พวกเขาจะไปตามคำเชิญดีหรือไม่? แต่เมื่อหันกลับไปก็พบกับใบหน้าอันคุ้นเคย อีกฝ่ายคือพระสองรูปที่ฉีเฉิงเฟิงสะกดรอยตาม!
หือ? พวกท่านสองคนอยากจะดื่มชากับพวกเราจริง ๆ อย่างงั้นหรือ? ซูหวานหว่านเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
ใช่ พูดจบพระสองรูปก็เดินมายืนประกบซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิง ราวกับไม่ต้องการให้พวกเขาหนีไปไหนได้
ซูหวานหว่านเดินไปที่ห้องน้ำชา หลังจากนั้นก็นั่งลงและเอ่ยกับเด็กในร้านว่า ขอชาที่เป็นของขึ้นชื่อของร้านเจ้ามา ขนมมาสองสามจาน! แล้วก็เมล็ดแตงโมด้วย!
พระสองรูปต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าเหตุใดซูหวานหว่านถึงสั่งชาและขนมมากินอย่างใจเย็น หรือนางคิดว่าพวกเขาเชิญนางมานั่งดื่มน้ำชาจริง ๆ อย่างงั้นหรือ? พวกเขารู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย กำลังจะถามฉีเฉิงเฟิงว่าทำไมถึงต้องสะกดรอยตามพวกเขามา ทว่าซูหวานหว่านก็พลันพูดออกมาอีกครั้งว่า พี่ใหญ่ เหตุใดเจ้าจะต้องแอบหลบหนีมาแบบนี้! พี่สะใภ้ของข้ารอเจ้ามาสามวันแล้ว และขู่ว่าจะประกาศตามหาหากยังหาเจ้าไม่เจอ!
ฉีเฉิงเฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อรู้ว่าซูหวานหว่านหมายถึงอะไรจึงเล่นละครตอบ ข้าเบื่อนางเหลือเกิน! ข้าไม่อยากกลับไป! ข้าเกือบจะถูกจับได้เมื่อวานนี้แล้ว ทว่าข้าหนีหัวซุกหัวซุนด้วยกลัวว่านางจะเจอตัวเข้า! ข้ารู้ว่าหากเอาแต่หลบหนีนางก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เจ้าช่วยกลับบ้านแล้วไปเอามาเงินให้ข้าได้หรือไม่ พวกเราจะได้ไปหาโรงเตี๊ยมนอนพักสักสองสามวันให้สบายเนื้อสบายตัว?
เมื่อได้ฟังการสนทนาระหว่างซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิง พระรูปหนึ่งก็ไอออกมาและพูดกับฉีเฉิงเฟิงว่า คุณชายท่านนี้ เมื่อเช้าท่านเดินตามอาตมาด้วยเหตุอันใด มีจุดประสงค์อะไรหรือ?
ข้าตามท่านงั้นหรือ? ท่านตื่นตระหนกไปเองหรือเปล่า! เมื่อคืนข้าถูกภรรยาของข้าตามตัว ไม่ง่ายเลยที่จะหนีออกมาได้ ตอนเช้าข้าไม่มีที่ไป ทั้งยังไม่มีเงินติดตัว มันก็แค่นั้นเอง! ฉีเฉิงเฟิงพูดออกมา พร้อมกับยกชาขึ้นจิบ
ซูหวานหว่านยกชาขึ้นจิบพร้อมกับกินขนมและถามออกมาว่า พวกท่านคงไม่รู้หรอกว่าพี่สะใภ้ของข้านั้นเข้มงวดแค่ไหน! ในเมื่อพวกเราถูกลิขิตมาเจอกันแล้ว และดูเหมือนพวกท่านทั้งสองก็ดูเหมือนจะมีเงินอยู่บ้าง ถ้าไม่เป็นอะไรข้าขอยืมเงินมาใช้สักยี่สิบหรือสามสิบตำลึงได้หรือไม่
สองพี่น้องนี้ต้องการยืมเงิน? ที่แท้เพราะไม่มีเงินถึงได้สะกดรอยตามพวกเขามา! พระรูปหนึ่งพลันหยิบเอาเงินออกมาพร้อมกับพูดออกมาว่า เงินและขนมนี้ข้าให้พวกท่านสองคนพี่น้อง! รีบไสหัวออกไปซะ! อย่ามารบกวนพวกเราอีก!
ท่าทางของเขาสองคนดูน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นพระจริง ๆ หรือไม่ ทว่าซูหวานหว่านยังไม่จากไป นางจะต้องเล่นละครให้จบ! อีกทั้งยังอยากกินขนมที่นี่ แต่พวกพระสองรูปนี้ดูถูกผู้อื่นจากภายนอก ดูจากที่ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงที่ใส่เสื้อผ้าที่ไม่มีค่าไม่มีราคา ดังนั้นพวกเขาก็เลยเรียกคนมาไล่พวกเขาทั้งสองคนจากร้าน!
หลังจากเดินออกมาจากโรงน้ำชาแล้ว ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงเดินเคียงคู่กันไป หญิงสาวกระตุ้นให้เขาพูดเกี่ยวกับคดีใหญ่ที่ไปรู้มา แต่ว่าฉีเฉิงเฟิงก็ยังไม่ยอมพูด เพียงแค่ขยิบตาใส่ซูหวานหว่านพร้อมกับส่งสัญญาณให้กับนาง ซูหวานหว่านเลยแกล้งทำเป็นคลุมผ้า แล้วเหลือบไปมองด้านข้าง พลันพบว่าพระสองรูปนั้นกำลังเดินตามพวกนางมา
พวกเขายังไล่ตามพวกนางอยู่หรือ? ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั้นจะไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดที่โรงน้ำชา! ซูหวานหว่านครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพูดออกมาเสียงดังว่า ท่านพี่! ข้าจะพาท่านไปสถานที่ดี ๆ
หลังจากนั้น หญิงสาวหยิบถุงเงินออกมาแล้วพูดว่า ข้าแอบขโมยเงินมาจากบ้าน หากนำไปรวมกับเงินที่ได้จากลาหัวโล้นนั่น มันก็น่าจะเพียงพอใช้กันอย่างมีความสุขสักวันหรือสองวัน
นางเดินตรงไปยังชุ่ยชุนโหลว และเมื่อเดินเข้าไปข้างในร้าน ซูหวานหว่านก็เหลือบมองกลับไปข้างหลังเห็นพระสองรูปนั้นหมุนตัวเดินกลับไปแล้ว
ทั้งสองไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปในชุ่ยซุนโหลวโดยเฉพาะซูหวานหว่านที่กำลังจะดึงฉีเฉิงเฟิงออกมาจากร้าน แต่ว่าฉีเฉิงเฟิงกลับดึงซูหวานหว่านและพูดกับสตรีนางหนึ่งที่เดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสอง ข้าต้องการห้องที่แพงที่สุด ขนมจานหนึ่ง และขอสาวสวยมาบรรเลงดนตรีให้ฟังด้วย
แม้จะเห็นการแต่งกายของทั้งสองที่ธรรมดา ผู้ดูแลร้านก็ดีใจมากที่ทั้งสองคนมาใช้บริการ แต่เขาก็สงสัยว่าทั้งสองคนจะมีเงินจ่ายหรือไม่ จึงพูดออกมาว่า ข้าขอโทษที่ต้องพูดจาเช่นนี้ด้วย แต่ว่าค่าเปิดห้องมีราคาที่…
ก่อนจะเอ่ยจบ ฉีเฉิงเฟิงพลันหยิบเงินออกมาและยื่นให้กับนาง สตรีนางนั้นรับเงินไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้เลยว่าพวกท่านจะเป็นคุณชาย! พวกท่านสองคนเชิญทางนี้เลยเจ้าค่ะ!
พูดจบนางก็เดินนำไปที่ห้องรับรอง สั่งให้คนค่อยปรนนิบัติรับใช้พวกเขา ซูหวานหว่านก็มองไปรอบ ๆ ห้องสักพัก เมื่อไม่เห็นผู้ใดนางจึงถามขึ้นมาทันทีว่า คดีใหญ่คืออะไร? พระสองรูปนั้นเกี่ยวอะไรกับคดีนี้? สิ่งนี้มันรบกวนจิตใจข้านัก
พวกเขาไม่ใช่พระ ฉีเฉิงเฟิงยกมือขึ้นเพื่อรินชาแล้วยกขึ้นจิบ เจียเหวินข้องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์! และสองคนนั้นเป็นคนหาผู้ชายมาขายให้กับเจียเหวิน ถ้าเจียเหวินเบื่อที่จะเล่นแล้ว พวกเขาก็จะขายชายคนนั้นอีกทีหนึ่ง และที่พวกเขาสองคนโกนผมก็เพื่อปกปิดสิ่งสกปรกที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังทำอยู่
ทั้งสองคนนั้นมีหน้าที่หาผู้ชายมาให้เจียเหวิน พวกเขาทำเรื่องสกปรกมากมาย ซูหวานหว่านเลิกคิ้วขึ้น คดีใหญ่ที่เจ้าว่ามาก็คงไม่มีเพียงเรื่องนี้ใช่ไหม?
ฮูหยินเป็นคนฉลาดมาก ฉีเฉิงเฟิงก็พยักหน้า สองคนนั้นเริ่มเลี้ยงเด็กผู้ชาย และแอบผูกมัดเขากับลูกชายคนเล็กของซุนซ่างชูอย่างลับ ๆ หากพวกเราช่วยเด็กที่ว่าออกมา เมืองโจวก็คงจะสงบสุขมากกว่านี้
ดังนั้นเพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหามากมายให้กับนาง ฉีเฉิงเฟิงจึงตามคนเหล่านั้นมาตลอดทั้งคืน เรื่องนี้ทำให้หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่น หญิงสาวพูดว่า แล้วตอนนี้เจ้าสามารถหาเบาะแสของลูกชายคนเล็กของซุนซ่างชูได้แล้วหรือยัง?
ยังเลย แต่ว่าร้านนี้ถูกเปิดโดยตระกูลเจีย ข้าว่าพวกเราน่าจะหาเบาะแสบางอย่างได้… ฉีเฉิงเฟิงพูดขึ้นมา ทันใดนั้นก็เห็นเงาอยู่ตรงประตูพร้อมกับทำท่าทางให้ซูหวานหว่านเงียบลงก่อนจะกระแอมออกมา เขาตบโต๊ะหนึ่งทีและเอ่ยเสียงดัง คนไปไหนกันหมด! เหตุใดยังไม่มีคนมาคอยรับใช้อีก!
เอี๊ยด
ประตูห้องได้ถูกเปิดออก พลันใดนั้นก็มีชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับปรบมือ ปรากฏกลุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่งเดินตามเขาเข้ามาข้างหลัง คุณชาย มีสตรีสาวสวยมากมายที่หอนี้ ข้าหวังว่าจะทำให้ท่านพอใจ!
ข้าไม่สนใจ! ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา ชายหนุ่มขับไล่ทุกคนออกไป การกระทำของเขาทำให้ชายชรารู้สึกเป็นกังวลพร้อมกับถามออกมาว่า คุณชาย ไม่ทราบว่าท่านต้องการแบบแบบใด? ข้าจะเรียกสาว ๆ ในหอนี้ทั้งหมดมาให้ท่านเลือกเอง ท่านจะว่าอย่างไร?
ไม่จำเป็น ฉีเฉิงเฟิงส่ายหัวออกมา พร้อมกับยืนขึ้นทันทีและพูดด้วยเสียงที่เบาว่า สิ่งที่ข้านั้นชอบมันแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ๆ
ไม่เหมือนกับคนอื่น? ชายชราก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างทันที สตรีที่เป็นผู้ดูแลปิดปากของตัวเอง นางหัวเราะพร้อมพูดออกมาว่า คุณชาย เช่นนั้นข้าจะไปเรียกคนมาค่อยปรนนิบัติท่านให้นะเจ้าคะ
ไม่ต้องหรอก ข้าจะไปเลือกเอง ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยออกมาเบา ๆ แล้วฉุดซูหวานหว่านให้ลุกขึ้นพร้อมกัน ในที่สุดซูหวานหว่านก็เข้าใจจุดประสงค์ของฉีเฉิงเฟิงแล้ว นี่มันเป็นวิธีการที่ฉีเฉิงเฟิงเข้ามาหาเบาะแส!
คุณชาย เชิญทางนี้เจ้าค่ะ ผู้ดูแลร้านยิ้มและพาพวกเขาทั้งสองไปยังสถานที่หนึ่ง
เมื่อเดินผ่านมามุมหนึ่ง ซูหวานหว่านก็เห็นชายคนหนึ่งเข้า นางพยายามจะหลีกเลี่ยงแต่ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวและพูดออกมาว่า สองคนนี้มาใหม่อย่างงั้นหรือ? นำพวกเขาไปหาคุณชายเพื่อไปทดสอบเสีย
ซูหวานหว่านมองเห็นคนที่นั่งอยู่ในม่าน หัวใจของนางพลันเต้นแรง นั่นใช่เจียเหวินหรือไม่?
เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่พูดอะไร เจียเหวินก็ยื่นมือออกเพื่อถอดผ้าคลุมของซูหวานหว่านออก เจ้าเป็นอะไรไป อายงั้นหรือ? ข้าต้องการเห็นว่าพวกเจ้านั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร!
ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นภายในใจของซูหวานหว่าน หากเจียเหวินพบว่าเป็นนางและฉีเฉิงเฟิง เขาจะต้องไม่มีวันปล่อยให้พวกนางทั้งคู่รอดไปได้เป็นแน่!