เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 228 เข้าไปในบ้านตระกูลเฉียว

ตอนที่ 228 เข้าไปในบ้านตระกูลเฉียว

ตอนที่ 228 เข้าไปในบ้านตระกูลเฉียว

 เจ้ายังคงเด็กนัก แต่ปากของเจ้ากลับเก่งกล้าถึงเพียงนี้!  หลี่หม่ายกเก้าอี้มานั่งมองดูซูหวานหว่านลงมือทำอาหาร  เจ้าทำให้ดีก็แล้วกัน ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะสามารถทำได้หรือไม่ หากทำไม่ดีล่ะก็ อย่ามาโทษข้าที่หาคนมา ‘ดูแล’ เจ้าก็แล้วกัน! 

ซูหวานหว่านไม่ได้สนใจนางและตั้งใจปรุงอาหาของตนเองต่อไป ซูหวานหวานทำอาหารหนึ่งอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่าง และของหวานอีกหนึ่งอย่าง

หากแต่คนอื่นทำอาหารออกมาหลากหลายจาน แต่ละคนน่าจะสิบจานได้

หลังจากที่ซูหวานหว่านทำอาหารเสร็จนางวางมือลง และยืนมองดูคนอื่น ๆ จากนั้นก็มีคนอื่นมองไปที่จานเมนูของซูหวานหว่าน เมื่อเห็นว่านางทำอาหารเพียงไม่กี่อย่างก็พูดออกมาอย่างเหยียดหยามว่า  เหตุใดเจ้าถึงทำอาหารเพียงไม่กี่อย่าง? 

 ทำเพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับฮูหยินแล้ว  ซูหวานหว่านเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ

เมื่อทุกคนยินดังนั้นก็พากันหัวเราะเยาะ หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันก็เอ่ยขึ้นมา  แม่นาง เจ้าไม่รู้หรือว่าตระกูลเฉียวค้าขายเกลือ! เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมั่งคั่ง ทำอาหารเพียงไม่กี่อย่างไม่เพียงพอหรอก! เจ้ารีบทำอาหารเพิ่มอีกสักสองสามอย่างคงจะดีกว่า! 

 ไม่  ซูหวานหว่านส่ายหัว นางได้ศึกษามาอย่างดีแล้ว ฮูหยินเฉียวชอบกินอาหารที่มีรสชาติเบา และนางก็เป็นคนกินง่าย อีกทั้งนางยังเป็นคนที่ขยันและประหยัดราวกับสาวชนบท แต่นายท่านเฉียวกลับรักและทะนุถนอมนางมากกว่าใคร ผิดกับภรรยาคนที่สองของนายท่านเฉียวที่เกิดในเมืองหลวงที่รักสบาย นางใช้เงินห้าร้อยตำลึงเงินต่อวันสำหรับค่าอาหารการกินและค่าเสื้อผ้าของนาง เพราะเหตุนี้นางจึงไม่ค่อยเป็นที่โปรดโปรนจากนายท่านเฉียวเท่าไรนัก

 หึ ทุกคนอย่าพยายามเกลี้ยกล่อมนางเลย นางโง่เขลาเกิดกว่าจะเข้าใจในส่งที่เจ้าพูด  หลี่หม่าพูดพลางหัวเราะออกมา จนกระทั่งผ่านไปสักพัก จู่ ๆ ก็มีชายวัยกลางคนสวมชุดผ้าซาตินสีดำปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้องครัว  หลี่หม่า อาหารเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง? 

 โอ้! นั่นพ่อบ้านหวังใช่หรือไม่ เหตุใดท่านถึงเป็นคนมาเรียกเองเล่า! ข้ากำลังจะให้พวกเด็ก ๆ ยกอาหารขึ้นไปพอดีเลย!  นางเผยรอยยิ้มประจบสอพลอ

ซูหวานหว่านรู้สึกสะอิดสะเอียนเมื่อเห็นใบหน้าที่แสแสร้งนั้น หากแต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และเลือกจะไปรอคำตอบพร้อมทุกคนอยู่ที่ลานบ้าน

เมื่อหลี่หม่าเห็นพ่อบ้านหวังเดินจากไปแล้ว ก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมานิ่งเฉยเช่นปกติ  ทุกคน ข้าขอเตือนทุกคนอีกครั้ง! หากฮูหยินโปรดอาหารของผู้ใด เจ้าจะต้องเป็นมิตรที่ดีต่อข้าเช่นกัน ไม่เช่นนั้น… ข้าจะทำให้พวกเจ้าอยู่บ้านหลังนี้ไม่ถึงเจ็ดวันเลยคอยดู! 

หลี่หม่าเองก็เป็นเพียงคนรับใช้ แต่เหตุใดถึงกล้ามาวางอำนาจบาตรใหญ่ได้เช่นนี้ หรือว่านี่คือการลักกินเงินของคนอื่นของนาง ซูหวานหว่านพึมพำอยู่ภายในใจ

เมื่อหลี่หม่าเห็นท่าทางของซูหวานหว่าน นางก็รู้สึกไม่พอใจจึงเดินเข้าไปหาและพูดว่า  เจ้า รีบไสหัวออกไปซะ! เจ้าคอยฟังประกาศได้เลย มันจะต้องไม่มีชื่ออาหารของเจ้าอย่างแน่นอน เพราะว่าเจ้าทำเครื่องปรุงเกลือและน้ำตาลผสมเข้าด้วยกัน! เจ้าจะสามารถทำอาหารให้อร่อยได้เช่นไร 

 ข้าก็ไม่ได้อยากทำงานร่วมกับเจ้านักหรอก อ้างตนเองว่าเป็นคนเก่าแก่มาเบ่งอำนาจใส่ผู้อื่นแบบเจ้า หากเจ้าอยากให้ข้าไป ข้าก็จะทำตามคำสั่งเจ้า  ซูหวานหวานขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และลุกขึ้นยื่นเตรียมเดินออกไปทันที

หลี่หม่ามองแผ่นหลังของซูหวานหว่านกำลังเดินออกไป นางรู้สึกพอใจขึ้นมาเล็กน้อย  ฮึ่ม! นี่คือจุดจบของคนปากดีกับข้า! 

ทันทีที่นางพูดจบก็เห็นพ่อบ้านหวังเดินเข้ามาและเอ่ยขึ้น  ใครเป็นคนทำอาหารสี่จานนั้น น้ำแกงหนึ่งและของหวาน ฮูหยินเฉียวชอบมันมาก ขอเชิญตัวเข้าไปคุยข้างใน 

 ว่าอย่างไรนะ!  หลี่หม่าและทุกคนต่างตกตะลึง!

หลี่หม่าไม่อยากจะเชื่อจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า  ท่านพูดว่าอย่างไรนะ? ท่านช่วยพูดใหม่อีกครั้งได้หรือไม่? 

ดังนั้นพ่อบ้านหวังจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า  ใครเป็นคนทำอาหารสี่อย่างนี้ น้ำแกงหนึ่งและของหวานหนึ่งอย่าง ฮูหยินชื่นชมอย่างมาก 

 ฮะ!  หลี่หม่ากรีดร้องออกมาและชี้ไปที่แผ่นข้างหลังของซูหวานหว่านซึ่งกำลังเดินออกไป และพูดว่า  นั่น… นางเป็นคนทำ! 

สีหน้าของหลี่หม่าพลันเปลี่ยนไปในทันที นางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  สาวน้อยคนนั้นนางคงไม่อยากทำแล้ว ทัศนคติของนางแย่มาก ข้าเลยขับไล่นางออกไป พ่อบ้านหวังช่วยโปรดเข้าใจหน่อยได้หรือไม่ …ท่านบอกไปว่าเป็นฝีมือของคนอื่นทำจะได้หรือไม่? อย่างไรคนพวกนี้ก็สามารถทำอาหารเหล่านั้นได้! 

 หากคนอื่นสามารถทำอาหารพวกเหล่าได้ เหตุใดฮูหยินเฉียวถึงไม่ชอบอาหารที่คนอื่นทำล่ะ?  พ่อบ้านหวังมองไปที่หลี่หม่าด้วยสายตาเย็นชา  ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ฟังนะ อย่ามาวางอำนาจว่าเป็นคนเก่าคนแก่! เจ้าคิดว่าการที่เจ้าอยู่ดูแลตระกูลเฉียวมาเป็นเวลาสี่สิบปี เจ้านายจะภูมิใจในตัวเจ้างั้นหรือ? เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเรื่องสกปรกที่เจ้าทำไว้งั้นหรือ ข้าจะบอกอะไรนะ! ฮูหยินเฉียวมีสุขภาพไม่ดี นายท่านเฉียวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เจ้ารีบไปตามตัวหญิงคนนั้นแล้วพานางกลับมาหาข้า! 

 ข้า…  หลี่หม่าก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและรีบวิ่งออกไปในทันที  แม่นาง! เดี๋ยวก่อนสิ! 

หลี่หม่าคิดว่าซูหวานหว่านคงเดินออกไปจากบ้านแล้ว แต่นางกลับพบว่าซูหวานหว่านกำลังเดินเพลิดเพลินอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล ราวกับว่านางรู้อยู่แล้วว่าตนจะต้องมาตามนางไปหลี่หม่าส่งเสียงไอออกมา พร้อมกับยื่นมือไปจับไหล่ของหญิงสาวเอาไว้  แม่นาง อาหารของเจ้าได้รับความโปรดปรานจากฮูหยินเฉียว เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก รีบกลับไปรับของกำนัลเถอะ 

คิดว่านางไม่ได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านหวังนั้นพูดออกมาอย่างงั้นหรือ? …นางได้ยินเป็นอย่างดีเชียวล่ะ!

ซูหวานหว่านหันไปมองนางสายตาเยาะเย้ย หากแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาและเดินกลับเข้าไปข้างในทันที พ่อบ้านหวงเดินนำพาซูหวานหว่านเข้าไปในห้องโถง แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดเดินพร้อมพูดว่า  หลี่หม่า เจ้ามีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องในครัวก็ควรจะตามมาด้วย แล้วจดจำสิ่งที่ฮูหยินชอบอะไรเอาไว้ ต่อไปจะได้เอาไว้ทำให้ฮูหยินได้ 

 เอ่อ…  หลี่หม่าเกิดอาการลังเลขึ้นมา นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อต้องตามซูหวานหว่านเข้าไป จึงพยายามหาข้ออ้างในปฏิเสธออก แต่ก็โดนพ่อบ้านหวังจ้องมาด้วยสายตาดุร้าย  ยังไม่รีบมาอีก! ต่อไปเจ้าจะต้องฟังคำสั่งของแม่นางคนนี้! 

 เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว!  หลี่หม่ารีบตอบ หากแต่สายตากลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ ซูหวานหว่านก็เห็นสตรีนางหนึ่งสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยนั่งกินอาหารอยู่บนโต๊ะ มันเป็นอาหารและขนมจานที่นางทำ

เมื่อเห็นซูหวานหว่านเดินเข้ามา หญิงคนนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยความสุข  แม่นาง เจ้าเป็นคนทำอาหารทั้งหมดนี้เองหรือ? บอกข้าทีว่าเจ้าทำได้อย่างไร เหตุใดมันถึงได้อร่อยมากขนาดนี้ 

 ข้าต้องขอบคุณฮูหยินเฉียวที่ชื่นชอบอาหารของข้า  ซูหวานหว่านโค้งตัวทำความเคารพนาง หญิงสาวเหลือบมองหลี่หม่าด้วยสายตาเอาเรื่อง ทำให้หลี่หม่าสะดุ้งตกใจ

ซูหวานหว่านจึงพูดออกมาว่า  ข้าดีใจมากที่ฮูหยินเฉียวชอบอาหารจานข้า แต่เกรงว่าข้าคงจะไม่มีโอกาสทำอาหารให้ฮูหยินเฉียวทาน 

 ทำไมล่ะ?  ฮูหยินเฉียวรู้สึกประหลาดใจและถามออกมาด้วยความสงสัย ส่วนหลี่หม่ารู้สึกกระสับกระส่ายเลยรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันทีพร้อมทั้งพูดว่า  ฮูหยิน! ท่านจะปล่อยให้นางมาทำอาหารให้ท่านทานไม่ได้นะเจ้าค่ะ! ตอนที่นางทำอาหารข้าแอบเห็นว่านางได้ถุยน้ำลายลงใส่ในน้ำแกงด้วย! 

น่าสนใจมากที่คนเก่าคนแก่ชอบใช้วิธีเช่นนี้กัน ซูหวานหว่านกลอกตาไปมาพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งว่า  เรื่องจริงเป็นอย่างไร เจ้ารู้ดีแก่ใจ 

ซูหวานหว่านพูดออกมาอีกครั้งว่า  ดูเหมือนว่าตระกูลของฮูหยินเฉียวจะมีสุนัขรับใช้บางตัวที่ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ หวังเอาความดีความชอบเข้าตัวเอง นางได้แอบผสมเกลือในน้ำตาลที่ข้านั้นเตรียมเอาไว้ ไม่ง่ายเลยที่จะแยกเกลือกับน้ำตาลออกจากกันได้ กว่าจะได้จานอาหารนี้ออกมาช่างลำบากยิ่ง ถ้าหากในอนาคตที่ข้าต้องทำอาหารแล้วต้องมาแยกเกลือออกจากน้ำตาลทุกวัน ข้าเกรงว่าสายตาของข้าจะทนไม่ไหวเอาได้ 

ร่ายกายของหลี่หม่าสั่นสะท้าน  เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่! 

พ่อบ้านหวังที่ยืนอยู่ด้านข้างทนไม่ไหวจึงพูดออกมาว่า  หุบปากซะ! 

ดูเหมือนฮูหยินเฉียวจะรับรู้สถานการณ์อะไรบางอย่างขึ้นมา นางพลันพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า  ลากตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป เอานางไปขายซะ! 

ใบหน้าของหลี่หม่าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา  ฮูหยินเฉียวได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยเถอะ! ข้าน้อยผู้นี้ผิดไปแล้ว! ข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว! 

แต่ฮูหยินเฉียวไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น  รีบนำตัวนางออกไป! 

ทันทีที่หลี่หม่าถูกพาตัวออกไปในห้องโถงนี้ก็ดูสะอาดขึ้นมาก ฮูหยินเฉียวจึงยิ้มออกมา  ช่วงนี้เจ้าสามารถมาทำอาหารที่บ้านของข้าได้อยู่หรือไม่? 

 หากจะให้ข้ามาทำอาหารให้ท่านก็ย่อมได้ แต่ว่าข้ามีเงื่อนไข  ซูหวานหว่านเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง ซูหวานหว่านกล้าดียังไงถึงตั้งเงื่อนไข!

ตระกูลเฉียวนั้นเป็นถึงตระกูลการค้าเกลือ! ความร่ำรวยไม่ต้องพูดถึง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ก็แค่เป็นแม่ครัวคนเดียว เหตุใดเย่อหยิ่งจองหองได้ขนาดนี้!

คนใช้ที่ยืนอยู่ในห้องโถงต่างจ้องมองไปที่ฮูหยินเฉียวและรู้สึกกังวลแทนซูหวานหว่านขึ้นมาทันที

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท