การมอบถ้วยรางวัลเริ่มจากรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง, และตามด้วยรางวัลชนะเลิศ ถ้วยรางวัลชนะเลิศนั้นซุปเปอร์สตาร์เจาเยี่ยจะเป็นคนมอบให้เองกับมือ
มองเจาเยี่ยที่ถือถ้วยรางวัลด้วยมือข้างเดียว เดินตรงมาหาตัวเองอย่างช้าๆ กู้หลานอันใจเต้นแรงผิดจังหวะ เมื่อชาติที่แล้วก็เพราะช่วงเวลานี้ที่เขาเห็นเจาเยี่ยผู้เย็นชาแต่หล่อเหลาและสง่างามดูแตกต่างเสียจนไม่เหมือนคนบนโลกใบนี้ ออร่าพุ่งกระจายจนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขานั้นมีความโดดเด่น เป็นความขัดแย้งที่ดูลงตัวบนเวทีแห่งนี้ เขาจึงตกหลุมรักเจาเยี่ยตั้งแต่แรกพบ ไม่คิดว่าช่วงเวลาที่พบกันใหม่ในชาตินี้ จากเดิมทีที่เขารักอยู่แล้วก็ยังสามารถทำให้กลายเป็นรักแรกพบได้อีกครั้ง
เดินไปถึงตรงหน้ากู้หลานอันเพื่อมอบถ้วยรางวัลให้เขาด้วยมือตนเอง แต่ไม่เห็นเขารับไปสักที เจาเยี่ยไม่พูดอะไรนอกจากจ้องเขาพร้อมกับหัวเราะกู้หลานอันที่ดูเหมือนคนสติไม่เต็ม ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า ดีใจจนเอ๋อไปแล้วหรือ?
เพราะคำพูดของเขากู้หลานอันเลยได้สติ หน้าแดงก่ำ รีบยื่นมือไปรับถ้วยรางวัล ขณะที่ขยับเข้าใกล้เจาเยี่ย พลันพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าว่า ไม่ใช่หรอก เป็นเพราะหลงรักนายจนสติหลุดไปต่างหากล่ะ
เพราะคำพูดของเขาเจาเยี่ยเลยทำให้เขายืดตัวตรงขึ้น ไม่ได้มองไปที่เขาเลยสักนิด และไม่ได้กล่าวคำให้กำลังใจตามที่เตรียมไว้ เขาหันหลังกลับและเดินจากไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก เพราะคำพูดไร้ยางอายของกู้หลานอัน ทำให้ความประทับใจที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นมาจากการแสดงของเขากลับลดลงไปอีก คนที่มีทุนทรัพย์พร้อม แม้ไม่มีความพยายามตั้งใจแต่กลับอยากจะบินขึ้นไปให้ถึงฟ้าอย่างรวดเร็ว ในสายตาของเขาก็เหมือนกับขยะดีๆนี่เอง
กู้หลานอันมองตามหลังเขาที่เดินจากไป คิดว่าเขาโกรธเพราะอาย เลยชูถ้วยสูงขึ้นอย่างอารมณ์ดี นิ้วมือไปสัมผัสตรงตำแหน่งที่เจาเยี่ยเพิ่งสัมผัสไป จากนั้นลูบไล้ไปมา
ฟู่ซีได้แต่มองตาปริบๆจากมุมหนึ่ง ดูเจาเยี่ยมอบรางวัลให้กู้หลานอัน และยังได้พูดคุยกัน เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า พลางคิดว่าถ้วยรางวัลนี้เดิมทีควรเป็นของเขา เจาเยี่ยควรเป็นคนที่มอบรางวัลให้กับตัวเองตั้งแต่แรก เป็นเพราะกู้หลานอันเป็นคนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา เขากัดฟันแรงจนฟันเกือบแตก ภายในใจของเขาเพิ่มความเกลียดชังกู้หลานอันมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
หลังพิธีมอบรางวัล พิธีกรกล่าวคำอวยพร การถ่ายทอดสดจบลง คนเข้าแข่งขันที่คะแนนไม่ดี ต่างคนต่างแยกย้าย กลับบ้านหาลู่ทางต่อไป สามอันดับแรกพักผ่อนอยู่ภายในห้องพัก เพียงก้าวเดียวก็จะได้เข้าสู่วงการแล้ว ได้เพลิดเพลินไปกับห้องพักสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และรออยู่ข้างในนั้นเพื่อเซ็นสัญญาโดยตรงกับผู้จัดรายการ พรุ่งนี้ฉันจะเป็นราชาซุปเปอร์สตาร์ บริษัทสร้างดาราชื่อดังในจีน ตี้อวี โดยเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดเป็นระยะเวลา 5 ปี
การมอบรางวัลจบลง เจาเยี่ยกะว่าจะตรงไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อน แต่ปรากฏว่าผู้จัดการท้องเสียเลยทำให้เสียเวลา กว่าจะได้ออกเดินทางก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่า
ขอโทษด้วยครับ สัญญาฉบับนี้ ผมไม่เซ็น เมื่อเดินผ่านห้องพักของดาราหน้าใหม่ เจาเยี่ยถูกคำพูดนี้ทำให้หยุดนิ่งไป ในวงการบันเทิง มีผู้คนมากมายที่อยากจะปีนให้สูงขึ้นไป แต่ยังไม่ทันได้เริ่มปีนก็ละทิ้งโอกาสอันยิ่งใหญ่ไป เขาเพิ่งจะเคยพบเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เขาอดสงสัยไม่ได้ เจาเยี่ยเหล่ตามองไปข้างใน ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ทำไมถึงเป็นเขาได้?
นายพูดว่าอะไรนะ? คนที่เพิ่งยื่นสัญญาให้กู้หลานอัน ฝู่ผิง ตัวแทนที่บริษัทต้องการให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของกู้หลานอัน เมื่อได้ยินสิ่งที่กู้หลานอันพูด ก็จ้องเขาตาเขม็ง ถามออกไปอย่างไม่เชื่อว่าการได้เซ็นสัญญากับบริษัท ตี้อวี (ราชันแห่งวงการเอนเตอร์เทนเมนท์) การได้ผู้จัดการระดับแถวหน้าของวงการอย่างเขามาดูแล มีคนตั้งมากมายเท่าไหร่ที่อยากจะได้แต่ก็ไม่เคยได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กลับปฏิเสธมัน
ผมบอกว่าสัญญาฉบับนี้ผมไม่เซ็น กู้หลานอันไม่แม้แต่จะชายตามองสัญญาฉบับนั้นเลย เขาตอบด้วยคำเดิม
ไม่เซ็น? ทำไมล่ะ? ฝู่ผิงทำท่าเหมือนเจอผี คิ้วขมวดพลันคิด นึกว่าเขาไม่รู้ถึงศักยภาพของตี้อวี อยากจะใช้ชื่อเสียงในฐานะแชมป์ครั้งนี้เพื่อหางานอื่น จึงมองเขาอย่างเหยียดหยามและพูดอย่างไม่เกินจริงว่า หลังจากเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้วก็เท่ากับว่านายก็คือซุปเปอร์สตาร์ในอนาคตเลยนะ รู้หรือเปล่า
ผมรู้ กู้หลานอันหัวเราะ ชาติที่แล้วถึงแม้เขาจะไม่เข้าตาบริษัทตี้อวี ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังนับว่าเขานั้นเป็นตัวเก๋าในวงการคนหนึ่งเลยทีเดียว เขาเข้าใจถึงความสามารถของตี้อวีเป็นอย่างดี แค่พวกเขาจัดการอย่างจริงใจไม่หลอกลวง ประกอบกับคนคนนั้นมีคุณสมบัติที่ดี เรื่องที่จะทำให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์นั้นง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ
รู้แล้วทำไมถึงยังปฏิเสธล่ะ? ฝู่ผิงตกใจอย่างมาก อยู่ในวงการมานานแสนนาน เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่ไม่ถูกล่อซื้อด้วยชื่อเสียงเงินทอง ไม่เคยพบเคยเห็นจริงๆ