“รอยเท้าอะไร”
“ท่านดูนี่”กู้ชูหน่วนชี้ไปทางหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่นั่นยังคงมีรอยเท้าจางๆข้างหนึ่งหลงเหลืออยู่ เพียงแต่ตำแหน่งของรอยเท้านั้นอยู่ในมุมลับตา และน้ำหนักเท้าเบามาก ถ้าหากไม่ดูอย่างละเอียด แทบจะมองไม่เห็นเลย
อาจารย์หรงร้องออกมาอย่างตกใจ “รอยรองเท้านี้เมื่อเทียบกันแล้วแตกต่างกันเกือบหนึ่งนิ้ว มีคนสองคนกระโดดออกไปจากทางหน้าต่างหรือ ”
เซียวหยู่เซวียนแสดงท่าทีตื่นเต้น “ถ้าเช่นนั้น นอกจากเย่เฟิงแล้ว ตอนนั้นในหอตำรายังมีคนอีกคนหนึ่ง เป็นไปได้ว่าอาจารย์ใหญ่จะถูกคนคนนั้นฆ่า”
อาจารย์หรงทำเสียงในลำคอ “เมื่อครู่มีคนตั้งมากมายเข้ามาในหอตำรา บางทีอาจเป็นรอยเท้าของใครก็ได้”
กู้ชูหน่วนเหลือบตาขึ้นหนึ่งที “อาจารย์หรง ท่านไม่สามารถทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อเย่เฟิง แล้วโยนความผิดทั้งหมดให้กับเย่เฟิง ในสถานที่เกิดเหตุพวกท่านได้ให้คนดึงเชือกกั้นสถานที่เอาไว้แล้วไม่ใช่หรือ ใครจะสามารถเข้าใกล้ได้ อีกอย่าง ภายใต้สายตาของถูกคนที่จับจ้อง ใครจะกล้ากระโดดไปทางหน้าต่าง”
“แต่นี่ก็ไม่สามารถเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเย่เฟิงไม่ได้ฆ่าอาจารย์ใหญ่”
“แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าอาจารย์ใหญ่นั้นถูกเย่เฟิงฆ่า ใช่หรือไม่”
“ไม่ว่าอย่างไร เขาล้วนน่าสงสัย จำเป็นต้องจับกุมตัวเอาไว้ สามวัน ภายในสามวันหากเจ้าหาตัวฆาตกรไม่ได้ เย่เฟิงยังคงต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
อาจารย์หรงสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป ทั้งให้ทุกคนต่างก็ยืนอึ้งอยู่กับที่
เซียวหยู่เซวียนพูดอธิบายว่า “ในช่วงเวลาที่อาจารย์หลงตกต่ำที่สุดสิ้นหวังที่สุด อาจารย์ใหญ่เป็นผู้ช่วยเขาเอาไว้ ฉะนั้น เขาจึงมีความผูกพันลึกซึ้งกับอาจารย์ใหญ่มาก”
กู้ชูหน่วนมองดูท้องฟ้า ทางด้านทิศตะวันออกได้มีแสงสว่างเรืองรองปรากฏขึ้นแล้ว ดวงอาทิตย์สีทองค่อยๆเลื่อนขึ้นมา
ฟ้าสว่างแล้ว นางจะกลับไปจวนอ๋องหานก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
บิดขี้เกียจไปมา กำลังเตรียมตัวจะไปพักผ่อนสักพักแล้วค่อยๆคิดเรื่องคดีอีกครั้ง อยู่ๆก็มีลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เอ่ยอย่างหวาดหวั่นว่า
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เย่เฟิง เย่เฟิงเขาหนีไปแล้ว”
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้สติ ก็มีลูกน้องอีกคนหนึ่งวิ่งอย่างทุลักทุเลเข้ามา สีหน้าขาวซีดไปหมด
“อา… อาจารย์หรงถูกเย่เฟิงฆ่าตายแล้ว”
“อะไรนะ”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
เรื่องที่เย่เฟิงฆ่าอาจารย์ใหญ่ยังไม่ทันถูกล้างมลทิน ถึงกับกล้าฆ่าอาจารย์หรงอีก
“นี่จะก่อกบกฎหรือ ตอนนี้เย่เฟิงอยู่ไหน”
“องครักษ์ลับของราชวิทยาลัยได้ล้อมตัวเขาเอาไว้ แต่เขามีวรยุทธสูงมาก และว่องไวมาก องครักษ์ลับที่ปกป้องราชวิทยาลัยไม่สามารถขวางเขาเอาไว้ได้ เขาหนีไปได้แล้ว”
เซียวหยู่เซวียนสีหน้าไม่น่าดู พูดพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปไม่ได้ เย่เฟิงจะฆ่าคนได้อย่างไร “หรือว่าชายปกปิดหน้าตาที่ช่วยเหลือยัยขี้เหร่เอาไว้จะไม่ใช่เย่เฟิง”
“จริง มีคนมากมายในราชวิทยาลัยต่างก็เห็น”
“ไป เราไปดูกัน”อาจารย์สวีหน้าตาดำคล้ำ ได้ไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับอาจารย์ซ่างกวนและผู้อาวุโสของศาลาว่าการ
กู้ชูหน่วนก็รู้สึกสงสัยไม่เข้าใจ เดินตามหลังพวกเขาไปด้วย
อาจารย์หรงถูกฆ่าตายอยู่นอกห้องนอนของอาจารย์ใหญ่ เป็นการใช้มีดบาดคอเช่นเดียวกัน ลงมืออย่างโหดเหี้ยมรวดเร็วแม่นยำมาก
ใบหน้าขณะที่ตายของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจและประหลาดใจ ราวกับพบเข้ากับความลับที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ข้างร่างของอาจารย์หรง มีลูกศิษย์และลูกน้องล้อมรอบอยู่ไม่น้อย คนเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าตี่นกลัว ผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังคงไม่ได้สติ
อาจารย์สวีเห็นศพของอาจารย์หรง ก็แทบจะทรุดลงไปทันที ” ใครเป็นคนทำกันแน่ ใครก็ได้บอกข้าทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
หลี่เหิงเดินออกมาด้วยอาการตัวสั่น พูดว่า “พวก……พวกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่……แค่ได้ยินอาจารย์หรงตะโกนถามขึ้นมาเสียงหนึ่งว่าใคร พวกเราคิดว่าอาจารย์หรงเรียกพวกเรา พวกเราจึงรีบวิ่งมา แต่คิดไม่ถึงว่าจะเห็นเย่เฟิงที่ราวกับผีสางออกมาจากเรือนของอาจารย์ใหญ่ เขา ตัวเขาเย็นมา เย็นจนแทบไม่เหมือนคน แต่เหมือนกับผีร้ายที่ออกมาจากขุมนรก”