เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi) – เล่มที่ 2 ตอนที่ 44 ที่สุดของความไร้ยางอาย

เล่มที่ 2 ตอนที่ 44 ที่สุดของความไร้ยางอาย

   ฉันอยากจะเชิญนายไปกินข้าวสักมื้อ  กู้หลานอันไม่รู้สึกสักนิดว่าตัวเองทำแบบนี้จะมีอะไรที่ไม่เหมาะสม มีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดได้เต็มปากเต็มคำหรือแม้แต่มีความภาคภูมิใจในตัวเองที่จะบอกเจาเยี่ย

         ก็เพื่อกินข้าวหนึ่งมื้อ?  เจาเยี่ยโกรธจนไม่อยากจะโกรธ คำรามเสียงต่ำ  เพื่อกินข้าวมื้อเดียวนายก็เลยวิ่งมาชนรถ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำขึ้นมาจะทำยังไง? กู้หลานอัน นี่นายโง่หรือเปล่า? 

         นี่นายกำลังเป็นห่วงฉันเหรอ?  กู้หลานอันไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ มีความสุขเหมือนใกล้บ้าเล็กน้อย   

         ใครเป็นห่วงนายเหรอ?  ฉันกำลังกล่าวโทษพฤติกรรมของนาย ถ้าทำแบบนี้แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมานายก็สมควรได้รับ แต่คนอื่นล่ะ? คนขับรถจะหวาดกลัวขนาดไหน? ต้องรับผิดชอบยังไงนายรู้รึเปล่า? นายเคยคิดแทนคนอื่นบ้างรึเปล่า?  เจาเยี่ยมีอายุจน 23 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนที่วุ่นวายยุ่งเหยิงขนาดนี้ และก็เป็นครั้งแรกที่รับงานนอกเวลาเพื่อเป็นอาจารย์สั่งสอนกู้หลานอัน

         ฉันรู้แล้ว ฉันผิดไปแล้ว ครั้งหน้าฉันไม่ทำแบบนี้แล้ว นายอย่าโกรธเลย  กู้หลานอันเสียใจอย่างยิ่งและยอมอ่อนลง แล้วแก้ต่างเสียงต่ำว่า  แต่ฉันคำนวณไว้แล้วว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถึงได้วิ่งไปชนรถ ฉันอยู่ห่างจากรถตั้งไกลก็นอนลงไปแล้ว 

        เจาเยี่ยไม่ได้สนใจเขา แต่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการถามอย่างแปลกใจว่า  ใช่ไหม? ผมก็ว่าแล้ว ผมเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าห่างกันไกลมากทำไมถึงชนคุณได้ แต่ว่าทำไมเมื่อกี้ตอนจอดรถคุณถึงอยู่ข้างรถล่ะ? 

         ผมขยับเข้ามา  กู้หลานอันจ้องเจาเยี่ยเขม็งแล้วตอบ

         ขยับ!!!  โลกทัศน์ของหลี่เสียวเหม่ยพังทลายลงทันที โปรดให้อภัยเขาที่เป็นเด็กบ้านนอกที่เพิ่งเรียนจบที่คิดมาตลอดว่าดาราชื่อดังนั้นล้วนมีรัศมีรอบตัว มีความยิ่งใหญ่สูงส่งเป็นพิเศษ ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนที่ตาของมวลชนจับจ้องมองอยู่ตลอดจะวิ่งชนรถแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะเรื่องวิ่งชนรถ นี่ยังไม่มีศักดิ์ศรีนอนลงกับพื้นแล้วขยับตัวเอง เขาร้องไห้สักรอบได้ไหม?

        เมื่อถูกกู้หลานอันจ้องอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เจาเยี่ยขยับมือที่วางอยู่บนหน้าขา เรียกหลี่เสียวเหม่ย  จอดรถ  พอรถหยุด ก็พูดกับกู้หลานอันว่า  ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรแล้วก็เชิญลงจากรถ 

         ใครบอกว่าไม่ได้ทำอะไรแล้ว? ฉันไม่ได้พูดไปเหรอว่าอยากเชิญนายไปกินข้าวกันสักมื้อ? เจาเยี่ยพวกเราไปกินข้าวกันเถอะ ฉันรู้จักสถานที่ที่ทำอาหารได้อร่อยสุดยอดไร้ที่ติอยู่ที่หนึ่ง  กู้หลานอันพูดเอาใจ

         ฉันไม่อยากจะกินข้าวกับนาย นายไปเถอะ  เจาเยี่ยพูดปฏิเสธโดยไม่ได้มองดูเขาเลย

         ไม่ไป และนายก็อย่าคิดที่จะไล่ฉันไปเลย  กู้หลานอันอันธพาลขึ้นมา นั่งตัวตรงท่าทางเหมือนคนมีอำนาจ  เจาเยี่ย ฉันจะบอกอะไรให้นาย ถ้านายไล่ฉันลงไปตอนนี้ งั้นฉันคงต้องหานักข่าวรายงานเรื่องที่นายชนแล้วหนีในวันนี้แล้วล่ะ 

         ทำไมคุณทำแบบนี้? เมื่อกี้คุณตั้งใจวิ่งชนรถเองชัด ๆ คุณจะกลับผิดเป็นถูกแบบนี้ได้ยังไง?  หลี่เสียวเหม่ยรู้สึกไม่พอใจ เจาเยี่ยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร มองกู้หลานอันเป็นครั้งคราว ชำเลืองตามองสีหน้าท่าทางของเขาก็จะรู้ว่าเขากำลังล้อเล่น ไม่ได้จะรายงานจริง ๆ

         ทำไมจะไม่ได้? มองในมุมอื่น ฉันก็เป็นคนต่ำทรามมากคนหนึ่ง  กู้หลานอันสุดแสนจะอวดดี มองเจาเยี่ยด้วยแววตาเหมือนหมาเห็นกระดูก แล้วถามว่า  ว่ายังไงเจาเยี่ย กินข้าวกับฉันมื้อหนึ่งกับได้ข่าวฉาวแง่ลบเพิ่ม นายเลือกข้อไหน? 

                  นายไปรายงานเถอะ ลงจากรถให้เร็วที่สุดก็พอ  เจาเยี่ยใบหน้าสงบ ชื่อเสียงสถานะต่าง ๆ ของเขาก็รู้กันอยู่แล้ว อันที่จริงจะว่าไปแล้ว กู้หลานอันจะไม่พูดออกไปแน่นอน แต่ต่อให้พูดจริง เขาก็ไม่กลัวเท่าไหร่ เพราะยังไงตอนนี้เขาก็แปดเปื้อนไปทั้งตัวอยู่แล้ว

         ฉัน…  กู้หลานอันโดนต้อนจนพูดไม่ออก รู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ชาตินี้เจาเยี่ยแสดงออกชัดว่าไม่ได้เห็นเขาเป็นคนน่ารักที่น่าทะนุถนอมในอุ้งมือของใจแล้ว โน้มตัวไปจับเบาะหน้าไว้แน่นแล้วพูดว่า  ฉันจะไม่ลงไป ถึงตายก็จะไม่ลงไป วันนี้ถ้านายไม่ไปกินข้าวกับฉัน ฉันก็จะอาศัยอยู่ในรถนายทั้งวันแบบนี้แหละ 

         เอ่อ…  คนคนนี้ มียางอายไหมเนี่ย เจาเยี่ยระอา หันสายตาไปยังกู้หลานอัน มองดูคนที่กิริยาท่าทางเหมือนเด็ก แต่ไม่รู้เพราะอะไร ในใจกลับมีความรู้สึกแปลก ๆ กับกู้หลานอัน เหมือนได้ทำความเข้าใจในตัวเขาใหม่ ตอนแรกที่รู้จักกับเขานั้น นึกว่าเขาจะเป็นคนประเภทเงียบเหงาอ้างว้าง แต่ว่าในตอนนี้ เขากลับหาความเงาแห่งความเงียบเหงานั้้นไม่เจอเลยสักนิดในตัวเขา อุปนิสัยก็ไม่เหมือนกับตอนแรกที่เจอกัน

         พี่เจา แล้วจะทำยังไงดี ให้ผมลากเขาลงจากรถไหม?  เห็นกู้หลานอันไม่มีท่าทีจะคลายมือมาสักพัก หลี่เสียวเหม่ยเลยสอบถามเจาเยี่ย

        เจาเยี่ยไม่ได้ตอบ แค่ตวัดตาไปมองมือกู้หลานอันที่จับไว้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก สักพักก็พูดอย่างระอาว่า  ออกรถ  พูดจบหลับตาเอนตัวลงไปยังที่นั่ง แล้วก็พูดว่า  จะไปไหน? 

         หืม? นายถามฉันเหรอ? เจาเยี่ยนายยอมไปกินข้าวกับฉันแล้วเหรอ  กู้หลานอันเพิ่งจะได้ยินยังไม่ทันได้ตอบรับ แต่พอตอบรับแล้วก็รีบโน้มตัวไปถามเจาเยี่ย

         แล้วคำปฏิเสธฉันได้ผลเหรอ?  เดิมทีไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ แต่เจาเยี่ยก็ตอบออกไป พูดจบเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดมากไปแล้วจึง เม้มปากอย่างไม่พอใจ

         แหะ ๆ ไม่ได้ผล  กู้หลานอันเกาหลังศีรษะ แล้วพูดกับหลี่เสียวเหม่ยว่า  ไปถนนหงซิง หมายเลข 53  พอได้ยินที่อยู่อันนี้ เจาเยี่ยก็ขยับตา ที่นี่เป็นร้านธรรมดาทั่วไปที่ตัวเองชอบไปที่สุดที่หนึ่ง แต่ทำไมกู้หลานอันก็รู้ล่ะ?

        ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงที่หมาย (จริง ๆ แล้วการเดินทางใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ๆ แต่กู้หลานอันใช้เวลาทั้งหมดจ้องเจาเยี่ยอยู่ เลยรู้สึกว่าเร็วมาก) กู้หลานอันรู้สึกเสียใจพลางบ่นตัวเองว่าทำไมไม่บอกชื่อร้านให้ไกลกว่านี้ พูดกับเจาเยี่ยว่า  เจาเยี่ย ถึงแล้ว  แล้วลงจากรถ รอเจาเยี่ยลงรถ ก็พาพวกเขาเข้าไปยังโต๊ะริมหน้าต่างอย่างคุ้นชินกับสถานที่ บริการเทน้ำผลไม้แก้วหนึ่งให้เจาเยี่ย หลังจากบอกกล่าวเจาเยี่ยเรียบร้อยก็ตรงไปสั่งอาหาร

         พี่เจา พี่จะทานข้าวที่นี่จริง ๆ เหรอ?  มองกู้หลานอันที่กำลังยืนคุยอยู่กับเจ้าของร้านอยู่อีกฝั่ง หลี่เสียวเหม่ยเบาเสียงถามเจาเยี่ย

         อืม ทำไมเหรอ?  เจาเยี่ยมองน้ำส้มที่อยู่ตรงหน้าแล้วถาม

         ทางที่ดีพวกเราก็อย่ากินที่นี่ดีกว่า กู้หลานอันคนนี้ดูจะคิดนอกลู่นอกทางกับพี่ ผมกังวลว่าเขาวางแผนให้พี่มากินอาหารถึงที่นี่ เขาอาจจะอยากทำอะไรมิดีมิร้ายพี่  หลี่เสียวเหม่ยจำต้องพูดความจริงออกไป

         งั้นหรือ นายคิดมากไปแล้วล่ะ  เจาเยี่ยยกปากขึ้นเบา ๆ ดูอารมณ์ดีมาก  แม้ว่าเขาคิดวางแผนจะทำอะไรฉันจริง ๆ เขาจะกล้าทำอะไร ถ้าไม่นับว่าตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนะ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ยังไงก็ต้องมีความละอายอยู่บ้าง 

         นั่นก็ไม่แน่  หลี่เสียวเหม่ยเป็นกังวล น้ำเสียงแสดงออกมาอย่างชัดเจน  พี่เจา กู้หลานอันคนนี้ไม่ควรเอามาตรฐานของคนทั่วไปมาเทียบ เรื่องวิ่งชนรถเมื่อสักครู่ คนธรรมดาทั่วไปที่ไหนเขากล้าทำกัน อีกอย่างเมื่อกี้เขาพูดเองเลยว่า เขาเป็นคนที่เลวทรามต่ำช้ามาก 

         เขาไม่ใช่คนเลวอะไรหรอก  เจาเยี่ยดื่มน้ำส้มไปหนึ่งอึก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

        กู้หลานอันสั่งอาหารเรียบร้อยเห็นเจาเยี่ยคุยอยู่กับหลี่เสียวเหม่ยอย่างอารมณ์ดี ก็รู้สึกหึงขึ้นมาทันที คว้าเก้าอี้แล้วเข้าไปนั่งเบียดตรงกลางระหว่างเจาเยี่ยกับหลี่เสียวเหม่ย แล้วถามเจาเยี่ยว่า  กำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอทำไมอารมณ์ดีขนาดนี้? 

        อารมณ์ดีแล้วเหรอ? หลี่เสียวเหม่ยรู้สึกแปลกใจพลางมองหน้าเจาเยี่ยที่ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ สงสัยขึ้นมาทันทีว่าสายตาของกู้หลานอันมีปัญหาหรือเปล่า

        เจาเยี่ยไม่ได้ตอบ กู้หลานอันรู้สึกหงุดหงิด หันศีรษะมาทำหน้าจริงจัง ถามหลี่เสียวเหม่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า  เมื่อกี้พวกนายกำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ? 

 

เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi)

เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi)

Status: Ongoing

“พาดหัวข่าว! นักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม “กู้หลานอัน” ไม่เกี่ยงชายหญิง ขอแค่มีเงินก็พร้อมกระโจนเข้าใส่

ทำให้เพื่อนรักสุดทน จัดงานแถลงข่าว เพื่อเปิดโปงธาตุแท้ของเขา ส่งผลให้ยอดผู้ติดตามหายไปหลายล้านคนในพริบตา”

.

บนดาดฟ้าสูง ปรากฏร่างของชายหนุ่มหน้าตาดี ยืนเหม่อลอย น้ำตานองหน้า

ถ้อยคำก่นด่ามากมายสะท้อนก้องอยู่ในหัวของเขา กู้หลานอันหัวเราะทั้งน้ำตา…

ใช่แล้ว คนที่ทำลายชีวิตของเขา ก็คือ ‘เพื่อนรัก’ คนดีของเขานั่นเอง! มิตรภาพจอมปลอมจนถึงวินาทีสุดท้าย

.

ทว่า…ในตอนที่ทุกคนต่างหันหลังให้เขา กลับมีเพียง “เจาเยี่ย” คนรักของเขาเท่านั้น

ที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดว่าจะรักเขาตลอดไป… แต่กู้หลานอันไม่สามารถทนมองสภาพตัวเองตอนนี้ได้

และไม่อยากให้เจาเยี่ยลำบากเพราะเขาอีกต่อไป เขาจึงเลือกจบชีวิตลง ณ ตึกสูงแห่งนี้นี่เอง…

.

“หากชาติหน้ามีจริง…ฉันจะบอกรักนาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน”

.

นับว่าสวรรค์ยังไม่ใจร้ายกับเขามากนัก กู้หลานอันได้ย้อนเวลากลับมาในร่างตนเองเมื่อ 5 ปีก่อน เพื่อแก้ไขอดีตอันโหดร้าย

“ฉันกลับมาแล้ว เจาเยี่ย…”

“แต่…คงเพราะฉันเข้าหานายมากเกินไปสินะ นายถึงกลัวฉันขนาดนั้นน่ะ!!? ”

.

ปฏิบัติการตามจีบหนุ่มเย็นชาของนายซุปตาร์เกิดใหม่ จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้นี่เอง!

—————–

เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : Doufu

ประพันธ์โดย :  花亦北

ลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทยถูกต้องโดย : Glory Forever Co.,LTD (สนพ.กวีบุ๊ค)

บรรณาธิการ :วลีรัตน์ แทนคง

แปลภาษาไทยโดย :  จื่อหลงเอ๋อร์ 紫龙儿

พิสูจน์อักษร : รติรัตน์ หอมลา

—————–

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท