บทที่185 กล้าเรียกจอมมารว่าน้องชายงั้นเรอะ
บทที่187 บุกเขาทิ้งวิญญาณ
สุดทางของป่าไผ่ กู้ชูหน่วนยังคงโอบเอวของจอมมารเอาไว้ นางสูดดมกลิ่นหอมบนตัวของเขาอย่างพึงพอใจ
“เจ้านางชาย เจ้าทาแป้งอะไรมา กลิ่นกายบนตัวเจ้าชวนน่าหลงใหลเหลือเกิน”
“แช่น้ำดอกไม้มา จึงมีกลิ่นหอมของดอกไม้เหลืออยู่บนตัว” ชายชุดแดงยกแขนเสื้อที่กว้างใหญ่นั้นขึ้น แล้วสูดดมอย่างมีความสุขเหมือนกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนจ้องมองดวงตาของเขานิ่ง อดไม่ได้เอ่ยชมว่า “ดวงตาของเจ้าสวยจัง”
ร่างกายของชายชุดแดงชะงักไปเล็กน้อย เขามองกู้ชูหน่วนอย่างตั้งใจ แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนเอาผ้าปิดหน้าไว้ มองใบหน้าที่แท้จริงไม่ออก แต่ดวงตาของนางสะท้อนให้เห็นถึงนัยน์ตาที่ดำข้างฟ้าข้างของเขาด้วยความอิจฉา
เขามองไม่ผิดแน่นอน นั่นเป็นความอิจฉาและความชอบ เป็นความอิจฉาและความชอบบริสุทธิ์ที่ไม่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกใดๆ
จอมมารกระตุกมุมปาก แล้วพูดเสียงเบาว่า “เจ้าเป็นคนแรกที่ชมว่าดวงตาของข้าสวย”
มุมปากของเขามีรอยยิ้มบางๆอยู่ตลอดเวลา แต่รอยยิ้มนี้กลับไม่ได้ทำให้คนที่เห็นแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นเลย แต่กลับรู้สึกถึงความเศร้าโศก
เพราะคำพูดของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าทำไม รอยยิ้มนั้นกลับดูอบอุ่นขึ้น
“แล้วคนอื่นพูดถึงดวงตาของเจ้าว่ายังไงล่ะ?” กู้ชูหน่วนถาม
“ปีศาจ มารร้าย”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงดัง “คนพวกนั้นอิจฉาเจ้าน่ะ ดวงตานี้สวยมากเลยนะ ดูยังไงก็ไม่เบื่อเลยล่ะ”
“จริงเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
กู้ชูหน่วนเชยคางของเขาขึ้นอย่างแข็งกร้าว กวาดตามองดูกล้ามเนื้อแผงอกที่เผยออกมาของเขา “ดูท่าทางแบบนี้ของเจ้า หรือว่าเจ้าจะเป็นทาสบำเรอของหัวหน้ากองธงของเผ่าปีศาจ?”
“ทาสบำเรอ?”
จอมมารหัวเราะ
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าบอกว่าเขาเป็นทาสบำเรอ
“มนุษย์ย่อมต้องมีอุปสรรคในชีวิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนสวยหน้าตาดีอย่างเจ้า ต่อไป เจ้าก็อยู่กับพี่สาวคนนี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะทำไมดอกไม้เพิ่งแดงขนาดนี้”
จอมมารตอบรับโดยไม่คิดพิจารณา “ได้เลย”
พวกเขาสองคนมีท่าทีที่ใกล้ชิดกันมาก ปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่รับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน แถมยังรับรู้ได้ถึงการเต้นของหัวใจด้วย
แม้กู้ชูหน่วนจะอาลัยอาวรณ์มากแค่ไหน แต่ก็ต้องปล่อยตัวเขาออก
“เจ้าเป็นทาสบำเรอของเผ่าปีศาจ แล้วมาปรากฏอยู่ในเขาสูบวิญญาณ เจ้ารู้จักหญ้านรกหรือไม่”
“เจ้าอยากตามหาหญ้านรกเหรอ?”
“ใช่ ช่วยข้าหาได้หรือไม่?”
“ได้สิ”
“จริงเหรอ?” กู้ชูหน่วนดีใจ นางแค่ถามขึ้นเฉยๆ ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักจริงๆ
กู้ชูหน่วนจับมือของเขาไว้ ระหว่างคิ้วก็เกิดความตื่นเต้นขึ้นมา “น้องชายที่รัก บอกพี่เร็วว่าอยู่ไหน?”
“อยู่ในตำหนักที่พักของจอมมารในเขาทิ้งวิญญาณ”
“จอมมารคงไม่ได้เอาหญ้านรกนอนกอดเป็นลูกรักหรอกนะ?”
“กลัวเหรอ?”
“ตลกแล้ว ข้าเป็นกู้ชูหน่วนเคยกลัวซะที่ไหน แค่รู้สึกว่าจอมมารจนจริงๆ”
“จน?”
“ใช่ไง กับอีแค่หญ้านรก ยังจะนอนกอดทำเหมือนเป็นลูกรัก จิ๊ๆๆ จอมมารอาจจะเป็นแค่ชื่อก็ได้ ความจริงแล้วก็เป็นแค่ฝ่ายรับ หรืออาจจะเป็นฝ่ายรับของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ หรือว่าหัวหน้ากองธงแปะเจียก หัวหน้ากองธงโบตั๋น”
จอมมารไม่เข้าใจคำพูดของกู้ชูหน่วน แต่เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ประโยคดีๆแน่
“ฝ่ายรับหมายถึงอะไร?”
“ฝ่ายรับก็คล้ายกับทาสบำเรอนั่นแหละ แต่เป็นฝ่ายที่นอนเป็นผู้ถูกกระทำบนเตียง”
“……”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจอมมารแข็งทื่อ
ฝ่ายรับ……
ทาสบำเรอ……
เหอะ……
ยัยคนนี้คิดว่าเขาเป็นทาสบำเรอจริงๆงั้นเหรอ?
“หรือว่า……จอมมารแค่รู้สึกว่าหญ้านรกสวย เลยปลูกเลี้ยงไว้ในตำหนักที่พักเล่นๆ”
“ถุ้ย ใครจะเชื่อ”
กู้ชูหน่วนทำหน้าไม่เชื่อ รู้สึกไม่มีความประทับใจดีๆต่อจอมมารเลย