จวนอ๋องเจ๋อหรูหราโอ่อ่า มีสง่าราศี
อ๋องเจ๋อได้ย้ายออกไปแล้ว ในจวนอ๋องยังเหลือคนไม่น้อยที่ไร้ที่ไป กู้ชูหน่วนใจดีเก็บพวกเขาเอาไว้ ยังแก้ไขคำว่าจวนอ๋องเจ๋อเป็นเรือนอุ่น
อ๋องเจ๋อนับว่าซื่อสัตย์ ไม่ได้นำสิ่งของมีค่าที่อยู่ในจวนไปด้วย กู้ชูหน่วนเข้าครัวด้วยตนเอง ทำโจ๊กยาให้เย่เฟิงที่หนึ่ง แล้วให้บ่าวรับใช้ทำอาหารค่ำอีกเต็มโต๊ะ ให้ทั้งสามคนได้กิน
เหล้าและอาหารล้วนเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือโจ๊กยาถ้วยนั้น
เซียวหยู่เซวียนเป็นคนฐานะดี วัตถุดิบที่ใช้ในการทำโจ๊กยา เขาดูก็รู้แล้ว
“ยัยขี้เหร่ แล้วของข้าล่ะ”
“อาหารเลิศรสมากมายขนาดนี้ไม่พอเจ้ากินหรือ “กู้ชูหน่วนถลึงตาให้เขา ส่งสัญญาณให้เขาอย่าพูดมาก
“กินกินกิน กินให้เจ้าล้มละลายไปเลย”
“รีบกินเถอะ”กู้ชูหน่วนพลางกินข้าว พลางเหลือบตาขึ้น ส่งสัญญาณให้เย่เฟิงกินด้วยกัน
เย่เฟิงมองอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยเต็มไปด้วยความสงสัย
“คิดอะไรอยู่ ที่เจ้าสามารถกินได้มีแต่โจ๊กที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีส่วนของเจ้า ”
“ข้าไม่หิว”
เย่เฟิงเลื่อนโจ๊กยาไปข้างหน้า
เขาฐานะต่ำต้อย ไม่ได้แปลว่าเขาจะตาไม่ถึง
ก่อนหน้านี้ตอนที่รับใช้หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ เขาเองก็เคยเห็นยาล้ำค่าไม่น้อยที่นำมาทำเป็นโจ๊ก
โจ๊กยานี้ดูเหมือนจะธรรมดา ที่จริงในโจ๊กนั้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกบัวและกลิ่นหอมของยา
ถ้าหากเขาเดาไม่ผิด อย่างน้อยข้างในคงจะใส่บัวหิมะพันปีเข้าไปด้วย รวมไปถึงยาล้ำค่าต่างๆ
โจ๊กถ้วยนี้ มีค่ามากกว่าชุดผ้าไหมหลิวหยุนจิ่นเสียอีก
“เจ้าอย่าลืมนะ ตอนนี้เจ้าเป็นคนของข้า ถ้าหากเจ้าหิวตาย ข้าจะไปขอเงินกับใคร”
“ข้ากินกับข้าวที่เหลือหรือไม่ก็น้ำแกงที่เหลือก็พอ ค่อกแค่ก……”
“ให้เจ้ากินเจ้าก็กินซิ จะพูดมากทำไม หรือเจ้าคิดว่าข้าจะวางยาพิษเจ้า”
เซียวหยู่เซวียนเลื่อนถ้วยไปตรงหน้าเขา พูดขอร้องยิ้มๆว่า “ยัยขี้เหร่ให้เจ้ากิน เจ้าก็กินไปเถอะ ถ้าไม่พอ ข้าจะให้บ่าวรับใช้ไปทำให้เจ้าอีก”
มุมปากของเย่เฟิงกระตุก
โจ๊กยาถ้วยนี้ เขาไม่กล้ากินจริงๆ
ชีวิตเขายังมีค่าไม่เค่ากับโจ๊กยาคำหนึ่งเลย
“ปัง……”
กู้ชูหน่วนวางตะเกียบลงอย่างแรง สีหน้าบึ้งตึงทันที
“ถ้าหากเจ้าไม่กิน ข้าจะเอาเรื่องที่เจ้าได้รับบาดเจ็บ ไปบอกกับท่านยายเจ้าให้หมด”
“เจ้า……”
“ความอดทนของข้ามีจำกัด”
เห็นท่าทีแข็งกร้าวของกู้ชูหน่วน และไม่มีทีท่าจะล้อเล่น
เย่เฟิงได้แต่ดื่มโจ๊กยาเข้าไปทีละคำ
โจ๊กยาอร่อย เข้าปากก็ละลายทันที เมื่อกลืนเข้าไปในท้องแล้วยังรับรู้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง เดิมทีบาดแผลที่รู้สึกเจ็บปวด ถูกโจ๊กยาค่อยๆระงับความปวดเอาไว้แล้ว
เย่เฟิงไม่รู้ว่าข้างในนี้ใส่อะไรลงไป รู้เพียงแต่ว่าโจ๊กนี้ เกรงว่าจะล้ำค่ามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้
ทำไมนางต้องทำเช่นนี้
เพียงเพราะต้องการทวงเงินอย่างนั้นหรือ
ถ้าเพียงเพราะต้องการเงิน เช่นนั้นนางขาดทุนมากยิ่งกว่า
เห็นเขาเริ่มกินโจ๊ก มุมปากของกู้ชูหน่วนก็โค้งขึ้นเล็กน้อยโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ถ้าหากไม่ใช่เพราะหาเงินได้จากการแข่งขันบุ๋นมาได้ก้อนหนึ่ง นางเองก็คงจะเสียดายที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเพื่อนำไปทำโจ๊กยา
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนเข้าใจกันโดยไม่พูดต่างก็ไม่มีใครคีบเนื้อให้เขา
ร่างกายของเย่เฟิงถูกทำร้ายมานานปี แล้วก็ต้องหิวอยู่เป็นประจำ กระเพาะของเขารับของมันเลี่ยนไม่ไหว ได้แต่กินโจ๊กยาที่เป็นอาหารอ่อนๆค่อยๆปรับร่างกายไป
สองชายหนึ่งหญิง ร่วมกินอาหารใต้แสงจันทร์ ทุกอย่างดูสงบสุขมาก
ทันใดนั้น ประตูใหญ่ของจวนก็เกิดเสียงปังดังขึ้นและเปิดออก คนกลุ่มใหญ่กรูกันเข้ามา ทำลายบรรยากาศงดงามไปจนสิ้น
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นคนที่เข้ามาชัดเจนแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกุมขมับอย่างเจ็บปวด แม้แต่หนังศีรษะก็ชาไปหมด
เป็นเย่จิ่งหานอีกแล้ว
เขาเกิดปีหมาหรืออย่างไร
กัดไม่ปล่อยจริงๆ