เห็นคนออกไปหมดแล้ว เจาเยี่ยเดินไปนั่งที่โซฟา หลังจากหลินเซวียนโทรศัพท์มอบหมายให้เลขาฯ ไปซื้อกาแฟที่ร้านโปรดของเจาเยี่ยแล้วก็ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเขา พูดโดยไม่มีอารมณ์ตำหนิแฝงอยู่สักนิดว่า ทำไมยอมให้ฝู่ผิงออกไปล่ะ ฉันยังสั่งสอนเขาไม่หนำใจเลยนะ?
สั่งสอนอะไร ไม่ใช่ความผิดใหญ่โตอะไรเสียหน่อย ต่อว่าไม่กี่คำก็พอแล้ว เพราะยังไงเขาก็เป็นผู้จัดการมือทอง ถ้าต้องมาเสียหน้าเพราะนายอีก เดี๋ยวคงได้ลาออกไปอีกคนแน่ เจาเยี่ยกล่าว
ไม่ใช่ความผิดใหญ่โตอะไร ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตวุ่นวายไปหมด นายดู รายการค้นหายอดนิยมมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับกู้หลานอันและตี้อวี๋ ดูรายการโฆษณาอันดับ 5 ก็ยังเป็นการพูดเกี่ยวกับสถานะของกู้หลานอัน ประกาศชัดเจนเลย หลินเซวียนขมวดคิ้วและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เปิดเวยป๋อยื่นให้เจาเยี่ย
เจาเยี่ยไม่ได้พูดอะไรแล้วรับมาดู การค้นหายอดนิยม 4 แฮชแท็กล้วนแต่เป็นเรื่องของกู้หลานอัน หนึ่งเป็นการถกเกี่ยวกับการปฏิเสธการเซ็นสัญญา สองคือถกถึงการคว้าแชมป์ของเขา สามคือการถกถึงฐานะของเขา และสี่คือการถกถึงเรื่องของกู้หลานอันและตัวของเขาเอง พอเห็นแฮชแท็กสุดท้าย เจาเยี่ยผงะไป พลันคิดไปว่าหรือจะเป็นเรื่องที่กู้หลานอันพูดสารภาพกับตัวเองเมื่อวันก่อน แล้วโดนถ่ายไว้หรือเปล่า พอคลิกแฮชแท็กนั้นดู กลับเป็นเรื่องกู้หลานอันเปิดบัญชีเวยป๋อ กดติดตามแค่ตัวเอง และยังกดไลค์โพสต์ทั้งหมดของเขาในเวยป๋อ ซึ่งจะเป็นเบาะแสที่อาจกระตุ้นให้เหิงอันตามขุดเรื่องราวของตนได้
ไร้สาระ เจาเยี่ยกะพริบตาเบาๆ โยนโทรศัพท์กลับไป วางมือทั้งข้างบนหัวเข่าและนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
หลินเซวียนเห็นเขาไม่พูดไม่จา และไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะปลอบใจตนเอง ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้เขาเงียบๆ และพูดอย่างเศร้าใจ นี่ทำเอาฉันโกรธจะตายแล้ว
อย่าโกรธไปเลย คืนนี้…… เรื่องทั้งหมดนี้ก็จะผ่านไป ก็แค่สองแฮชแท็กที่ใช้เงินซื้อมา อย่าไปให้ความใส่ใจมากเลย ตอนแรกเจาเยี่ยกะจะพูดแบบนี้ แต่หลินเซวียนไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลย พูดได้สามคำก็ถูกขัดจังหวะว่า นายไม่อยากให้เครียดก็ได้ งั้นออกไปเที่ยวเป็นเพื่อนหน่อยสิ
เจาเยี่ยมองดูใบหน้าเขาที่เต็มไปด้วยความหวัง ทำให้เขาปฏิเสธไม่ลง เดิมทีเป็นเพราะตัวเขาเองออกไปพักผ่อนเพื่อผ่อนคลาย เรื่องทั้งหมดถึงได้กลายเป็นสภาพนี้ ทำไมจะต้องทำลายความหวังดีของเขา ทำให้เขาเสียใจ พอคิดได้อย่างนี้เจาเยี่ยก็ตอบรับ
หลินเซวียนยิ้มออก ยันร่างลุกขึ้นมองไปที่เจาเยี่ยเพื่อออกเดินทาง ไปกัน
ไปไหน? เดี๋ยวนายยังมีประชุมอีกไม่ใช่เหรอ? เจาเยี่ยไม่ได้ขยับตัว
ไม่มีปัญหา เลื่อนออกไปก็ได้ หลินเซวียนไม่ได้สนใจมากนัก
เลื่อนอะไร? ไปประชุม หลินเซวียน ตอนนี้นายน่ะเป็นประธานกรรมการบริหารของที่นี่นะ นายไม่สามารถเอาแต่ใจตัวเองได้อีกแล้ว เจาเยี่ยลุกขึ้น มองไปที่หลินเซวียนแล้วออกเดิน เดินไปก็พูดไปด้วยว่า เมื่อไรที่งานนายไม่ยุ่งแล้ว ฉันจะออกไปเที่ยวกับนาย แน่นอนถ้านายกล้าเอาเวลาทำงานมาหาฉัน เชิญนายไปหาคนอื่นให้ไปเป็นเพื่อนนายเถอะ
เจาเยี่ย…… กลัวว่าการไม่เชื่อฟังเขาจะทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตร หลินเซวียนจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังของเขา ทำเสียงงอน มองเขาและผู้ช่วยผู้จัดการเข้าไปในลิฟต์ เขาถอนสายตากลับอย่างหมดหวัง ถอนหายใจ หันกลับไปนั่งที่โซฟา ตั้งหน้าตั้งตาจัดการเอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อ
สะลึมสะลือหลับไปหนึ่งตื่น ถูกปลุกขึ้นมาจากฝันร้ายในอดีต กู้หลานอันนอนแผ่อยู่บนผ้าห่ม เหงื่อเย็นๆ ไหลหยดพลางมองไปยังฉากที่คุ้นเคยรอบๆ ตัว ใช้มือเสยผมที่ปรกอยู่บนหน้าผากเพื่อทำให้อารมณ์สงบลงบ้าง เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้น เปิดโทรศัพท์มือถือจูบรูปของบุคคลที่อยู่บนหน้าล็อคหน้าจอ ถือโทรศัพท์เดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่าน มองดูยานพาหนะที่สัญจรไปมานอกหน้าต่าง หยดน้ำตาร่วงจากหางตา เจาเยี่ยนายทำอะไรอยู่? ฉันคิดถึงนาย ถอนหายใจแรงๆ เช็ดน้ำตาจนแห้ง กู้หลานอันเปิดหน้าจอไถดูกิจกรรมของเวยป๋อ ไม่เห็นเจาเยี่ยอัปเดตอะไร จึงคลิกการค้นหายอดนิยม ดูแล้วมีทั้งความเคลื่อนไหวที่อยู่นอกเหนือการคาดเดาและอยู่ในการคาดเดา รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง เขายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงในกระเป๋า แล้วเดินลงชั้นล่าง