เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi) – เล่มที่ 2 ตอนที่ 43 มิจฉาชีพวิ่งชนรถ

เล่มที่ 2 ตอนที่ 43 มิจฉาชีพวิ่งชนรถ

       แบบนี้เอง  จางเจียอี้มองอันนาด้วยสายตาที่เหมือนกำลังศึกษาสิ่งมีชีวิตนอกโลก การแข่งขันทั้งรายการ สามารถจ้องเขม็งไปที่คนคนเดียวได้ คนแบบนี้ต้องมีสมาธิแกร่งขนาดไหน  ฟู่ซีคนนั้นคือคนที่ร่วมเข้าแข่งขันรายการพรุ่งนี้ฉันจะเป็นซุปเปอร์สตาร์พร้อมกับหลานอัน เป็นลูกชายของฟู่เซ่าคัง (ประธานบริษัทแห่งหนึ่ง) รูปร่างหน้าตาดีมาก ปัจจัยอื่น ๆ ก็ใช้ได้ แต่เป็นคนไม่ซื่อสัตย์ รางวัลอันดับที่ 3 ในการแข่งขันนั้น พ่อเขาก็เป็นคนซื้อมา 

         แบบนี้นี่เอง  อันนาใช้มือเคาะสกอร์บอร์ด เหมือนได้กลิ่นเปลวไฟแห่งสงคราม รู้สึกคึกคักสนุกสนานขึ้นมาทันที พลางกะพริบตาโตมองไปที่จางเจียอี้แล้วพูดว่า  ผู้กำกับจาง ละครเรื่อง << ความฝันที่ล่องลอย >> นี่ขาดตัวละครไหนหรือเปล่า? 

        จางเจียอี้ถูกเธอมองจนรู้สึกตัวสั่นเทาแล้วพูดว่า  ขาด คุณจะเล่นบทรับเชิญไหมล่ะ? 

         อืม  อันนารีบผงกหัว ซู่หยางที่ยืนอยู่ข้างหลังรู้สึกว่างเปล่าไปทั้งหัว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของอันนาที่ร่วมวางแผนกับเขามากมายก่อนหน้านั้น เธอแค่พูดไปงั้น ๆ เองหรือ

         น่าทึ่งมาก นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมอันนาผู้น่าเกรงขาม จะมาร่วมแสดงละครทีวีเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้  จางเจียอี้รู้สึกตกตะลึง ละครเรื่องนี้อาจจะได้รับความนิยมอย่างมหาศาลก็ได้ นักแสดงรับเชิญที่มาไม่ใช่นักแสดงโนเนมแต่เป็นนักแสดงชื่อดัง หรือว่าจะถึงเวลาที่เขาจะได้แจ้งเกิดแล้ว? (คนเขียนบท : ไม่ คุณแค่ได้เกาะขาของเจาเยี่ย)  คุณจะมาแสดงบทนางเอกเหรอ? 

         ไม่ ๆๆ ฉันได้ยินซู่หยางบอกว่า ละครเรื่องนี้หานางเอกและนางรองได้หมดแล้วไม่ใช่เหรอ?  อันนาส่ายหัว ทำหน้าชั่วร้ายแล้วพูดว่า  หรือว่าคุณรู้สึกว่าคนที่หน้าตางามพริ้มเพราอย่างฉันคู่ควรกับบทนางเอกอย่างเดียว 

         คุณคิดมากไปแล้ว  จางเจียอี้ตบหน้าตัวเอง  งั้นคุณอยากจะแสดงบทอะไรล่ะ? 

         ฉันไม่รู้ สคริปต์ละครเรื่องนี้ฉันก็ไม่เคยอ่าน  อันนาขมวดคิ้ว แล้วก็ถามไปว่า  หรือไม่คุณก็จัดบทอะไรมาให้ก็ได้ ขอแค่เหมาะกับฉัน ทำให้ฉันสามารถมีโอกาสไปอยู่ในทีมงานนั้นเพื่อดูการแสดงของลูกชายฉันก็พอ 

         อืม ถ้าผมคิดได้แล้วจะให้คนเอาสคริปต์ไปให้คุณกับหลานอันทีเดียวเลย  มีการคิดคำนวณปรากฏขึ้นในดวงตาจางเจียอี้เล็กน้อย เพื่อนที่ดีทั่วไปก็มีไว้ให้เกาะนี่แหละ ดีเลย ในละครยังขาดคนเล่นบทฮองเฮาอยู่บทหนึ่ง

        กู้หลานอันตามมาถึงประตูทางออกแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจาเยี่ย ก็เลยขึ้นลิฟต์แล้วลงตึกไป ยืนอยู่หน้าประตูมองออกไปทั่วสารทิศคาดว่าจะโชคดี แต่คิดไม่ถึงว่าเจาเยี่ยจะไม่รอ กลับถูกแฟนคลับของใครก็ไม่รู้ที่อยู่ตรงประตูจ้องอยู่ (นักแสดงคู่สามชายที่น่าสงสาร ตั้งใจเปิดเผยเส้นทางการเดินทางให้แฟนคลับรู้ แต่แฟนคลับกลับเปลี่ยนใจเพราะคิดว่ามันผิดปกติ) รีบวิ่งล้อมเข้ามาทางเขา เขาจับหน้าผากอย่างระอา เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่ปลอดภัย แฟนคลับอาจจะเบียดกันจนเกิดอุบัติเหตุ กำลังจะวิ่งหนี ก็เห็นรถตู้ที่เจาเยี่ยที่ใช้เมื่อชาติที่แล้วขับมาพอดี ความคิดแวบขึ้นมาทันที แกล้งทำใบหน้าร้อนรนแล้ววิ่งออกไป

        เมื่อเห็นมีคนวิ่งตัดหน้ามา หลี่เสียวเหม่ย (ผู้ช่วยผู้จัดการผู้ชายของเจาเยี่ย) ก็รีบเหยียบเบรก มองว่าหยุดรถไกลจากเขาพอสมควร แต่ก็ยังได้ยินเสียงคนคนนั้นร้องว่า  อ๊าก  ดังออกมา

        เมื่อได้ยินเสียง เจาเยี่ยที่หลับอยู่ตลอดก็ลืมตาตื่นขึ้นมา มองผู้ช่วยผู้จัดการด้วยใบหน้าสับสนวุ่นวายแล้วถามว่า  เกิดอะไรขึ้น? 

         พี่เจา ผม…ผมชนถูกใครสักคน แต่เมื่อสักครู่ผมหยุดรถห่างจากเขามากเลยนะ ผม…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผม…  เสียวเหม่ยตกใจจนเสียสติ พูดจาติด ๆ ขัด ๆ

         ไม่เป็นไร อย่าพึ่งวิตก อาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพวิ่งชนรถขอค่าชดเชยก็ได้ อาจจะไม่ได้มีอะไรร้ายแรง ลงรถไปดูสถานการณ์ก่อน  เจาเยี่ยปลอบโยนเขา แล้วตัวเองก็นำหน้าลงจากรถ พอเห็นกู้หลานอันที่อยู่หน้ารถ มือกุมขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแล้ว ปากเขาก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ ถามด้วยเสียงเย็นชาว่า  กู้หลานอัน ทำไมเป็นนาย มาอยู่ตรงนี้นายคิดจะทำอะไรน่ะ? 

         เจาเยี่ย ทำไมเป็นนาย?  ราวกับไม่คาดคิดว่าคนที่ลงมาจะเป็นเจาเยี่ย กู้หลานอันประหลาดใจจนปากหุบไม่ลง  เมื่อกี้ฉันโดนแฟนคลับไล่ตาม รู้สึกกังวลจนรีบวิ่งออกมา ไม่คิดว่าจะถูกรถชนเข้า 

         เธอ…เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?  ผู้ช่วยผู้จัดการที่ตามลงมาถามด้วยเสียงตื่นตระหนก

         ไม่เป็นอะไร แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงยืนไม่ขึ้น  กู้หลานอันใบหน้าย่น

        เจาเยี่ยไม่แม้แต่จะมองดูเขา พลางคิดสิ่งที่เขาพูดว่าถูกแฟนคลับไล่ตาม พลางมองไปที่แฟนคลับที่ถือมือถือจำนวนไม่น้อยวิ่งล้อมเข้ามา แล้วรีบพูดกับผู้ช่วยผู้จัดการว่า  ขึ้นรถเร็ว เราต้องไปแล้ว  ก็นำหน้าขึ้นรถไป ผู้ช่วยผู้จัดการนึกว่าเขาเรียกให้ตัวเองประคองกู้หลานอันขึ้นรถ กำลังจะยื่นมือออกไปช่วย ก็เห็นกู้หลานอันหัวเราะคิกคักลุกขึ้นยืนเองแล้วพูดว่า  ผมลุกขึ้นเองได้ ผมยังมีขาอีกข้างที่ขยับได้ 

