไปที่เซียวหวัน จากนั้นเขาก็เดินตรงไปยังตำแหน่งคนขับ

เย่เชียนนั้นไม่ได้สนใจเซียวหวันเลย เพราะในความคิดของเขานั้น เธอคนนี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะโตเป็นสาว และคงเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของผู้ชายเอาเสียเลย เย่เชียนจึงไม่อยากที่จะทะเลาะกับเธออีก เขาได้แต่เงียบไม่โต้เถียงอะไรกลับไป จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตูหลังแล้วเข้าไปนั่งที่เบาะหลังคนเดียว

เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่แยแสของเย่เชียนแล้ว เซียวหวันก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาอีก เธอตามเขาเข้าไปนั่งลงที่เบาะหลังข้าง ๆ เมื่อเย่เชียนเหฌนเธอมานั่งข้าง ๆ เขาก็จ้องมองไปที่เด็กผู้หญิงในคราบของสายลับคนนี้ด้วยความประหลาดใจ ส่วนเซียวหวันก็จ้องเขม็งมาที่เย่เชียนอย่างเกรี้ยวกราดเช่นกัน

 อะไร ? ฉันจะนั่งตรงนี้ด้วยไม่ได้รึไง ? 

เย่เชียนไม่มีอารมณ์จะเสวนาต่อ เขาจึงเพียงยิ้มกลับเล็กน้อย หลังจากบอกปลายทางของเขาให้จื่อจุนแล้ว เขาก็เอนหลังพิงเบาะแล้วหลับตาลงไปอย่างเหนื่อยล้า

จื่อจุนจึงสตาร์ทรถและขับตรงไปยังโรงแรมที่จ้าวหยาพักอยู่ตามคำสั่ง

ตั้งแต่ออกมาจากโรงน้ำชา เชียวหวันรู้สึกว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย มันจึงทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก แต่พอเธอได้เห็นเย่เชียนที่ดูอ่อนแอเช่นนี้แล้ว ความโกรธเกรี้ยวในใจของเธอก็จางหายไป

เซียวหวันตัดสินใจสะกิดแขนของเย่เชียนเบา ๆ และพูดว่า  นี่ ๆ นายพูดอะไรบ้างสิ 

 ผมชื่อเย่เชียน… ที่แปลว่าอ่อนน้อมถ่อมตน…  เย่เชียนพูดอย่างอ่อนแรงโดยไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมามองเธอ

 เชอะ!  เซียวหวันเม้มปากและทำหน้ามุ่ย  นายคนที่อยู่ที่โรงน้ำชากับนายตอนนี้ทำไมมันถึงต่างกันราวกับฟ้ากะเหวแบบนี้ล่ะ ? 

เย่เชียนได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมาและโน้มตัวเข้าไปหาเซียวหวันอย่างกะทันหัน ทำให้ปากกับจมูกของพวกเขาทั้งสองเกือบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว ในตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้จนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทันใดนั้นเองที่เซียวหวันเริ่มที่จะหายใจเข้าออกเร็วขึ้น หัวใจของเธอเต้นแรงและรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อเธอจ้องมองไปที่ใบหน้าของเย่เชียนใกล้ ๆ แล้ว เซียวหวันก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้ช่างมีผิวพรรณที่ดีเหลือเกิน ดวงตาของเขาดิ่งลึกราวกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนอันแสนกว้างใหญ่ไพศาล แถมหน้าตาของเขาก็ยังหล่อมากอีกด้วย เซียวหวันตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองจนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าแก้มขาว ๆ ของเธอในตอนนี้นั้นมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสีชมพูระเรื่อไปแล้ว

 นี่คุณผู้หญิง… ไม่สิสาวน้อย! คุณต้องการให้ผมเป็นคนแบบนั้นกับคุณหรอกเหรอ ?  เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายที่มุมปากของเขา

 ฉัน… เอ่อ… ฉัน…  เซียวหวันถึงกับพูดติดอ่าง เธอสูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้วโดยสมบูรณ์ ทว่าจื่อจุนที่กำลังมองผ่านกระจกมองหลังอยู่นั้นกลับยิ้มออกมาอย่างคลุมเครือ

 ไอ้คนกะล่อน… นายอย่าเข้ามาใกล้ฉัน!  เซียวหวันผลักเย่เชียนออกไปเบา ๆ เย่เชียนไม่ได้ขัดขืนหรือตอบโต้อะไร เขาเพียงแต่เอนหลังกลับไปนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ เหมือนเดิม

หัวใจของเซียวหวันนั้นยังคงแปรปรวนอยู่และความคิดของเธอก็สับสนวุ่นวายไปหมด เธอคิดไม่ออกเลยว่าต่อจากนี้ไปเธอจะวางตัวกับเย่เชียนอย่างไร

 ฉันชื่อเซียวหวัน! และฉันก็ยังไม่ได้อนุญาตให้นายเรียกฉันว่าสาวน้อยด้วย!  เซียวหวันหน้ามุ่ยและบุ้ยปากพูด

 ก็คุณเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หนิ  เย่เชียนพูดโดยไม่สนใจท่าทางที่โกรธเกรี้ยวของเซียวหวันเลย

เซียวหวันนั้นอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถของเธอเอง มันทำให้เธอสามารถเข้าไปทำงานที่กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ว่าอายุ 23 จะเป็นอายุที่ไม่มาก แต่ถ้าเดาอายุของเธอจากใบหน้าของเธอแล้ว ใคร ๆ ก็คงคิดว่าเธอนั้นยังเป็นสาว ๆ วัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีแน่ ๆ ทว่าเธอไม่ชอบเลยที่มันต้องเป็นแบบนั้น เพราะใจจริงแล้วเธอต้องการให้ผู้คนมองดูเธอที่ความสามารถมากกว่าอายุหรือรูปร่างหน้าตา เธอจึงไม่พอใจมากเวลาที่มีคนเรียกเธอว่าสาวน้อยหรือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ

เซียวหวันจึงตะโกนกลับไปอย่างเกรี้ยวกราดว่า  ไอ้คนขี้โกง! ฉันไม่อยากยุ่งกับนายแล้ว 

เย่เชียนได้แต่เงียบและไม่ได้โต้เถียงอะไรกับเธอ เขาไม่อยากทำให้เธอโกรธไปมากกว่านี้อีก หลังจากที่เงียบกันไปสักพัก เย่เชียนก็ถามจื่อจุนว่า  คุณรู้มั้ยว่าพวกนั้นจะซื้อขายกันเมื่อไหร่ ? 

 น่าจะอีกไม่กี่วันนี้นะ… แต่มันก็ยังไม่แน่หรอก พวกเรากำลังตรวจสอบกันอยู่ หวังว่าเร็ว ๆ นี้คงจะมีข่าวคืบหน้าอะไรส่งมาบ้าง  จื่อจุนตอบ

เย่เชียนพยักหน้ารับรู้แต่ไม่ได้พูดอะไรกลับไป

 

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท