อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 91 ความลับของกระดิ่งทลายวิญญาณ

บทที่ 91 ความลับของกระดิ่งทลายวิญญาณ

ผู้คนในโลกนี้ทำเหมือนกระดิ่งทลายวิญญาณเป็นของล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมันออก บังเอิญว่ากู้ชูหน่วนไม่ได้ทำเหมือนที่คนปกติทำกัน

ทุบครั้งแรกทุบไม่ออก

กู้ชูหน่วนก็ทุบอีกหลายครั้ง ก็ยังไม่เปิดไม่ออก

สุดท้ายนางก็เหนื่อยจนหอบแล้วไปโดยตรง

“นี่คือกระดิ่งทลายวิญญาณอะไร แข็งขนาดนี้ ทุบก็ทุบไม่ได้”

กระดิ่งทลายวิญญาณไร้ประโยชน์ กู้ชูหน่วนใช้ไฟเผาอีก แช่น้ำ แช่ยาและวิธีการอื่นๆ แต่ทว่าต่อกระดิ่งทลายวิญญาณแล้วสิ่งเหล่านี้ยังคงไม่มีประโยชน์แม่แต่น้อย

ก็ไม่รู้ว่ากระดิ่งทลายวิญญาณนั้นทำมาจากวัสดุอะไร มีดปืนยิงแทงไม่เข้า ไร้ปัญญาจะเขย่า

รวมทั้งหยกเสี้ยวจันทร์ชิ้นนั้น อะไรก็ศึกษาออกมาไม่ได้

กู้ชูหน่วนโมโห หยิบอิฐขึ้นมา คิดจะทุบหยกเสี้ยวจันทร์เพื่อดูโครงสร้างภายใน

แต่มันมีค่าเท่ากับเงินห้าสิบล้านตำลึงเต็มๆ มือที่ถือก้อนอิฐของนางก็กำลังสั่น

หากว่าไม่มีอะไรในหยก หรือแตกจนกลายเป็นเสี่ยงๆนับไม่ถ้วน เช่นนั้นเงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะลอยไปแล้ว

ในที่สุดตอนนี้กู้ชูหน่วนก็เข้าใจแล้วว่าตอนนั้นจิตใจของไทเฮาเจ็บปวดมากเพียงใด

“เพล้ง…….”

นางกัดฟัน อิฐก้อนหนึ่งทุบหยกให้ละเอียดอย่างรุนแรง

หยกเสี้ยวจันทร์แตกแล้ว

แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างใดๆกับเศษหยกธรรมดา

จิตใจของกู้ชูหน่วนเย็นยะเยือกไปครึ่งหนึ่ง

“เงินห้าสิบล้านตำลึง ถูกข้าเอาก้อนอิฐก้อนหนึ่งทุบแตกไปแล้ว? ให้ตายสิ……”

หัวใจของนางก็เลือดหยดแล้ว

กู้ชูหน่วนภาวนาให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่นางก็ผิดหวังอีก บนโลกนี้เดิมทีก็ไม่มีปาฏิหาริย์ นางโมโหจนปัดกระดิ่งทลายวิญญาณและหยกเสี้ยวจันทร์ทิ้ง

หยกเสี้ยวจันทร์สัมผัสกับกระดิ่งทลายวิญญาณ ร่องรอยบนเศษหยกเปล่งแสงสว่างขึ้นอย่างฉับพลัน

กระทั่งความรวดเร็วในการล่อนหลุดของร่องรอยบนหยกเสี้ยวจันทร์ที่มองเห็นได้ด้วยตา ปรากฏออกมาเป็นแถวๆเหมือนกับเครื่องหมายอักษรบนกระดิ่งทลายวิญญาณ

ร่างกายของกู้ชูหน่วนสั่นเทา

มองดูเครื่องหมายอักษรที่เป็นแสงมันวาวกะพริบเคลื่อนไหวอย่างช้าๆบนหยกเสี้ยวจันทร์ด้วยความตะลึงงัน แต่ละอักษรลอยขึ้นกลางอากาศ สุดท้ายเหมือนจะถูกแรงดึงดูดอย่างมหาศาลยึดไว้เช่นนั้น ยึดอยู่บนเครื่องหมายอักษรที่เหมือนกันบนกระดิ่งทลายวิญญาณ

กระดิ่งทลายวิญญาณที่มืดหม่นเปล่งแสงสว่าง ลอยขึ้นกลางอากาศด้วยตัวเอง

เครื่องหมายอักษรบนกระดิ่งที่เหมือนกันกับเครื่องหมายอักษรบนหยกเสี้ยวจันทร์รวมเป็นหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ปรากฏเครื่องหมายอักษรสีทองสว่างไสวออกมา สุดท้ายก่อตัวเป็นลูกอ๊อดทีละตัวๆ

กู้ชูหน่วนรับกระดิ่งทลายวิญญาณไว้ จ้องมองด้วยความครุ่นคิด

ลูกอ๊อดเหล่านี้ที่เป็นเหมือนเส้นทาง ดูเหมือนแผนที่แผ่นหนึ่ง

แล้วมองไปที่กระดิ่งทลายวิญญาณอีกครั้ง มีแผนที่หนึ่งในสาม ยังมีอีกหนึ่งในสามเป็นเครื่องหมายอักษรที่ไม่รู้จัก

หรือว่า…….

กระดิ่งทลายวิญญาณเป็นแผนที่ซ่อนสมบัติอันหนึ่ง?

มีเพียงแค่แปลเครื่องหมายอักษรทั้งหมดได้ จึงจะเป็นแผนที่ที่ซ่อนสมบัติที่สมบูรณ์เหรอ?

หากว่ากระดิ่งทลายวิญญาณเป็นแผนที่ที่ซ่อนสมบัติอันหนึ่งจริงๆ เช่นนั้น……

ด้านในนี้จะซ่อนสมบัติที่ผิดหลักต่อสวรรค์อย่างไรกันแน่

เมื่อสายตากวาดไป หยกเสี้ยวจันทร์บนพื้นมืดหม่นไร้แสง ความอุ่นไม่เหลืออยู่ ไม่มีความแตกต่างใดๆกับหยกเก่าๆธรรมดาๆชิ้นหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ามูลค่าถูกหักออก

กู้ชูหน่วนเล่นกระดิ่งทลายวิญญาณด้วยความเกียจคร้าน ในตาเกิดความสนใจ

ผลักประตูออกไป กลับเห็นศีรษะของเซียวหยู่เซวียนมีเหงื่อแตกโชก จ้องมองนางด้วยความโกรธเคือง

“ฝนตกแล้วหรือ? ทำไมหัวของเจ้าถึงได้มีแต่น้ำ?”

“ยัยขี้เหร่ เจ้ารู้หรือไม่เจ้าออกไปกลางคัน ทำให้ข้าถูกอาจารย์หรงทำโทษอีกสิบรอบ เขาบอกว่าข้าจงใจสลัดองครักษ์ที่เฝ้าดูทิ้ง ปล่อยให้เจ้าออกไป ดังนั้นสิบรอบของเจ้าก็เพิ่มมาบนตัวของข้า ขาของข้าแทบจะหักอยู่แล้ว”

“เด็กดี รู้ว่าเจ้ารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม คืนนี้พี่สาวจะพาเจ้าไปผ่อนคลายสักหน่อย”

นางยิ้มอย่างไม่ประสงค์ดี เซียวหยู่เซวียนถอยหลังไปสองสามก้าว “เจ้าคิดจะไปหอโคมเขียวอู๋โยวอีก? ข้าไม่ไป คราวที่แล้วยังอับอายไม่พออีกหรือ?”

ทันใดนั้น แรงสังหารชนิดหนึ่งก็พรั่งพรูเข้ามา พร้อมกับอาวุธลับสามสิบแปดชิ้น

สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปทันที คว้าคอเสื้อของเซียวหยู่เซวียน พาเขาไปทางด้านข้าง ร่างกายหนึ่งแฉลบอย่างคล่องแคล่วทันที พอที่จะหลบเลี่ยงอาวุธลับสามสิบแปดชิ้นได้

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท