สถานการณ์ในตอนนี้คืออะไรกัน?
ซูหวานหว่านตื่นตกใจ ซุนรุยถูกวางยาพิษแต่ว่านางไม่ได้เป็นคนวางยาเขาเสียหน่อย! จะมาจับตัวนางไปตัดหัวได้อย่างไร?
ซูหวานหว่านกลอกตาไปมา หญิงสาวยืนขึ้นแล้วพูดออกมาว่า ข้าได้ยินมาว่าซุนซ่างชูเป็นคนยุติธรรม แต่ว่าดูจากตอนนี้คงจะไม่ใช่อย่างที่คนอื่นพูดกันแล้วกระมัง!
คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างต่างตกใจเมื่อได้ยินคำที่ซูหวานหว่านพูดออกมา กล้าขัดคำของซุนซ่างชู! นี่ถือเป็นความผิดอันใหญ่หลวง!
เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ซุนซ่างชูกล่าวออกมาอย่างโกรธจัด เจ้าวางยาพิษลูกชายของข้า ยังจะกล้าพูดจาสามหาวกับข้าอีกงั้นรึ หากข้าอยากฆ่าเจ้า มันจะเป็นความผิดอะไร?
ยาพิษ? ท่านไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำว่าข้าเป็นคนวางยาลูกชายของท่าน เช่นนี้มันจะไม่น่าขันไปหน่อยเหรอหากจะพูดออกมา! กล่าวจบซูหวานหว่านก็พยุงร่างของซุนรุยขึ้ยมาก่อนจะกดลงไปที่ท้องของเขา จากนั้นนางก็เปิดกล่องอาหารที่ซุนฉางอานเป็นคนนำมา หยิบขนมหนึ่งชิ้นที่ถูกกัดไปแล้วขึ้นมา คุณชายซุนรุยต้องกินบางอย่างเข้าไป ไม่เช่นนั้นท้องของเขาคงจะไม่บวมขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นขนมที่นำมาเขากินไปเพียงนิดเดียว ถึงแม้ว่ามันจะมีพิษก็ตาม เขาก็อาจจะแค่หมดสติไป! ท่านซุนซ่างชูควรสั่งให้คนใช้ค้นหาบริเวณรอบ ๆ ในจวนว่าอาหารที่คุณชายซุยรุยเพิ่งกินเข้าไปแล้วจริง ๆ มันคืออะไรกันแน่ ตรวจสอบดูว่าสิ่งเหล่านั้นมีพิษหรือไม่
หึ! เจ้ายังไม่ยอมรับอีก! ก็ดี! ข้าจะทำให้เจ้ายอมรับออกมาเอง! หลังจากซุนซ่างชูพูดอย่างนั้นออกมา เขาก็ได้เรียกคนใช้มาให้เขาไปเชิญตัวหมอมาทดสอบพิษทันที
หากแต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง หมอและคนรับใช้คนหนึ่งก็พลันวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาภายในห้อง คุณชายเล็กซุนกำลังจะโดนเจ้าฆ่า โชคดีที่ข้ายังอยู่ที่นี่
หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าโดนข้าฆ่า? เจ้าควรทดสอบพิษนี้เสียก่อน! ซูหวานหว่านเอ่ยตอบ จ้องมองไปยังหมอคนนั้นด้วยความไม่พอใจ นางเป็นลูกศิษย์ของฮวงเหล่า แน่นอนว่านางมีความสามารถในการใช้เข็ม สามารถแยกชนิดของพิษแต่ละอย่างได้ และนางก็มองออกในทันทีว่าขนมในกล่องไม่มีพิษ!
ฮึ่ม! ก็ได้ข้าจะพิสูจน์ความจริงให้เห็น จากนั้นค่อยมาพูดเรื่องนี้กันอีกที! สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือรักษาอาการป่วยของคุณชายซุนรุยก่อน! หมอคนนั้นจ้องมองไปที่ซูหวานหว่านและนำยาต้มสีดำที่เตรียมเอาไว้มาให้กับซุนรุยดื่ม
ซูหวานหว่านยืนลอบสังเกตอยู่ข้าง ๆ ทันใดนั้นนางก็ได้กลิ่นยาที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังจากที่นางดมแล้วก็ร้องออกมาว่า เจ้าให้เขาดื่มยานี้ไม่ได้! เจ้าพยายามจะฆ่าเขา!
ซุนรุยบังเอิญกินดอกม่านถัวหลัว*[1] เข้าไป พิษของมันทำให้ซุนรุยมีอาการประสาทหลอนราวกับเขาป่วยเป็นโรคอี้เจิ้ง*[2] ตอนนี้เขาหมดสติไปได้ไม่นาน ยาต้มที่หมอนำมามีส่วนผสมของม่านถัวหลัว มันไร้ประโยชน์และจะทำให้อาการของเขาแย่ลงไปอีก!
หากแต่หมอคนนั้นก็ไม่หยุดการกระทำของตนเอง ทำให้ซูหวานหว่านยิ่งรู้สึกกังวล นางแย่งยามาไว้กับตนเองก่อนจะเทมันลงพื้นทันที ตอนนี้ร่างกายของคุณชายซุนรุยร้อนและกระหายน้ำมาก เราควรเช็ดตัวให้เขาด้วยสุรา หมอต้มตุ๋นอย่างเจ้าจะให้เขากินยาบ้าอะไร!
หลังจากนั้นซูหวานหว่านก็มองไปที่ซุนซ่างชูด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว ท่านซุนซ่างชู ได้โปรดขอให้คนนำเหล้ามาโดยเร็วที่สุดด้วย!
ซุนซ่างชูไม่ฟังคำพูดของซูหวานหว่าน เขาต้องการถามอีกฝ่ายเรื่องที่นางเทยาต้มทิ้งไป ซุนฉางอานจึงพูดแทนขึ้นมาว่า ท่านพ่อคงจะยังไม่รู้ว่าคุณชายเป่ยฉวนนั้นก็เป็นหมอ…
อายุเพียงเท่านี้จะไปน่าเชื่อถือได้อย่างไร! เฮอะ! ข้า… ก่อนที่ซุนซ่างชูจะพูดจบจู่ ๆ ซูหวานหว่านก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพร้อมกับชุบน้ำในถัง ก่อนเช็ดบนหน้าผากของซุนรุย ทันใดนั้นคิ้วที่ขมวดแน่นของซุนรุยก็คลายลง ทำให้ซุนซ่างชูรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อยและท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป ช่างเถอะ! ในเมื่อเจ้าเป็นหมอ ข้าจะเชื่อใจเจ้าดูสักครั้ง!
เมื่อนำเหล้ามาแล้ว ซูหวานหว่านใช้มันเช็ดไปทั่วร่างกายของซุนรุย ทำให้อุณหภูมิร่างกายของซุนรุยลดลงเล็กน้อย ส่งผลให้ซุนซ่างชูรู้สึกสบายใจยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้แสดงท่าทางออกมาแต่อย่างใด และยังคงคิดว่าซูหวานหว่านเป็นฆาตกร
ในขณะเดียวกันหมอก็เริ่มหาพิษในขนม เขาหยิบมันขึ้นมาชิ้นหนึ่งและพูดว่า ใต้เท้า ในขนมนี้มียาพิษขอรับ!
เหลวไหล! นางตรวจสอบมันดีแล้ว! มีพิษที่ไหนกัน? ซูหวานหว่านโกรธเคืองอย่างมาก นางลุกขึ้นเดินเข้าไปบิดข้อมือของหมอคนนั้น ทำให้ขนมที่อยู่ในมือตกลงไปบนพื้น ขนมตกลงบนพื้นทำให้มีผงสีขาวกระจายไปทั่ว! ซูหวานหว่านยิ้มเยาะเย้ยออกมา ขนมของนางไม่มีผงสีขาว!
ซูหวานหว่านพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เจ้าจะเอามันออกมาเองหรือว่าจะให้ข้าเป็นคนนำมันออกมา?
เจ้าอยากให้ข้านำอะไรออกมา? ในตัวของข้าไม่ได้มียาพิษ! หมอคนนั้นเกิดตื่นตระหนกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ห่อกระดาษสีเหลืองพลันร่วงออกจากข้อมือของเขา ซูหวานหว่านหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็วและกางออก โรยผงสีขาวลงไปยังขนม หญิงสาวมองหารูหนูในจวน จากนั้นก็นำขนมไปวางเอาไว้ ผ่านไปครู่หนึ่งหนูที่ได้กลิ่นของขนมหวานก็วิ่งออกมากินมันทันที ทว่าหนูตัวนั้นกินไปเพียงไม่กี่คำก็ล้มลงนอนชักกระตุกอยู่บนพื้น!
นี่มันคือยาพิษไม่ใช่เหรอ? ทุกคนตื่นตกใจ!
หมอคนนั้นอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรดี ซูหวานหว่านสะบัดมือเล็กน้อยพร้อมกับหยิบขนมในกล่องขึ้นมาแล้วกินเข้าไปหนึ่งชิ้น ถ้าขนมของข้ามีพิษอยู่ แน่นอนว่าหากข้ากินข้าไป ข้าจะต้องตาย!
ซูหวานหว่านกล่าวออกมา และซุนฉางอานก็ช่วยพูดออกมาอีกแรงว่า คุณชายเป่ยฉวยเป็นคนที่มีจิตใจดี เป็นคนตรงไปตรงมา ข้าได้ยินมาว่าเมื่อสองสามวันก่อนมีคดีใหญ่ได้รับการแก้ไขก็เป็นเพราะคุณชายเป่ยฉวนมาช่วย ท่านพ่อกำลังโทษคนผิด หมอคนนี้ไม่ใช่หมอของเมืองเรา ถ้าพวกเราบังคับถามเค้นความจริงจากเขา แน่นอนว่าความลับจะต้องถูกเปิดเผยออกมาแน่ ๆ!
เฮอะ! ซุนซ่างชูเหลือบมองหมอคนนั้นที่กำลังยืนตัวสั่นเทาด้วยสายตาไตร่ตรอง และพูดออกมาเบา ๆ ว่า ข้าคร้านเกินกว่าจะเค้นถาม! ลงโทษเขาทันที! หากเขายังไม่ยอมสารภาพออกมา ข้าจะให้เขาลิ้มลองเครื่องทรมานของจวนซุนของข้าทั้งหมด ดูสิว่าเขาจะทนได้สักกี่น้ำ!
ไม่นะขอรับใต้เท้า เมื่อได้ยินแบบนี้หมอคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ จวนของตระกูลซุนนั้นมีเครื่องทรมานมากมาย เขาเคยเห็นเครื่องทรมานหลายครั้งในห้องขัง เพราะเขาช่วยตรวจสอบร่างกายของนักโทษ!
เครื่องมือทรมานเหล่านั้นอันตรายถึงชีวิต
หมอคนนั้นหยุดครุ่นคิดไปชั่วครู่ แต่ทันใดนั้นก็มีมีดยาวมาวางไว้ตรงบ่าของเขา ใบหน้า แขน รวมทั้งร่างกายของเขากำลังจะถูกหั่นออกเป็นชิ้น ๆ หมอคนนั้นตื่นตกใจและพูดออกมาอีกครั้งว่า อย่าใช้เครื่องมือทรมานกับข้าเลย! ข้ายอมพูดแล้ว! ข้าพูดแล้ว!
รีบพูดออกมา ซูหวานหว่านเตะไปที่ขาของหมอคนนั้น เขาหยุดร้องทันใดแล้วรีบพูดออกมาทันทีว่า ข้าตาบอดไปชั่วขณะเพราะเห็นแก่เงิน! มีคนเอาเงินมาให้ข้าร้อยตำลึงเพื่อให้ข้าใส่ร้ายคุณชายเป่ยฉวน! แล้วยังสั่งให้ข้าทำร้ายคุณชายซุนรุยอีกด้วย…โดยให้ข้าวางยาพิษเขา
หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปเอาดอกม่านถัวหลัวที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมา ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ม่านถัวหลัวที่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเอามาให้ข้า แล้วเมื่อวานที่คุณชายซุนมีอาการหนาวสั่น และท่านใต้เท้าก็สั่งให้คนมาตามข้าไปดูอาการป่วย ข้าได้นำดอกไม้มาด้วยและคุณชายซุนก็ดูเหมือนจะชอบเลยขอ และนั่น…
ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง? ซูหวานหว่านพูดขัดจังหวะขึ้นมาอย่างเหลืออด
คนที่อยู่เบื้องหลัง… เขาไม่กล้าพูด! แต่ก็พูดออกมาด้วยใบหน้าขมขื่นว่า ซุนซ่างชู! ข้าผิดไปแล้วขอรับ! ปล่อยข้าไปเถอะ!
จะปล่อยเขาไปได้ยังไง? น่าขันเสียจริง!
ซูหวานหว่านถอดหมวกไม้ไผ่ของนางออกมาพร้อมกับขยิบตาให้ซุนฉางอาน เขาพูดขึ้นมาว่า เอาล่ะในเมื่อเจ้าก็เป็นหมอและเจ้าก็ได้ช่วยชีวิตคนเอาไว้มากมาย ก็ถือว่าชดเชยเรื่องนี้ไปแล้วกัน! ข้าจะปล่อยเจ้าไป!
ซุนฉางอานพูดบางอย่างกับซุนซ่างชูสองสามคำ ซึ่งซุนซ่างชูก็ตอบตกลงเห็นด้วย ก็ได้
เมื่อได้ยินแบบนี้ หมอคนนั้นก็ก้มหน้าก้มตาหนีไปทันที!
นางจะปล่อยคนที่อยู่เบื้องหลังที่วางแผนทำร้ายนางไปได้อย่างไรกัน! ซูหวานหว่านตามหมอคนนั้นออกไปในทันที ส่วนซุนฉางอานแอบกังวลเล็กน้อยว่าซูหวานหว่านจะได้รับอันตราย ดังนั้นเขาจึงตามไปด้วย!
————————————————————————————————
[1] 曼陀罗花 ดอกม่านถัวหลัว หรือ เรียกอีกอย่างว่าดอกลำโพง มันเป็นดอกไม้ธรรมดาบ้าน ๆ ก็จริงแต่พิษของมันก็ร้ายมากเช่นกันสารพิษพบได้ทุกส่วนในต้น แต่พบมากสุดในใบและเมล็ด อันตรายสุดก็ในเมล็ด ถ้าเผลอกินหรือโดนพิษเข้าไปจะแสดงอาการภายในเวลา 5-10 นาที ปากและคอจะแห้ง กระหายน้ำรุนแรง เริ่มพูดไม่ชัด ปวดศีรษะ มีไข้ หายใจติดขัด ตาแข็ง ตาพร่า ผิวหนังร้อนแดงและแห้ง กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน ถ้าหนักหน่อยจะเริ่มสับสน มึนงง ตื่นเต้น มีอาการประสาทหลอนทั้งหูและตา บางคนอาจมีพฤติกรรมคล้ายโรคจิต เพ้อฝันเหมือนเป็นโรคอี้เจิ้งนั่นเอง
[2] โรคประสาทฮิสทีเรียและบุคลิกภาพผิดปกติแบบฮิสทีเรีย ในทางแพทย์จีนเรียกชื่อว่า อี้เจิ้ง (癔症) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากร่างกายได้รับปัจจัยทางจิตวิทยาอย่างชัดเจน เช่น ปัญหาชีวิต สภาวะทางจิตใจที่ได้รับการกระทบกระเทือนหรือการแสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรง ภายใต้การถูกกระทบด้านจิตใจจากผู้อื่น สภาวะแวดล้อมรอบตัว และสภาวะภายใจจิตใจของตัวเอง มักเกิดในคนที่อ่อนไหวได้ง่าย