อี้เฉินเฟยจัดแจงทาสบำเรอนั่งกระเช้าออกไปโดยเร็ว ด้านหนึ่งก็พยุงเย่เฟิงที่เมาเหล้าขึ้นมา อีกด้านก็ดึงกระเช้าคันสุดท้ายในมือของกู้ชูหน่วนไว้
“รีบไปเร็ว”
“พวกเจ้าขึ้นไปก่อนเลย ข้าค่อยตามไปทีหลัง” กู้ชูหน่วนมองไปยังที่ไกลๆเป็นระยะ ที่นั่นมีกลิ่นของยอดฝีมือที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ใช่ว่านางจะรู้สึกไม่ได้
แววตาเย็นนั้นกวาดตามองไปรอบๆ เห็นเพียงศพที่นอนตายเกลื่อนอยู่บนพื้น กลิ่นคาวของเลือดอบอวลไปทั่วยอดเขา
นางยื่นมือไปหยิบลูกปัดออกมาจากกระเป๋าแล้วสาดไปยังหอสัญญาณ ก็ถึงวิ่งไปยังกระเช้าและตะโกนไปด้วยว่า “ฝูกวง ขึ้นกระเช้าเร็ว”
“นายหญิง ไส้เชือกลับเส้นสุดท้ายยังหาไม่เจอขอรับ”
“หาไม่เจอก็ช่างเถอะ รีบขึ้นมาก่อน”
“นายหญิงไปก่อนเลยขอรับ ข้าค่อยตามไปทีหลัง”
กู้ชูหน่วนกระทืบเท้า
เจ้าโง่นี่จริงๆเล้ย
เดี๋ยวพวกเขาไปกันหมดแล้ว เขาจะตามมายังไงล่ะ?
“ข้าสั่งให้เจ้ารีบขึ้นมาบนกระเช้าเดี๋ยวนี้”
ฝูกวงที่อยู่ด้านล่างเหวแววตาประกายไปด้วยความลังเล
เขาไม่อยากขัดคำสั่งนายหญิง แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งโอกาสที่จะยื้อเวลาการหลบหนีให้กับนายหญิง
กู้ชูหน่วนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ฝูกวงรวบรวมพลังขั้นสิบไปยังยอดฝีมือที่ตามมาด้านหลัง ก็ถึงใช้หน้าผาเป็นตัวช่วยในการกระโดดขึ้นกระเช้า
“อ๊าก……”
ในความมืดมิดมีเสียงร้องอย่างทรมานดังขึ้น
ต่อมาก็มีเสียงโกรธแค้นของถันจู่หลินดังขึ้น “จะไปไหน”
ด้านหลังของถันจู่หลินมียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งไล่ตามมา
ลูกธนูนับพันยิงไปที่พวกเขาเหมือนสายฝน
อี้เฉินเฟยยกเสื้อคลุมขึ้น จับเสื้อคลุมด้วยมือข้างเดียวแล้วหมุนเป็นวงกลมอย่างรวดเร็ว ใช้กำลังภายในของตัวเองสลัดลูกธนูออกไปจนหมด ฝูกวงก็ยืนอยู่ตรงหน้ากู้ชูหน่วน ปกป้องนางเหมือนอย่างเคย
ไล่ตามไปถึงหอสัญญาณ แววตาถันจู่หลินเหี้ยมโหด แล้วพูดอย่างดุร้ายว่า “ตัดไส้เชือกเสีย ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขายังจะบินต่อไปได้”
“ขอรับ”
พวกยอดฝีมือส่วนหนึ่งไล่ตามต่อไป พวกฉีโส่วต่างก็ลงไปที่กระเช้า คิดอยากจะตัดไส้เชือกทิ้ง
ไม่คิดว่าเหยียบโดนลูกปัดโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
พลังอันยิ่งใหญ่ ระเบิดจนพวกเขาแยกทิศทางไม่ออก เส้นผมสีดำที่เคยเรียบลื่น ก็ฟูขึ้นและดำเหมือนถ่าน
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังขึ้น และยังมีกลิ่นพริกที่แสบจมูก
ไม่มีใครรู้ว่าลูกปัดเล็กๆจะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ และไม่มีใครรู้ว่าลูกปัดเล็กๆจะส่งกลิ่นพริกที่แสบจมูกขนาดนี้ออกมาได้ยังไง
ทุกคนบนหอสัญญาณ ไม่โดนระเบิดจนตาย แต่ก็เกือบกระอักจนตาย ทุกคนต่างก็ไออย่างบ้าคลั่ง
แม้ถันจู่หลินจะห่างจากเหตุการณ์มาก แต่ก็ยังโดนระเบิดจนหมดสภาพ
เขากำลังจะด่า เพิ่งเปิดปากออกก็สูดกลิ่นแสบจมูกนั้นเข้าไป กระอักจนเขาไอไม่หยุด กลับพูดออกมาไม่ได้สักคำ
อี้เฉินเฟยถาม “ยัยตัวเล็ก เจ้าประดิษฐ์ลูกปัดนั่นขึ้นมาเองเหรอ?”
“ถือว่าใช่นะ เพิ่มดินประสิวกับผงพริกเข้าไป เหมาะสำหรับจัดการพวกคนโง่”
พวกยอดฝีมือที่ตามมานั้น ความโกรธแค้นในใจก็พลุ่งพล่านขึ้นมาดั่งคลื่นทะเล
พวกเขาประกบมือเข้าด้วยกัน ตบด้วยฝ่ามืออรหันต์ออกไปอย่างไร้ความปรานี
อี้เฉินเฟยยกมือเปล่าขึ้น โบกเบาๆก็สามารถทำลายแรงพิฆาตจากฝ่ามืออรหันต์ของพวกเขาได้แล้ว
ไส้เชือกสองเส้น เส้นหนึ่งมองเห็นได้ อีกเส้นเป็นเส้นลับ ตรงกลางห่างกันสิบกว่าเมตร กลับยังคงโจมตีกันไปมา ตบด้วยฝ่ามืออรหันต์กันไปมาจนเกิดเสียงดังก้องขึ้น
ยอดเขาที่โดนพลังจากฝ่ามืออรหันต์ต่างก็แตกร้าวออกเป็นเส้นยาวๆ แถมยังมีภูเขาครึ่งหนึ่งที่ถูกทำลาย
เห็นได้ว่าถ้าโดนแรงฝ่ามือนั่นเข้าไปจริงๆ คงไม่มีโอกาสรอดชีวิตมาแน่