เย่จิ่งหานแสยะยิ้มเย็นชา สิบแปดกลุ่ม
ดูแล้วคนที่อยากได้กระดิ่งทลายวิญญาณมีเยอะเหมือนกันนะ
เจี่ยงเสวียจะพูดแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง
“ว่ามา”
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยยังเห็นว่า มีคนกลุ่มหนึ่งแอบปกป้องคุณหนูสามกู้ลับๆ คนพวกนั้นมีฝีมือการต่อสู้ระดับยอด ไม่แพ้พวกเราเลย ข้าน้อยสืบอยู่นานก็สืบไม่ได้เลย ข้าน้อยยังใช้สำนักรู้ฟ้าแล้วด้วย”
เย่จิ่งหานหรี่ตาลง หมุนแก้วชาหยกขาวในมือเล่นอย่างน่าสนใจ
สำนักรู้ฟ้ามีชื่อเสียงพอๆกับหอหนึ่งในหล้า ทุกข่าวสารทั่วทุกที่ในพระนครต่างก็ปิดบังพวกเขาไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นชั้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
คนที่สำนักรู้ฟ้ายังสืบไม่ได้ งั้นก็ต้องเป็นคนของหอหนึ่งในหล้า หรืออาจจะเป็นคนที่ได้รับการปกป้องจากหอหนึ่งในหล้า
กู้ชูหน่วน เจ้าเป็นอย่างแรก หรืออย่างหลังกันนะ
คุณหนูสามในจวนเฉิงเซี่ยงผู้ไม่ได้รับความโปรดปราน?
เหอะ……
ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วทำไมถึงมีคนคอยปกป้องเจ้าล่ะ?
ไก่อ่อนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้?
เขารับรู้ทุกเหตุการณ์ในงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น
เย่จิ่งหานนึกถึงงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น กู้ชูหน่วนแสร้งเป็นหมู เพื่อหลอกกินเสือ ชนะเงินการเดิมพันมากมาย แถมยังหลอกอ๋องเจ๋อจนหัวหมุน เขาก็กระตุกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
รอยยิ้มและท่าทีของนาง ประทับอยู่ในสมองของเขาโดยไม่รู้ตัว
เย่จิ่งหานไม่เคยรู้เลยว่า คนคนหนึ่งจะน่าสนใจได้ขนาดนี้
“สืบต่อไป ถ้าสืบไม่ได้ ก็ไปสืบจากตัวอี้เฉินเฟย” เย่จิ่งหานพูด
อี้เฉินเฟย?
เซียนกวีแคว้นจ้าว ท่านชายสามสำนักหรูเจีย?
เขากับคุณหนูสามกู้จะมีความสัมพันธ์อะไรกัน?
เจี่ยงเสวียสงสัย แต่ก็รู้ว่า ในเมื่อท่านอ๋องสงสัยอี้เฉิยเฟย งั้นความสัมพันธ์ของคุณหนูสามกู้กับเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“ถอนกำลังคนของเราออกมา”
“ถอนออกมา? ท่านอ๋องหมายความว่า ไม่ต้องแอบปกป้องคุณหนูสามกู้แล้วเหรอขอรับ?”
ตอนนี้มีคนมากมายอยากได้กระดิ่งทลายวิญญาณนั่น ถ้าไม่มีคนปกป้อง เกรงว่าคุณหนูสามกู้จะเป็นอันตรายได้
“ในเมื่อสืบอำนาจเบื้องหลังของนางไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้พวกนั้นเปิดเผยตัวตนเอง” แววตาเย่จิ่งหานประกายไปด้วยความเย็นชา และกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
เมื่อคืนเขาตั้งใจให้คนสองกลุ่มที่อ่อนที่สุดไปแย่งกระดิ่งทลายวิญญาณ ด้วยความฉลาดของนาง น่าจะเดาได้แล้วว่า ขอแค่มีกระดิ่งทลายวิญญาณอยู่ในมือหนึ่งวัน นางก็จะมีอันตรายตลอดเวลา
“ท่านอ๋อง พ่อบ้านบอกว่า เมื่อคืนเหลียนไท่เฟยมา ร่ำไห้บอกว่าคุณหนูสามกู้ตั้งใจทำให้อ๋องเจ๋ออับอายในงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น ยังชนะเงินทั้งหมดของอ๋องเจ๋อไปอีก เหลียนไท่เฟยอยากให้ท่านอ๋องให้ความเป็นธรรมขอรับ”
“ไล่ออกไป บอกพวกเขาว่า ติดค้างกู้ชูหน่วนเท่าไหร่ก็จ่ายมาให้หมด ยังมีองค์หญิงตังตังอีก สั่งคนไปบอกด้วย”
“ขอรับ……”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียปาดเหงื่อ
พวกเขามาเชิญท่านอ๋องให้ความเป็นธรรม ท่านอ๋องกลับไล่คนออกไปแบบนี้ ไม่ไว้หน้ากันเลย
“เตรียมสำรับเช้าด้วย ข้ากับกู้ชูหน่วนจะทานพร้อมกัน”
“ข้าน้อยไปเรียกคุณหนูสามขอรับ”
ชิงเฟิงรีบวิ่งออกไป กลัวว่ากู้ชูหน่วนจะออกจากจวนเสียก่อน
เจี่ยงเสวียเข็นรถเข็นของเขา ออกจากสวนดอกไม้ช้าๆ
ณ ศาลาในสวนดอกไม้
กู้ชูหน่วนมองดูเย่จิ่งหาน แล้วมองดูอาหารบนโต๊ะ รู้สึกสงสัย
“ทำดีหวังผล เย่จิ่งหาน เจ้าอยากทำอะไรอีก?”
“ก็ต้องขอบคุณเจ้าน่ะสิ”
“ขอบคุณ?”
กู้ชูหน่วนหัวเราะ
ถ้าอยากขอบคุณนางจริงๆ เมื่อคืนทำไมต้องให้เจี่ยงเสวียคอยจับตามองนางไม่ให้นางหลับด้วยล่ะ
แม้ในอาหารจะไม่มีพิษ แต่นางก็รู้สึกอาหารมื้อนี้ไม่น่ากินเลย