        ผู้ช่วยผู้จัดการ: …ต้นปีมานี้กระแสสังคมยิ่งอยู่ยิ่งตกต่ำ แม้แต่ดาราก็เริ่มเล่นเป็นมิจฉาชีพวิ่งชนรถขอค่าชดเชยกันแล้ว

         นายขึ้นมาทำไม?  ขับรถหนีจากการล้อมของบรรดาแฟนคลับอย่างรวดเร็วแล้ว เจาเยี่ยมองกู้หลานอันอย่างเมินเฉยแล้วถาม

         ไม่ใช่นายเรียกฉันขึ้นมาเหรอ?  กู้หลานอันทำหน้าใสซื่อ

         ฉันเรียกเสียวเหม่ย ต่อมรับรู้ของนายมีปัญหาแล้ว  เจาเยี่ยถอนสายตากลับมองออกไปยังที่ไกล ๆ คนที่ไร้ยางอายถึงขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเคยพบเคยเห็น

         จริงเหรอ? แต่คนที่นายชนจนบาดเจ็บคือฉันนะ นายไม่ให้ฉันขึ้นรถ งั้นนายเป็นพวกก่อเรื่องแล้วหนีเหรอ?  กู้หลานอันทำตัวน่าสงสารขึ้นมาทันใด  เจาเยี่ยนายเป็นถึงดาราชื่อดัง นายต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนคนทั่วไปสิ พอเกิดเรื่องนายก็ต้องมีความรับผิดชอบ ทำไมยังหัดหนีเหมือนคนอื่นเขา? 

         คำถามคือฉันได้ก่อเรื่องหรือยัง?  เจาเยี่ยจ้องเขาด้วยสายตาดุเดือด  กู้หลานอันนายอย่าคิดว่าฉันดูไม่ออกว่านายเป็นพวกวิ่งชนรถ 

         ใครเป็นพวกมิจฉาชีพวิ่งชนรถกัน?  กู้หลานอันหลบสายตา ถูกเปิดเผยแล้วก็ยังกัดฟันไม่ยอมรับ  ถึงอย่างไรฉันก็เป็นสาธารณชนคนหนึ่งจะแกล้งเป็นมิจฉาชีพให้รถชนได้ยังไงกัน? อีกอย่างนะ ถ้าฉันเป็นพวกมิจฉาชีพจริง ฉันจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บทำไม?  กู้หลานอันพูดพลางเอื้อมมือไปจับขา ทำท่าทางเหมือนเจ็บปวด

        เจาเยี่ยพ่ายแพ้ให้กับท่าทางแบบนั้นของเขา รีบถอนสายตาออกความรู้สึกเกือบพังทลาย  เมื่อกี้ขาที่นายจับไม่ใช่ข้างนี้นี่ 

         หืม? จริงเหรอ?  กู้หลานอันรู้สึกเขินอายอยู่ครู่หนึ่ง รีบเอื้อมมือไปจับขาอีกข้าง แต่พอแตะโดนปุ๊บก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อสักครู่ข้างที่ตัวเองจับจริง ๆ คือข้างไหน หน้าก็แดงขึ้นมาพลางชี้ไปที่ขาข้างที่ตัวเองจับตอนแรก ถามเจาเยี่ยอย่างมีความสุขว่า  นายแกล้งฉัน เมื่อกี๊ข้างที่ฉันจับจริง ๆ คือข้างนี้ 

         ฉันไม่ได้มีอารมณ์ขนาดนั้น ฉันแค่ไม่อยากเห็นนายแกล้งทำท่าทางแบบนั้นแล้วทำให้ผู้ช่วยผู้จัดการของฉันกังวล  เจาเยี่ยไม่ยอมรับสีหน้าเก็บอารมณ์ กู้หลานอันได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกหึงขึ้นมาทันที ความรู้สึกของผู้ช่วยผู้จัดการตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกลับได้ไปอยู่ในหัวเขา เขาจ้องเขม็งไปที่หลี่เสียวเหม่ยที่กำลังขับรถอยู่ ที่เห็นท่าทางของเขาแล้วกลับยิ่งเครียดขึ้นไปอีก ชาติที่แล้วเจาเยี่ยก็ปฏิบัติต่อเจ้าบอดี้การ์ดน้อยดีมาก (เจาเยี่ยทำดีกับหลี่เสียวเหม่ยเพราะว่าเขามาจากหมู่บ้านชนบท สภาพครอบครัวไม่ดี รอบตัวไม่มีญาติมิตร กู้หลานอันก็รู้ถึงสาเหตุนี้ แต่ตอนนี้เขาหึงขึ้นสมองอย่างสิ้นเชิง) ในชาตินี้ก็ยังดีกับเขาขนาดนี้

