อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 187 บุกเขาทิ้งวิญญาณ

บทที่ 187 บุกเขาทิ้งวิญญาณ

“เจ้าเหมือนจะมีอคติกับจอมมารมากเลยนะ” ชายชุดแดงลูบผมสีดำยาวสลวยด้วยท่าทีพริ้มเพรา พูดอย่างเชื่องช้าไม่สนใจ

กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มเย็นชา

“จะไม่มีอคติได้ยังไง? ถ้าเขาไม่ใช่โรคจิต จะเลี้ยงพวกหัวหน้ากองธงโรคจิตพวกนั้นออกมาได้ยังไงกัน” ทำร้ายเย่เฟิงซะขนาดนั้น

“พี่สาวเป็นคนแรกที่กล้าด่าคนของจอมมารเลยนะ แต่ว่า……ข้าชอบ”

กู้ชูหน่วนโอบไหล่ของเขาไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องชายหน้าตาสละสลวย พี่ชอบเจ้ามากกว่า ไปกันเถอะ พี่จะพาเจ้าไปเปิดโลก”

ชายชุดแดงกวาดตามองมือที่โอบไหล่ของเขาไว้ ดวงตาเรียวยาวสง่าดั่งหงส์และคล้ายปีศาจยิ้ม เขาปล่อยให้นางพาเขาไปที่เขาทิ้งวิญญาณ

รอยยิ้มของเขามีความภวังค์ คำพูดที่พูดนั้นกลับชัดเจนทุกคำ “พี่สาวจำไว้ด้วยนะว่ากอดข้าไปแล้วสองครั้ง ต้องรับผิดชอบตัวข้าด้วยนะ ไม่งั้น……ข้าจะโกรธจริงๆด้วย”

“หือ……โกรธแบบนี้เหรอ?”

กู้ชูหน่วนยื่นมือไปบีบแก้มที่เนียนขาวของเขา

แก้มของเขาทั้งลื่นและนุ่ม ที่สำคัญดูยังไงก็ไม่เบื่อด้วย มือสัมผัสสบายมากด้วย กู้ชูหน่วนอดไม่ได้บีบอีกสองสามครั้ง

ชายชุดแดงปล่อยให้นางบีบแก้มตัวเองอย่างนั้น ดวงตาเรียวยาวดั่งหงส์สะท้อนให้เห็นถึงดวงตาโปร่งใสที่มีชีวิตชีวาของกู้ชูหน่วน

“นอกจากเจ้าแล้ว ไม่มีใครกล้าบีบแก้มข้าเช่นนี้” เขาแค่หัวเราะทีหนึ่ง ป่าไผ่ก็มืดลงไปมาก

กู้ชูหน่วนมองดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า

พวกคนของเผ่าปีศาจ ไม่เคยบีบเขาเหรอ?

หรือว่าเขาสวยเกินไป คนพวกนั้นเสียดาย?

หรือว่าเขาอยู่กับหัวหน้ากองธงที่ดี?

ทาสบำเรอเหมือนกัน บุคลิกบนตัวเขากลับแตกต่างกับเย่เฟิงมาก

เย่เฟิงบนตัวของเขามีความเศร้าโศกแผ่ซ่านออกมา ขนาดหายใจยังเศร้าเลย เขาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและโดดเดี่ยวสิ้นหวัง

และเขา……บนตัวของเขาความงามที่เยือกเย็นแผ่ซ่านออกมา แม้จะเกียจคร้านไม่สนใจอะไร แต่ระหว่างคิ้วของเขาไม่มีความถ่อมตนเลย

หรือว่า……

เขาไม่ใช่ทาสบำเรอ?

“น้องชายเจ้าชื่ออะไร?” ไม่ว่าจะเป็นทาสบำเรอหรือไม่ กู้ชูหน่วนไม่อยากถามอะไรมากแล้ว เพราะยังไงก็เป็นเรื่องอดีตของคนอื่น ถ้าหากเป็นทาสบำเรอจริง เดี๋ยวจะไปซ้ำเติมแผลเก่าของเขาอีก

“ซือโม่เฟย”

“สกุลซือ? นามสกุลนี้ไม่ค่อยได้ยินเลย ต่อไปข้าเรียกเจ้าว่าอาโม่แล้วกัน”

“มีเพียงครอบครัวข้าถึงจะเรียกข้าว่าอาโม่” เขาพูดเตือนอีกครั้ง

“อาโม่” กู้ชูหน่วนเรียกเสียงหวานอีกครั้ง จับมือเขาแล้วมุ่งไปทางเขาทิ้งวิญญาณ

นัยน์ตามืดมนไม่ชัดเจนของซือโม่เฟยก้มลงมองมือที่สอดนิ้วประสานกันอย่างแนบแน่นของพวกเขา ริมฝีปากอมชมพูดั่งกุหลาบก็ยิ้มออกมา เหมือนเพลิดเพลินกับการที่กู้ชูหน่วนจับมือใหญ่ของเขา

เขาทิ้งวิญญาณ

ชายหญิงจับมือกันเดินด้วยกัน ตลอดทางที่เดินมานั้น อย่าว่าแต่คนเลย ขนาดสัตว์ก็ยังไม่เจอเลย

กู้ชูหน่วนแปลกใจ “ไหนว่าเขาทิ้งวิญญาณเต็มไปด้วยพวกคนชั่วล่ะ? นี่ก็เข้ามาใน เขาทิ้งวิญญาณลึกมากแล้วนะ ยังไม่เจอคนเลย?”

“พวกเขาอาจจะทะเลาะกันเอง จนไม่มีเวลามาสนใจพวกเรา”

นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น กู้ชูหน่วนก็คิดว่าภายในของเผ่าปีศาจเกิดความขัดแย้งกันจริงๆ

ทั้งสองมุ่งหน้าต่อไป กว่าจะเจอผู้คนสักสองสามคน ไม่คิดว่าคนพวกนั้นเห็นพวกเขาแล้ว เหมือนกับหนูเห็นแมว แต่ละคนหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“เดินตรงไปถนนเส้นนี้ ก็ถึงพระราชวังของจอมมารแล้วล่ะ”

“อืม……”

กู้ชูหน่วนเดินต่อไปด้วยสีหน้างุนงง

เดินไปอีกสักพักก็มาถึงตัวตำบลเล็กๆ บ้านของถนนสองข้างในตำบลนี้ที่รูปทรงที่แปลกมาก

ทุกบ้านปิดประตูกันหมด ทั้งตำบลเงียบเหมือนกับครั้งก่อน ขนาดคนยังไม่มีเลย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท