“เจ้าบอกแล้วไง ขอแค่ชนะพวกเขาแปดคนได้ก่อนที่ข้ารับใช้จะนำตัวชิวเอ๋อร์ออกไป เจ้าจะไม่ลงโทษเรื่องที่ข้าเที่ยวหอนายโลมและชิวเอ๋อร์อีก เป็นถึงเทพสงคราม คงไม่ได้คืนคำพูดของตัวเองหรอกนะ”
กู้ชูหน่วนไม่แน่ใจ นางมองทุกคนออก แต่มีเพียงเย่จิ่งหานที่นางมองไม่ออก นัยน์ตาสีดำคู่นั้นของเขา ไม่ขยับเลยสักนิด เดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่
สักพักใหญ่ นานมากจนกู้ชูหน่วนคิดว่าเย่จิ่งหานจะคืนคำพูด เขาก็ถึงพูดขึ้นช้าๆ
“เรื่องนี้ให้มันผ่านไป ถ้ามีครั้งหน้าอีก เจ้าคิดเอาเองแล้วกัน”
“เทพสงครามพูดแล้ว ข้าจะกล้าเที่ยวหอนายโลมอีกได้ยังไง”
“เหอะ เทพสงครามเป็นใครกัน เจ้าอยากให้ใครบำเรอ ยังต้องขออนุญาตเขาด้วยเหรอ?”
ให้ตายสิ
เจ้าหมอนี่สั่งคนให้สืบนาง ขนาดนางพูดอะไรก็ยังรู้อีก
กู้ชูหน่วนหัวเราะแหะๆ “ข้าเคารพในตัวท่านอย่างมาก คำพูดพวกนั้นซี้ซั้วไปหมด ข้าจะกล้าว่าท่านอย่างนั้นได้ยังไงกัน?”
“เริ่มเลย”
“เริ่มอะไร?” กู้ชูหน่วนถามอย่างอึ้งๆ
เห็นเย่จิ่งหานกับชิงเฟิงเจี่ยงเสวียทำหน้าบึ้งตึง กู้ชูหน่วนก็ตบหัวตัวเอง “ตายจริง ข้าลืมเรื่องนี้ได้ยังไงกัน”
ชิงเฟิงเกือบด่าออกเสียง
เรื่องสำคัญขนาดนี้ นางลืมได้ยังไงกัน?
ในสายตานางยังมีท่านอ๋องอยู่ไหม?
“ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ข้าก็ดื่มเหล้าไปเยอะมากเหมือนกัน ง่วงมากด้วย พวกเราค่อยรักษากันพรุ่งนี้ไหม”
ว่าแล้ว นางก็อยากเดินออกไปด้านนอก
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียรีบวิ่งไปขวางทางนางไว้
“ตอนนี้ข้าทั้งง่วงทั้งหาว ถ้ารักษาผิดพลาดขึ้นมา เกิดฆ่าเจ้าขึ้นมา จะทำยังไงล่ะ ข้าว่านะ รอข้านอนอิ่มก่อนค่อยรักษาดีกว่านะ”
เย่จิ่งหานพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้ารักษาผิดพลาด งั้นก็เอาชีวิตเจ้ามาแลก”
กู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด
ช่างเถอะ
ไม่ทะเลาะกับเจ้าหมอนี่ดีกว่า
“รักษาก็รักษา พวกเจ้าสองคนไปเอายางูพิษ แมงป่องพิษ แมงมุมพิษ ตะขาบพิษ พิษยิ่งร้ายกาจยิ่งดี”
“เอายาพวกนี้มาทำไม?” ชิงเฟิงถาม
“ก็ต้องเอามารักษาน่ะสิ ไม่งั้นจะเอามากินหม้อไฟหรือไง”
เขารู้ว่าเอามารักษา แต่พวกนี้เป็นยาพิษชนิดรุนแรงทั้งนั้น จะเอามารักษายังไง?
กู้ชูหน่วนมองชิงเฟิงเหมือนมองคนโง่ “เจ้าไม่เคยได้ยินคำว่าหนามยอกเอาหนามบ่งเหรอ?”
ชิงเฟิงมองไปที่เย่จิ่งหาน เห็นเขาไม่ว่าอะไร ก็ถึงสั่งให้ข้ารับใช้ไปเอายามา แล้วเรียกชิวเอ๋อร์มาด้วย
“ไปหากระถางทองสัมฤทธิ์ ใหญ่พอใส่คนคนหนึ่งได้ แล้วก่อกองไฟไว้ด้านล่าง เอาน้ำใส่ในกระถางทองสัมฤทธิ์ให้น้ำเดือด”
กู้ชูหน่วนพูดไปด้วย แล้วเขียนใบสั่งยาไปด้วย ให้พวกเขาไปเอายาตามที่เขียนไว้
ไม่นาน งูพิษแมงป่องพิษต่างๆก็เอามาเป็นถุงใหญ่ๆ น้ำในกระถางสัมฤทธิ์ก็เดือดได้ที่แล้ว
“ไม่เลวเลยนี่ จัดการได้เร็วดีนะ”
กู้ชูหน่วนหัวเราะ แล้วเดินไปตรงหน้าเย่จิ่งหาน ไม่วัดชีพจรเขาก่อน แล้วพูดคำแรกว่า “ถอดเสื้อผ้าซะ”
เฮือก……
อุณหภูมิในห้องลดลงจนถึงจุดเยือกเย็นที่สุด เย่จิ่งหานหรี่ตาลง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“เจ้าโดนยาพิษทั้งตัว ไม่ถอดเสื้อแล้วจะฝังเข็มขับสารพิษออกมาได้ยังไง” กู้ชูหน่วนกลอกตาขึ้นบน
แม้อุณหภูมิในห้องจะลดลง แต่สีหน้าของเย่จิ่งหานก็ไม่ได้ดุดันบูดเบี้ยวขนาดนั้นแล้ว
ไม่รู้ว่านึกถึงคืนวันนั้นที่เขากับกู้ชูหน่วนคลอเคลียกันหรือเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หน้ากากผีนั้นแดงระเรื่อเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนเอายาสาดลงไปในน้ำ แต่เย่จิ่งหานก็ยังไม่ถอดเสื้อผ้าสักที นางเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นิ่งอยู่ไยล่ะ? หรือจะให้ข้าถอดให้เจ้าเอง?”
“เจ้าถอยไป” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ
“ข้าถอยไปแล้วใครจะฝังเข็มให้เจ้าล่ะ?”
กู้ชูหน่วนเอายาถุงสุดท้ายในมือใส่ลงในกระถางทองสัมฤทธิ์ด้วยรอยยิ้ม กอดอกแล้วมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เป็นถึงเทพสงคราม เจ้าอายงั้นเหรอ?”