ฮองเฮาฉู่หัวเราะเอ่ย “สหายเจ้าช่างมีบุญจริงๆ”
“ไม่ทราบฮูหยินกินแล้วหรือยัง? หากยังอาหารเหล่านี้ก็ขอมอบให้ท่าน”
ไม่รอให้ฮองเฮาฉู่เอ่ย ซิ่งเอ๋อร์ก็ตวาดปฏิเสธด้วยความระแวง “ข้าทำอาหารเช้าของฮูหยินพร้อมแล้ว ไม่รบกวนคุณชาย อาหารนี่ท่านก็เก็บไว้กินเองเถอะ”
คำพูดนี้ปัดตกความหวังของเย่เฟิง เขายกรอยยิ้มหนึ่งที่ดูขมขื่น เอ่ย “ขออภัย” จากนั้นก็ยกตะกร้าอาหารจากไป
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแผ่นหลังของเขาอ้างว้างโดดเดี่ยว หรือว่าระหว่างคิ้วของเขาดูคุ้นเคย ฮองเฮาฉู่เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก
“ช้าก่อน”
ฮองเฮาฉู่เดินฉับเข้าหา ยิ้มจาง “อาหารของคุณชายหอมยิ่งนัก ข้าหิวท้องร้องขึ้นมาเชียว หากคุณชายไม่รังเกียจ ข้าก็จะขอรับอาหารนี้ไว้”
“ฮูหยิน!” ซิ่งเอ๋อร์ตกใจ
นอกจากอาหารที่พวกเขาลงมือทำเองแล้ว ฮูหยินก็ไม่เคยกินอาหารข้างนอก แล้วไยวันนี้จึงจะกินอาหารของคนแปลกหน้าได้?
นางกระซิบ “ฮูหยิน ชายหนุ่มผู้นี้ฐานะไม่แน่ชัด เมื่อวานก็พบกับเราเป็นความบังเอิญ เช่นนั้นเหตุใดวันนี้จึงได้พบ แล้วยังให้อาหารท่านกินอีก? ข้าน้อยว่าเขาต้องจงใจเข้าหาท่านแน่ ท่านจะกินอาหารของเขาไม่ได้นะเจ้าคะ”
“ข้าดูเขาจิตใจดีมาก ไม่เหมือนคนชั่ว”
“รู้หน้าไม่รู้ใจ หากเขาเป็นคนชั่วก็ไม่แสดงออกบนสีหน้าหรอกเจ้าค่ะ ฮูหยิน…”
“เอาล่ะ เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
ซิ่งเอ๋อร์ยังอยากพูดอีก แต่ฮองเฮาฉู่มองด้วยดวงตาเย็นชา เป็นการบอกให้นางหยุดปาก
ซิ่งเอ๋อร์ทั้งร้อนใจทั้งกังวล
ฮองเฮามิเคยดุนางเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้เพื่อชายหนุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกลับมีโทสะ นี่…
ฮองเฮาฉู่เอ่ยอย่างรู้สึกผิด “สาวใช้ไม่รู้ความ หวังว่าคุณชายจะไม่ใส่ใจ”
“ไม่ ความจงรักภักดีปกป้องนายเป็นเรื่องดี”
“ฟ้าเพิ่งสางคุณชายยังไม่ได้กินข้าวกระมัง? มิเช่นนั้นก็กินด้วยกันเถอะ ซิ่งเอ๋อร์ เจ้าไปเอาถ้วยตะเกียบมาอีกคู่”
“เจ้าค่ะ…” ซิ่งเอ๋อร์จากไปอย่างไม่ยินยอมสมัครใจ และไม่นานก็เอาถ้วยตะเกียบมา
เมื่อตะกร้าอาหารเปิดออก ข้างในมีกับข้าวสามอย่างกับน้ำซุปอีกอย่าง
อย่างแรกเป็นผัดเห็ด เห็ดมีหลากหลายสี จัดเป็นรูปทรงกระท่อมเห็ด
อย่างที่สองเป็นแสงจันทร์ในบึงบัว ทำจากรากบัว ถั่วลันเตา แครอท เห็ดหูหนูและอื่นๆ
อย่างที่สามเป็นรวมมิตรเห็ด ที่ว่าเป็นรวมมิตรก็เพราะเต้าหู้จานนั้นมีทั้งอบ ย่าง ทอด แล้วร่วมกับพริกสีแดงกับสีเขียว ผสมเป็นภาพงดงามภาพหนึ่ง
อาหารสามอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น ก็ครบครันไปหมด จากรูปแบบการจัดวาง เห็นได้ว่าเขาใช้ความตั้งใจมาก
ซิ่งเอ๋อร์ตะลึง คิดไม่ถึงว่าอาการเจจะทำได้หอมและสวยงามเช่นนี้ ดีกว่าห้องเครื่องในวังไม่รู้สักเท่าไร
แต่อาหารเจสามอย่างนี้กลับเป็นอาหารเจที่ฮองเฮาไม่ชอบกินมากที่สุด
นางติดตามอยู่ข้างกายฮองเฮาหลายปีขนาดนั้น แต่ไม่เคยเห็นห้องเครื่องทำอาหารเหล่านี้ให้ฮองเฮาเลย
ฝ่าบาทก็รับสั่ง ว่าในวังจะมีอาหารสามอย่างนี้ไม่ได้ เพราะฮองเฮาทรงกลัวรสชาตินั้น แต่ครั้นฮองเฮาฉู่เห็นอาหารสามอย่างนี้แล้วก็ผงะเล็กน้อย
นางไม่รู้จักหนุ่มน้อยผู้นี้ แต่เขาไม่เพียงทำให้นางรู้สึกคุ้นเคย
แล้วยัง…
ตอนที่นางตั้งครรภ์ชอบกินอาหารสามอย่างนี้มาก ทุกครั้งที่ได้กินมักจะรู้สึกได้ว่าเด็กในครรภ์ดีใจมาก
แต่ภายหลัง…
หลังจากถูกชิงบุตรไป นางก็กลัวเห็นแล้วจะเสียใจ จึงไม่กินอาหารสามอย่างนี้อีก
เมื่อนึกถึงบุตรที่หายสาบสูญไป กรอบตาฮองเฮาฉู่ก็แดงขึ้น น้ำตาหลั่งรินหยดหนึ่ง