“แต่ทุกปีฮองเฮาฉู่จะมาพักที่วัดเมฆขาวหนึ่งเดือน สำหรับทำไมถึงเลือกวัดนี้ ข้าน้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าน้อยรู้แต่เพียงพวกขุนนางแคว้นฉู่เสนอให้ฮ่องเต้ฉู่รับนางสนม แต่ถูกฮ่องเต้ฉู่ปฏิเสธไปหมด”
“รักมั่นเช่นนั้นเชียว? บังเอิญขนาดนี้?”
ถ้าเย่เฟิงเป็นลูกชายของฮองเฮาฉู่จริง เช่นนั้นเย่เฟิงก็คือองค์ชายนะสิ? แล้วยังเป็นองค์ชายองค์เดียวของแคว้นฉู่ด้วย เป็นว่าที่ฮ่องเต้แคว้นฉู่?
ไม่…
ไม่ถูกๆ
ถ้าฮองเฮาฉู่เป็นแม่แท้ๆ ของเย่เฟิง ส่วนเย่เฟิงก็ได้รับความอัปยศมากมายขนาดนั้นมาตั้งแต่เล็ก แล้วเขาจะกล้าไปนับแม่ลูกได้อย่างไร?
หากฮองเฮาฉู่เป็นสามัญชน บางทียังเป็นไปได้ที่เย่เฟิงจะรับนางเป็นแม่
แต่ฮ่องเต้กับฮองเฮา…
ฐานะสูงส่งเกินไป ด้วยนิสัยคิดแทนคนอื่นไปเสียหมดของเย่เฟิง นี่เป็นไปไม่ได้เลย
กู้ชูหน่วนกลับอยากให้พ่อแม่แท้ๆ ของเขาเป็นคนธรรมดา
ณ ศาลาบงกช
ฮองเฮาฉู่กับเย่เฟิงสนทนากันอย่างชื่นมื่น
ฮองเฮาฉู่สั่งให้คนไปเอาหีบใบใหญ่มา ดูเหมือนนางจะหวงแหนหีบใบนี้มาก ลูบไล้อยู่นานถึงจะค่อยๆ เปิดออก
ในหีบมีเสื้อผ้าวางเป็นชุดๆ
แต่ละชุดก็พับอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผลิร้อนร่วงหนาวมีหมด
นางเอ่ย “ทุกปีข้าจะทำชุดกับมือตัวเองให้หลินเอ๋อร์ของข้าแปดชุด ผลิร้อนร่วงหนาวอย่างละสองชุด แล้วยังมีรองเท้า สั่งสมเป็นเดือนเป็นปีก็มีมากหลายหีบ หีบนี้เป็นเสื้อผ้าที่ทำในสองปีนี้ เจ้าลองดูสิว่าพอดีตัวไหม มอบให้เจ้าสองสามชุด”
กล่องดวงตาเย่เฟิงชื้น
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเนื้อผ้าดีเยี่ยม ผิวสัมผัสนุ่มนวล แค่งานