ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] – บทที่ 239

บทที่ 239

บทที่ 239

คำแนะนำของจางจี้ทำให้ถังหยินเริ่มคิดใหม่ ความขุ่นเคืองในใจเริ่มหายไป ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดขึ้น  ถ้าว่าตามที่เจ้าพูดมา กองทัพของเราควรจะต้องถอนตัวทันทีเพื่อหันไปรับมือกับกองกำลังที่ว่านั่นสินะ ? 

 ไม่จำเป็นขนาดนั้นขอรับ เท่าที่ข้าทราบมา อีกฝ่ายนั้นได้ยู่เต๋านำทัพ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้เป็นกองกำลังที่เข้มแข็งขนาดนั้น ดังนั้นนายท่านก็แค่ส่งแม่ทัพที่ไว้ใจได้ไปจัดการก็น่าจะพอแล้ว  จางจี้กล่าว

 ถ้างั้น ใครจะเป็นคนไป ?  ถังหยินพยักหน้าให้แล้วมองรอบ ๆ

เป็นมูฉิงและเหลียงฉีที่ก้าวออกมาพร้อมกัน  ข้าน้อยยินดีที่จะไปขอรับ  เมื่อพูดจบพวกเขาก็มองหน้ากัน

ทั้งสองถือได้ว่าเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ ไม่ว่าจะส่งใครไปทุกอย่างก็ราบรื่นอยู่ดี  ครั้งนี้ข้าจะให้แม่ทัพมูไปก็แล้วกัน เจ้าต้องการทหารเท่าใด ? 

การโจมตีเมืองฮวยหยางที่ยู่เต๋าอยู่ไม่ต่างอะไรกับการเข้ายึดครองมณฑลจินกวง และถึงถังหยินจะมีตำแหน่งที่สูงกว่า แต่เขาก็ยังกังวลถึงพื้นเพของพวกตระกูลเหลียงอยู่ดี

 ข้าน้อยต้องการเพียงแค่ 1 แสนนายเท่านั้น !  มูฉิงกล่าว

 ถ้างั้นข้าฝากให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกันแม่ทัพมู 

 ไว้ใจ้ข้าได้เลยนายท่าน ! 

ถังหยินหันมาปลอบเหลียงฉี  ตอนนี้พวกเรายังมีศึกหนักอยู่กับพวกหนิง เจ้ามากับร่วมกับข้าเพื่อปกป้องเมืองกันเถอะ 

เหลียงฉีไม่ได้กล่าวอะไร เพียงก้มหน้าแล้วเดินถอยกลับ พร้อม ๆ กับในใจของเขาที่รู้ดีว่าถังหยินไม่ได้ไว้ใจตัวเองเต็มร้อย ซึ่งการจะเอาชนะใจของชายหนุ่มมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

จากนั้นก็เป็นชิวเจิ้นที่กระซิบ  ข้าได้ยินว่าท่านจับพวกหนิงมาได้ ตอนนี้พวกเขายังอยู่ที่เมืองหรือไม่ ? 

 ถูกต้อง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? 

ชิวเจิ้นหัวเราะแล้วเปลี่ยนหัวข้อทันที  แล้วท่านได้ทำสัญญาอะไรไว้กับจ้านอู่ฉางบ้างหรือไม่ ? 

หลังจากอีกฝ่ายถามเช่นนั้น ถังหยินก็ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดออกไป ซึ่งมันก็รวมไปถึงเรื่องที่พวกหนิงต้องถอยกลับไปเป็นเวลา 10 วันแล้วจึงจะปล่อยนักโทษที่เหลือ

ถ้าเป็นก่อนหน้า กองทัพหยิงคงจะดูน่ากลัวยิ่งสำหรับพวกเขา แต่เมื่อได้กำลังมาเสริม คนพวกนั้นมันก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไปแล้ว หากแต่จะให้ปล่อยตัวประกันไปเลยก็ไม่ดี ด้วยตัวเขานั้นติดใจยั่วหลิงเข้าให้แล้ว ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้พูดออกไปว่า

 ยั่วหลิงเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงมาก นางไม่ใช่คนธรรมดา ข้าว่าเราควรจะเก็บนางเอาไว้ใช้ประโยชน์ดีหรือไม่ ?  ชายหนุ่มถาม

ชิวเจิ้นถอนหายใจ เขารู้ดีถึงต้นสายปลายเหตุของคำพูดนี้ เพราะอัยเจียได้บอกเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จับได้หรือตอนที่ทรมานนาง ทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าถังหยินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ในฐานะแม่ทัพใหญ่ เรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในทิศทางไหน มันก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อทุก ๆ คนในกองทัพไม่มากก็น้อย …อย่างเช่นเรื่องในตอนนี้

เด็กหนุ่มคิดแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะกล่าวต่อ  นายท่านไม่ควรจะทำเรื่องแบบนี้ให้เป็นเรื่องเล่นนะ การสนิทกับศัตรูเช่นนี้จะทำให้นายท่านเป็นขี้ปากชาวบ้านได้ ท่านไม่คิดถึงผลของมันบ้างหรือ ? 

ถังหยินแอบรำคาญกับคำแนะนำของเพื่อนคนนี้  พวกหนิงมันก็ทำเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ แล้วมันต่างกันตรงไหน ? 

ดูท่าคุยประเด็นนี้ต่อไปคงจะไม่เหมาะ ชิวเจิ้นจึงเลือกที่จะเปลี่ยนบทสนทนา

 สำหรับศัตรูแล้ว นายท่านควรจะยึดมั่นในคำสัญญานะ ถ้าท่านผิดคำล่ะก็ มันจะทำให้ชื่อเสียงของท่านกลายเป็นชื่อเสียได้ 

คำพูดของเขาถูกต้อง ด้วยถ้าเกิดพวกหนิง เอาเรื่องที่ถังหยินเป็นพวกกระหายในกามมักมากในหญิงไม่เว้นแม้แต่น้องสาวของเจ้าจอมแห่งแคว้นหนิงไปกระจายข่าว มันก็จะทำให้ชาวเฟิงที่ได้ยิน มองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป และพาลไม่ยอมรับให้เขาขึ้นเป็นอ๋อง ต่อให้จะโค่นล้มซ่งเทียนได้แล้วก็ตาม

เมื่อได้ยินแบบนั้น ถังหยินก็หายข้องใจทันที และเริ่มคิดได้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิด

ในตอนนี้เอง ก็เป็นจางจี้ที่เข้ามาช่วยเสริม  สิ่งที่ท่านชิวพูดมาก็ถูกต้องนะขอรับ ชื่อเสียงมีผลต่อการรวบรวมผู้คนยิ่งนัก และหากท่านผิดสัญญา มันก็จะทำให้ไม่มีใครอยากเข้าร่วมกับพวกเรา 

ไม่ใช่แค่ตำแหน่งอ๋อง เพราะแม้แต่กับพวกลูกน้องของเขาเองก็อาจไม่เชื่อใจชายหนุ่มอีกต่อไป

หลังจากได้ยินคำของจางจี้ ถังหยินก็ส่ายหัวแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนไป ซึ่งมันก็เรียกสายตาประหลาดใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงชัวน่าด้วย

 ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะปล่อยพวกเขาไป อย่ามองข้าแบบนั้นสิ 

 ท่านทำถูกต้องแล้ว  ชิวเจิ้นก้มหัวแล้วกล่าวชมเชย

ถังหยินไม่ใช่พ่อพระแต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา เขายอมรับทุกความคิดที่จะทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น

หลังจากรับฟังคำแนะนำนั่นแล้ว ถังหยินก็เลือกที่จะปล่อยยั่วหลิงและชุยหลิงไป

ซึ่งในตอนนี้หญิงสาวก็ยังอยู่ที่เต็นท์ของนาง ดังนั้นถังหยินจึงได้ส่งคนไปพาตัวมา

และเมื่อทราบเรื่องดังกล่าว เย่เหล่ยจึงได้ติดตามมาด้วย เพราะกลัวว่าถังหยินจะลงมือข่มขืนนางอีก

นางไม่รู้ว่าถังหยินต้องการอะไรถึงได้ให้นางมาที่กระโจมกลางนี้ แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย ยั่วหลิงก็พลันหลบหน้าแล้วจับมือหมอสาวเอาไว้แน่น ทำให้ถังหยินที่เห็นแบบนั้นหงุดหงิดขึ้นมา  ไม่ต้องถามมาก ข้าจะส่งเจ้ากลับไปยังค่ายพวกหนิง 

 จริงหรือ ?  ยั่วหลิงตัวสั่นและดีใจมากจนเผลอจ้องเขากลับ

 อะไร ? หรือว่าเจ้าอยากอยู่กับข้าจนไม่อยากกลับแล้ว ?  ถังหยินถือโอกาสแกล้งสักหน่อย

ยั่วหลิงหน้าแดงและพยายามจะด่ากลับไป แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่านั่นจะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายลงจึงได้เงียบปากเอาไว้

เย่เหล่ยที่เห็นแบบนั้นก็ออกโรงปกป้องนาง  เจ้าจะปล่อยนางไปจริง ๆ หรือ ? 

 แน่นอนอยู่แล้ว  ถังหยินยิ้มให้

 ยังดีที่เจ้ามีเหตุผลล่ะนะ  เย่เหล่ยพูดจบก็หันมาบอกยั่วหลิง  ไม่ต้องห่วงนะ ถังหยินเป็นคนรักษาสัญญา เขาไม่หลอกเจ้าหรอก 

ยั่วหลิงรู้สึกใจเย็นลงมาบ้างก็จริง แต่นางก็ไม่เชื่อใจเขาอยู่ดี

ถังหยินแอบรู้สึกขำในใจ ที่ในสายตาของเย่เหล่ยแล้ว เขาเป็นดั่งจอมมารผู้โฉดชั่วชนิดที่ให้อภัยไม่ได้

เขาเดินออกมาสองก้าวแล้วบอกกับยั่วหลิง  เมื่อเจ้ากลับไปแล้วจงไปบอกจ้านอู่ฉางด้วยว่า ข้า ถังหยินกำลังรออยู่ที่นอกเมืองจินฮั๋ว ! 

เมื่อได้ยินแบบนั้นนางก็มีสีหน้าประหลาดใจ หากแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป

 นั่นแหละคือคำพูดทั้งหมดของข้า อ้อใช่ รถม้ามาแล้วนะ กำลังอยู่ที่หน้าประตูเลย ระวังตัวด้วยล่ะ  เขาจ้องนางลึกลงไปในดวงตาแล้วเดินไปที่เต็นท์ของตน  บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกครั้งก็ได้นะ ฮ่าฮ่า 

เมื่อเห็นถังหยินกำลังเดินออกไป ยั่วหลิงก็พลันกัดฟันแน่นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

ถังหยินไม่ได้โกหกเลย เพราะรถม้าได้รอจอดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าเรียบร้อยแล้ว และเมื่อชุยหลิงกับยั่วหลิงถูกพาตัวขึ้นไป ก็เป็นชุยหลิงที่ร้องถามออกมา พร้อมกับคว้ามือของสหายข้างตัวมาจับไว้แน่น  อีกแล้วเหรอ ? พวกเขาจะพาเราไปไหนกัน ? 

ยั่วหลิงที่รำคาญท่าทีขี้ขลาดของอีกฝ่าย ก็ได้สะบัดมือแล้วพูดออกไปว่า  เจ้าจะกลัวอะไรอีก ? พวกเราจะได้กลับบ้านแล้ว ! 

 จริงหรือ ?  ชุยหลิงพูดเสียงสั่น

ยั่วหลิงขี้เกียจจะพูดอีก เลยทำเมินไป

ไม่นานนักรถม้าก็ออกจากค่ายพวกเฟิงแล้วตรงไปยังกองทัพหนิงที่อยู่ทางใต้

ไม่มีใครพูดคุยกันเลยระหว่างทาง และเพียง 2 วันรถม้าก็ถึงค่ายพวกหนิงแล้ว

เมื่อได้ยินว่าตัวประกันถูกพามาส่งคืนแล้ว สองพี่น้องจ้านก็โล่งอกและออกมาต้อนรับอย่างดี

รถม้าถูกล้อมเอาไว้ด้วยทหารหนิงมากมาย นำโดยแม่ทัพของพวกหนิง และเมื่อเปิดเข้ามาดูในรถม้าจนแน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่ถูกจับไป พวกเขาก็ได้พูดขึ้นว่า  พวกเราจะพานางไปเอง เจ้าไปได้แล้ว ! 

เมื่อได้ยินแบบนั้น คนขับรถม้าก็วนรถกลับไปตามคำขอ ก่อนเป็นยั่วหลิงที่หันมาพูดกับทหารข้าง ๆ ว่า  ท่านแม่ทัพ ข้าขอยืมดาบท่านหน่อย ! 

 

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

Status: Ongoing

สุดยอดนักฆ่าผู้แสนเย็นชานามว่า ถังหยิน เขาได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างที่เปลืองเปล่า ณ ต่างโลก ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้าร่วมกับสงครามแบบงง ๆ และนี่ก็คือก้าวแรกของราชันเทพสงครามผู้ที่กำลังขึ้นผงาดและเปลี่ยนโลกใบใหม่นี้ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท