ถ้าไม่ใช่ว่าในเมืองมีผักสดใหม่ เนื้อสัตว์ อาวุธตกลงมา กู้ชูหน่วนคงคิดว่า เมืองนี้เป็นเมืองร้างที่ไม่มีคนพักอาศัยอยู่
หลับตาลง รับรู้ได้ถึงกลิ่นของเมืองนี้ได้ไม่น้อย แต่ก็มีเพียงกลิ่นของลมหายใจถี่ ตัวสั่นเทา เหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง
“ข้าก็คิดว่าใครเสียอีก ที่แท้ก็เป็นยัยขี้เหร่คนนี้นี่เอง”
ไม่ไกลมาก สวีซานเหนียงเดินเข้ามาช้าๆด้วยท่วงท่าเย้ายวน นัยน์ตาของนางแฝงไปด้วยความเกลียดชัง มองดูกู้ชูหน่วนเหมือนกำลังมองคนตาย
ข้างๆสวีซานเหนียงยังมีชายวัยกลางคนสวีเจิ้นที่มีร่างกายสูงยาวผอมแห้งอย่างกับลิงยืนอยู่ข้างๆ
สวีเจิ้นหรี่ตาจ้องมองหุ่นอันเย้ายวนของนาง เลียนิ้วโป้งของตัวเองอย่างชั่วร้าย
เห็นสวีเจิ้นหรี่ตาลง แรงอาฆาตของจอมมารแวบมาแล้วหายไป เร็วจนจับไม่ทัน
“เจ็ดผีแห่งภูเขาหยิน” กู้ชูหน่วนพูดอย่างเกียจคร้าน
สวีซานเหนียงยกมือโลหิตของตัวเองขึ้น ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม แป้งที่โบ๊ะไว้หนาๆบนใบหน้าก็มีเศษแป้งตกลงมาตามการเดินส่ายก้นของนาง
“สวรรค์มีทางเจ้าไม่เดิน นรกไร้ประตูเจ้ากลับบุกเข้ามา ข้ากำลังตามหาตัวเจ้าอยู่เลย ไม่คิดว่าเจ้าจะเข้ามาเอง”
“ซานเหนียง ผู้หญิงคนนี้คือ……”
“ยัยขี้เหร่ปากร้ายคนหนึ่ง นางร่วมมือกับเด็กหนุ่มสองคนฆ่าเจี่ยนแคระ”
“ว่าไงนะ……นางฆ่าเจี่ยนแคระงั้นเหรอ?”
สวีเจิ้นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขามองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่ไม่พอใจ
“ผู้หญิงคนนี้มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ โดยเฉพาะถนัดใช้พวกอาวุธมีพิษ เจ้าระวังโดนนางเล่นงานล่ะ”
“มีแต่ข้าที่เล่นงานคนอื่น ไม่มีใครเล่นงานข้าได้หรอก นางก็แค่ยัยหนูตัวเล็ก ซานเหนียงอย่าเอะอะไปเลย”
พวกนางแน่ใจแล้วว่ากู้ชูหน่วนไม่มีกังฟูในตัวเลย
แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่าชายชุดแดงข้างกู้ชูหน่วนจะมีกังฟูหรือเปล่า
พวกเขาสำรวจดูตลอด แต่พวกเขาไม่รู้สึกถึงกำลังภายในที่ไหลเวียนของเขาเลย
หรือว่าชายผู้นี้จะไม่มีกังฟูจริงๆ?
หรือว่ากังฟูสูงกว่าพวกเขามา ดังนั้นพวกเขาจึงรับรู้ไม่ถึง?
ไม่สิ กังฟูของพวกเขาสุดยอดที่สุดแล้ว นอกจากว่าเขาจะเป็นจอมมารหรือเจ้าสำนักสำนักอสุราเหล่าคนใหญ่คนโตที่มีพลังกล้าแกร่ง
สวีซานเหนียงเห็นจอมมารครั้งแรก ก็ถูกความงดงามดั่งเทพบุตรของจอมมารดึงดูด
นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าเจ้าชื่อว่าอะไร? อยากอยู่กับข้าหรือไม่? ข้าสามารถให้เจ้า……”
“ไม่อยาก”
จอมมารไม่เงยหน้าด้วยซ้ำ แค่ก้มหน้าลูบเส้นผมเงาสลวยของตัวเองเล่นอย่างเกียจคร้าน
เขาไม่ไว้หน้าสวีซานเหนียงเลยสักนิด แถมยังไม่รอสวีซานเหนียงพูดจบอีก
สวีซานเหนียงแสยะยิ้มเย็นชา “เจ้ารู้ไหมว่าหากอยู่กับนาง เจ้าจะต้องตายอย่างเดียว”
จอมมารเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาของเขาสะท้อนให้เห็นรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจของกู้ชูหน่วน เขาพูดเสียงใสอย่างเรียบเฉยว่า “พี่สาวจะปกป้องข้าเอง”
“………”
“เกรงว่านางคงจะไม่มีกำลังปกป้องตัวเอง”
“นี่……ไม่รู้ว่าครั้งก่อนใครที่แพ้จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ยังกล้ามาพูดโม้ตรงนี้อีก” กู้ชูหน่วนจัดกระโปรงที่ยับเยินของตัวเอง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความจองหองดูถูก
นางโอบจอมมารไว้ ตบหลังเขาแล้วพูดปลอบใจว่า “เด็กดี อยู่กับพี่สาว ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้หรอก”
จอมมารก็ซบอยู่ในอ้อมกอดของนาง เหมือนเป็นคนตัวเล็กตัวน้อย
สวีซานเหนียงบ้ากาม
สวีเจิ้นก็บ้ากามเหมือนกัน
ตอนนี้เห็นท่าทีนัวเนียแบบนี้ของพวกเขา ในใจจะไม่โมโหได้ยังไง
“คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย เหอะ ข้าจะดูสิว่า วันนี้เจ้าจะช่วยใครได้ เจ้าน้องชาย เจ้าไปจัดการยัยขี้เหร่นั่น ผู้ชายคนนั้นข้าจัดการเอง”
“รับทราบ”