บทที่ 366 พลาดท่า
บทที่ 366 พลาดท่า
พลังวิญญาณแปลกประหลาด มันไม่ได้โจมตีร่างของทั้งสองคนโดยตรง!
มันหมุนวนสะเปะสะปะ กำลังภายในของพวกเขาแตกสลายไม่อาจกลับมารวมกันใหม่ได้
จุดทุ่นพลังถูกทำลาย กำลังภายในทั้งหมดสูญสิ้น
“ฮ่า ๆ! ดี! น้องอวี้ ฉันไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณของนายยังไงเลย!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวเฟยหู่ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาเลิกคิ้วมองมาอย่างซาบซึ้งใจ
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ารับ หันหลังเตรียมจากไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสบายดี
“คนจากพยัคฆ์เวหาน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
เห็นเขาตั้งท่าจะกลับ โจวเฟยหู่พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงโพล่งถามทันที
“นี่ เดี๋ยวก่อน! น้องอวี้ ตอนนี้หวังเหยียนปลอดภัยหรือเปล่า? ฉันได้ยินจากเฉียนเวยก่อนหน้านี้…”
“ตอนนี้เขาอยู่บ้านฉันเอง”
ไม่ทันได้พูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ตอบแทรกขึ้น เท้ายังคงสาวก้าวเดินออกจากชั้นใต้ดินแห่งนี้
“ดี…โชคดีมาก!”
โจวเฟยหู่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เหตุการณ์ก่อนหน้านี้นับว่าชวนให้เขาสิ้นหวังไม่น้อย!
…
เมื่อกลับมาถึงบ้าน อวี้ฮ่าวหรานอยู่หน้าประตู เขาได้ยินเสียงถวนถวนดังลอดออกมา
“ฮิฮิ ลุงหวังสุดยอดไปเลยค่ะ! เมื่อกี้หนูจับตามองไม่คลาดสายตาเลยนะ!”
เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงเริงร่า ไร้แววหวาดกลัว
“ฮ่า ๆ ไหนดูซิว่าอีกข้างเป็นยังไง”
หวังเหยียนหัวเราะลั่น ดูเหมือนจะกำลังเล่นมายากลให้เธอดูอยู่
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานเปิดประตูออก เขาก็หยุดมือทันที
“เอ๋? ลุงหวัง นิ่งไปเลยแฮะ”
ถวนถวนกำลังตื่นเต้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไป ใบหน้าเล็กของเธอพลันงอง้ำเล็กน้อย
“ต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก” อวี้ฮ่าวหรานอมยิ้มเผยความอ่อนโยน
“อื้อ…ได้…ได้เลย”
หวังเหยียนดูกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง เมื่อได้ยินคำเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเล่นมายากลต่อไป
ถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงกลที่เอาไว้ใช้หลอกเด็ก
เวลานี้เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของโจวเฟยหู่มากกว่า ขาดการติดต่อไปก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
อวี้ฮ่าวหรานหลุดขำเบา ๆ เดินไปนั่งข้างเขา
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า โจวเฟยหู่ปลอดภัยแล้ว นายกลับไปก็น่าจะได้เจอเขา”
อวี้ฮ่าวหรานนั่งมองหวังเหยียนเล่นมายากลอย่างจริงจังด้วยความเพลิดเพลิน ท่าทางดูผ่อนคลายกว่าก่อน
เมื่อหวังเหยียนรู้ว่าโจวเฟยหู่ปลอดภัยแล้ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ด้วยความสำนึกในบุญคุณ เขาจึงทุ่มเทเล่นมายากลให้เด็กหญิงดูเต็มที่
“ไหนทายสิครับว่าลูกบอลอยู่ถ้วยไหน?”
“อืม… ถ้วยนี้ค่ะ!”
สีหน้าเจ้าตัวน้อยเปี่ยมล้นสนใจ ครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนชี้ถ้วยที่คว่ำอยู่ด้านหนึ่ง
หวังเหยียนเปิดถ้วยออกพร้อมส่งยิ้ม ไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างใน
“โถ่! ทายผิดซะแล้ว” ถวนถวนว่าขึ้นอย่างเสียดาย
“ฮ่า ๆ จริง ๆ แล้วไม่มีลูกบอลทั้งสองถ้วยเลยต่างหากครับ” เขายิ้มและเปิดอีกถ้วยหนึ่งซึ่งไม่มีลูกบอลอยู่เช่นกัน
“หา…ลูกบอลไปไหนล่ะคะ?”
เด็กหญิงท่าทีงุนงง เป็นภาพที่ชวนให้อวี้ฮ่าวหรานพลอยยิ้มตาม
ชายคนนี้หลอกล่อเด็กเก่งจริง ๆ
หวังเหยียนหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตาเหลอหลาของเธอ
“ฮ่า ๆ อยู่ในกระเป๋าเสื้อของหนูเองไง”
“เอ๋?”
เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าและพบลูกบอลจริง ๆ!
“จริงด้วย! สุดยอดเลยค่ะ!”
กว่าจะเล่นมายากลเสร็จก็ล่วงเลยเวลาเย็นย่ำ หวังเหยียนจึงขอตัวกลับ ฝ่ายตรงข้ามบุกจู่โจมวันนี้ เขามีหลายสิ่งต้องจัดการ!
ตอนนี้สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว
อวี้ฮ่าวหรานลงไปส่งเขา โจวเฟยหู่รออยู่ด้านล่างแล้ว
“ถ้ามีเรื่องก็โทรหาฉันได้ทันที ฉันจะไปช่วยจัดการให้เอง” เขากำชับอีกฝ่ายก่อนกลับ
แม้จะไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หากเกิดเรื่องคับขันก็จำเป็นต้องออกโรง
“น้องอวี้ เรื่องครั้งนี้นายมีบุญคุณกับเรามากจริง ๆ!”
โจวเฟยหู่ก้าวออกมาตั้งท่าจะโค้งคำนับ หากแต่อวี้ฮ่าวหรานห้ามเอาไว้
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก แค่อย่าให้เรื่องพวกนี้รบกวนครอบครัวผมก็พอ”
เขาไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ หันหลังเดินกลับขึ้นไป
…
หลี่หรงเลิกงานกลับมาถึงบ้านตอน 6 โมงเย็น
“วันนี้เราเจรจาธุรกิจใหญ่กันค่ะ แต่ว่าฉันรีบกลับมาก่อน”
หญิงสาวว่าขึ้นอย่างมีความสุขทันทีที่เข้ามาในบ้าน เธอทุ่มเทบริหารบริษัทฮัวหรงมากว่าสองปี ตอนนี้กิจการขยายก้าวหน้า เธอย่อมดีใจเป็นธรรมดา
ถวนถวนเอ่ยขึ้นเช่นกัน แม้ท้องจะหิว แต่ก็ยังพูดอวดด้วยสีหน้าร่าเริง
“คุณน้า คุณน้า! ฟังถวนถวนนะ! วันนี้มีลุงพ่อมดมาบ้านเราด้วยแหละค่ะ เล่นมายากลเก่งมากเลย!”
“หืม?”
หลี่หรงงุนงงเมื่อได้ฟัง
“อ่อ เพื่อนพี่มาขอให้ช่วยบางอย่างน่ะ แต่ว่าเรียบร้อยแล้วล่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานอธิบาย
“อ๋อ”
หลี่หรงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ
เธอไม่คิดระแวงผู้ชาย หากเป็นผู้หญิงแวะมาที่บ้าน เธอต้องซักไซ้อยู่นานแน่นอน
“นั่งพักก่อนสิ เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรรองท้องให้”
ทั้งครอบครัวรวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้สองตัวต่างรอกินข้าวกัน เธอรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของตนเอง หลังนั่งพักได้ครู่หนึ่งจึงเข้าครัว
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกผิดเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาจึงเข้าไปช่วยเธอ
“ตั้งแต่พรุ่งนี้จ้างแม่บ้านมาดีกว่านะ เธอต้องดูแลบริษัทแล้วยังต้องมาทำอาหาร…”
ไม่ทันเขาได้พูดจบ หลี่หรงก็หันโพล่งบอก “ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาดพี่เขย!”
เธอยืนกรานหนักแน่น
“ฉันทำอาหารเองได้! ไม่ลำบากเลย”
เธอทำแบบนี้เป็นกิจวัตร ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตแต่อย่างใด ต่อให้เธอมีเวลาว่าง เธอก็เอาแต่ดูซีรีส์เกาหลีอยู่ที่บ้าน
“อื้อ…ก็ได้”
อวี้ฮ่าวหรานตกใจเล็กน้อย เขาไม่เข้าว่าเหตุใดเธอจึงค้านหัวชนฝาขนาดนี้เขาจึงล้มเลิกความคิดและเดินออกจากห้องครัวไป
ต่อให้เขาจะเป็นมหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพ แต่ก็ไม่มีปัญญาทำอาหารได้ไม่สามารถทั้งเมื่อสามหมื่นปีก่อน และสามหมื่นปีต่อมา
ตกดึกคืนนั้น…
หลังจากโจวเฟยหู่กลับมา เขาก็เรียกรวมตัวสมาชิกทั้งหมด รวมถึงกลุ่มย่อยที่รวบรวมมาได้ก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมการตอบโต้กลับ
อีกฟากหนึ่ง กงซุนซากำลังเล่นหมากรุกกับหลิวอวี้จิงในคฤหาสน์
เมื่อได้ข่าวการพ่ายแพ้ของเฉียนเวย กงซุนซาก็ชะงักมือที่กำลังขยับหมากกลางอากาศอยู่นาน
ก่อนที่ข่าวร้ายอีกเรื่องจะมาเยือน หวังเหยียนยังรอดชีวิตอยู่!
ถือเป็นการพลาดท่าจนหมดรูปของปฏิบัติการครั้งนี้!
“โอ้…ดูเหมือนฉันจะประมาทฝ่ายตรงข้ามเกินไปซะแล้ว”
กงซุนซาทำได้เพียงทอดถอนใจ
หลิวอวี้จิงหน้าบูดบึ้ง สายตาส่อแววไม่สบอารมณ์
“ถ้าจะให้พูดตามจริง นายลงมือฆ่าเองก็ได้นี่ ทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย?”
เมื่อตรองดูแล้ว ด้วยระดับการฝึกตนของเขา มันเพียงพอที่จะบดขยี้หวังเหยียนแล้ว!
เหตุใดต้องวางแผนให้วุ่นวาย?
“ฮ่า ๆ นายเคยเห็นคนคุมเกมหมากลงเล่นหมากรุกเองไหมล่ะ? ถ้าฉันลงมือเองก็คงจะถอนตัวออกมาลำบากน่ะสิ”
กงซุนซาส่ายหน้าพลางยิ้มขำ ไม่สนใจความคิดของอีกฝ่าย
“นั่นแหละ ส่งคนไปเล่นงานพวกเขาก่อน ถ้าแผนล่มค่อยลงมือหนักกว่านี้”