        รู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองจากเบื้องหลัง หน้าผากหลี่เสียวเหม่ยมีเหงื่อเย็น ๆ ผุดออกมา นี่เขาไปทำให้ใครขุ่นเคืองเนี่ย รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกำจัด ใครก็ได้มาช่วยเขาหน่อย

        สังเกตได้ถึงสายตาของกู้หลานอัน เจาเยี่ยมองและมองไปยังผู้ช่วยผู้จัดการที่นั่งอย่างกระสับกระส่าย แล้วถามกู้หลานอันว่า  กู้หลานอัน นายอยากจะทำอะไรกันแน่? 

         อะไร ทำอะไร? ฉันไม่ได้จะทำอะไร?  กู้หลานอันแสดงออกเหมือนไม่รู้เรื่อง

         ไม่ได้ทำอะไรแล้วนายวิ่งชนรถทำไม?  ถ้าไม่ใช่เพราะเจาเยี่ยสุขุมเยือกเย็นสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ คงโดนเขาบีบให้เป็นบ้าแน่ ๆ

 

เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi)

เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi)

Status: Ongoing

“พาดหัวข่าว! นักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม “กู้หลานอัน” ไม่เกี่ยงชายหญิง ขอแค่มีเงินก็พร้อมกระโจนเข้าใส่

ทำให้เพื่อนรักสุดทน จัดงานแถลงข่าว เพื่อเปิดโปงธาตุแท้ของเขา ส่งผลให้ยอดผู้ติดตามหายไปหลายล้านคนในพริบตา”

.

บนดาดฟ้าสูง ปรากฏร่างของชายหนุ่มหน้าตาดี ยืนเหม่อลอย น้ำตานองหน้า

ถ้อยคำก่นด่ามากมายสะท้อนก้องอยู่ในหัวของเขา กู้หลานอันหัวเราะทั้งน้ำตา…

ใช่แล้ว คนที่ทำลายชีวิตของเขา ก็คือ ‘เพื่อนรัก’ คนดีของเขานั่นเอง! มิตรภาพจอมปลอมจนถึงวินาทีสุดท้าย

.

ทว่า…ในตอนที่ทุกคนต่างหันหลังให้เขา กลับมีเพียง “เจาเยี่ย” คนรักของเขาเท่านั้น

ที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดว่าจะรักเขาตลอดไป… แต่กู้หลานอันไม่สามารถทนมองสภาพตัวเองตอนนี้ได้

และไม่อยากให้เจาเยี่ยลำบากเพราะเขาอีกต่อไป เขาจึงเลือกจบชีวิตลง ณ ตึกสูงแห่งนี้นี่เอง…

.

“หากชาติหน้ามีจริง…ฉันจะบอกรักนาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน”

.

นับว่าสวรรค์ยังไม่ใจร้ายกับเขามากนัก กู้หลานอันได้ย้อนเวลากลับมาในร่างตนเองเมื่อ 5 ปีก่อน เพื่อแก้ไขอดีตอันโหดร้าย

“ฉันกลับมาแล้ว เจาเยี่ย…”

“แต่…คงเพราะฉันเข้าหานายมากเกินไปสินะ นายถึงกลัวฉันขนาดนั้นน่ะ!!? ”

.

ปฏิบัติการตามจีบหนุ่มเย็นชาของนายซุปตาร์เกิดใหม่ จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้นี่เอง!

—————–

เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : Doufu

ประพันธ์โดย :  花亦北

ลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทยถูกต้องโดย : Glory Forever Co.,LTD (สนพ.กวีบุ๊ค)

บรรณาธิการ :วลีรัตน์ แทนคง

แปลภาษาไทยโดย :  จื่อหลงเอ๋อร์ 紫龙儿

พิสูจน์อักษร : รติรัตน์ หอมลา

—————–

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท