“เช่นนั้นหรือ?” เย่จิ่งหานไม่เชื่อ
“จริงเสียยิ่งกว่าจริง! ท่านรอก่อน ข้าจะไปตักมาให้”
ร่างช้อยชมพูจากไป ไม่นานก็ยกโจ๊กยาบำรุงกลับมาชามหนึ่ง โจ๊กยาบำรุงเย็นชืดแล้ว แถมยังไหม้อีก แต่ก็พอมองออกนิดหน่อย ว่าวัตถุดิบอาหารในนั้นทำมาจากตัวยาล้ำค่า
“ทำโจ๊กครั้งแรก คุมไฟได้ไม่ค่อยดี แต่ก็ยังพอกินได้ล่ะนะ”
“โจ๊กเย็นหมดแล้ว” สีหน้าเย่จิ่งหานดีขึ้นนิดหน่อย
ชามของเขาไหม้ แต่ชามของเย่เฟิงเปล่า หรือว่าชามนี้นางจะทำเองเป็นครั้งแรกจริงๆ?
“เย็นสิถึงจะกินง่าย โจ๊กร้อนลวกคอจะตาย ข้าจงใจเป่าให้เย็นหรอก ท่านลองชิมสิว่าอร่อยไหม”
ชิงเฟิงเบ้ปาก “โจ๊กไหม้แล้ว ฐานะนายท่านสูงส่ง จะกินโจ๊กที่ไหม้ได้อย่างไร?”
กู้ชูหน่วนคัดค้านด้วยวาจาหนักแน่นและมีเหตุผล “ฐานะนายเจ้าสูงส่งจริง โบกมือเรียกลมเรียกฝนก็ได้ ต้องการกินโจ๊กยาบำรุงอะไรก็ย่อมได้ แต่ชามนี้ข้าทำด้วยตัวเอง แม้นดูด้อยค่าแต่มากด้วยความหมาย เข้าใจไหม?”
ชิงเฟิงกระอักเลือด
คุณหนูสามหาเหตุผลไปเรื่อยมาไล่นายท่านชัดๆ แถมยังเอ่ยได้มั่นอกมั่นใจอีก
เขาเป็นประกันได้ ว่าโจ๊กยาบำรุงชามนี้ต้องไม่ได้ทำให้นายท่านด้วยตัวเองแน่
ด้วยความปรีชาปราดเปรื่องของนายท่าน ต้องไม่เชื่อแน่ และจะไม่กินด้วย
แต่ความคิดนี้แล่นมาแค่ชั่วแวบเดียว กลับเห็นเย่จิ่งหานหยิบช้อนขึ้นมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็…ก็กินเข้าไปคำหนึ่ง!
หา…
นายท่านกินโจ๊กไหม้?
นี่…
ชิงเฟิงรู้สึกระส่ำระสายอย่างหนัก
เจี่ยงเสวียก็ตะลึงด้วย
แต่ที่ทำให้พวกเขาต้องทึ่งก็คือ นายท่านไม่เพียงกินไปแค่คำเดียว แล้วยังกินไปอีกหลายๆ คำ ปากก็เอ่ยเรียบๆ
“โจ๊กยาบำรุงชามนี้ เจ้าทำให้ข้ากับมือจริงหรือ?”
“ก็ต้องอย่างนั้นสิ คนรับใช้ในจวนอ๋องก็เห็นกันหมด หากท่านไม่เชื่อก็ไปถามพวกเขาดูได้”
กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ตรงหน้าเขา เท้าคางมองเขา ถามหยั่งเชิง “ท่านอ๋อง อร่อยไหม?”
“โจ๊กไหม้ มีอะไรน่าอร่อยกัน”
เฮอะ…
ไม่อร่อยเจ้ายังกินเข้าไปทั้งชาม?
ปากไม่ตรงกับใจ
กลัวเสียหน้าเสียไม่มี
“ข้าว่าชามของเย่เฟิงก็ไม่เลว พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็เอาแบบของเย่เฟิงอย่างนั้น ทำให้ข้าอีกชามแล้วกัน”
รอยยิ้มกู้ชูหน่วนแข็งกึก “ท่านอ๋อง ข้ายากจน ไม่มีเงินซื้อวัตถุดิบอาหาร”
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าชามนั้นของเย่เฟิงเป็นแค่โจ๊กยาบำรุงธรรมดามิใช่หรือ? ในเมื่อธรรมดา แล้วไยต้องใช้เงินมากด้วย? หรือว่า…เจ้าไม่อยากทำ?”
ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียกลั้นหัวเราะ
พวกเขารู้อยู่แล้วว่านายท่านต้องไม่หลงกลง่ายๆ แน่
ลูกไฟแข็งพันปี บัวหิมะพันปี เห็ดหลินจือแดงพันปี นี่หาใช่วัตถุดิบยาธรรมดาไม่!
ระหว่างคิ้วกู้ชูหน่วนเจือโทสะ
เจ้าปากไม่ตรงกับใจ แย่งข้าวยังแล้วไป แต่กลับคิดจะเอาจนนางหมดตัวเสียนี่!
กู้ชูหน่วนกดโทสะ ฉีกยิ้มบริสุทธิ์จริงใจ “ก็แค่โจ๊กยาบำรุงชามเดียว หากท่านอ๋องต้องการ ข้าก็จะทำให้ได้ทุกเมื่อ แต่ระยะนี้ท่านอยู่ในช่วงขับพิษ ไม่เหมาะจะบำรุงมาก มิเช่นนั้นเลือดลมจะตีขึ้น ส่งผลกับการขับพิษ นี่เชี่ยเซิน(*การเรียกแทนตนอย่างถ่อมตัวของผู้หญิงหรือภรรยา)คำนึงถึงท่านหรอก?”
มือที่เย่จิ่งหานถือช้อนอยู่ชะงักเล็กน้อย
เชี่ยเซิน?
นังเด็กนี่ เห็นเย่เฟิงสำคัญกว่าเขาจริงๆ ด้วย
“มิเป็นไร ข้าถูกพิษร้ายรุมเร้ามาหลายปี ระยะนี้มักรู้สึกเลือดลมไม่พอเหมาะที่จะบำรุงให้มาก”
“หากต้องการขจัดพิษ ก็บำรุงมากมิได้”
“ข้าถูกพิษมายี่สิบกว่าปีแล้ว การขจัดพิษก็มิใช่แค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ก่อนที่จะขจัดพิษ ก็ควรบำรุงร่างกายก่อน ร่างกายจะได้รับไหว มิล้มเสียก่อน”
มุมปากภายใต้หน้ากากผีของเย่จิ่งหานยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ ให้คนคาดเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก
กู้ชูหน่วนกลับอยากฉีกหน้านั้นของเขานัก
“โจ๊กยาบำรุงชามนั้นของเย่เฟิงเป็นเพียงโจ๊กธรรมดาเท่านั้น มิอาจบำรุงร่างกายได้”
“มิเป็นไร ข้าก็อยากลองกินโจ๊กเช่นนั้นเหมือนกัน”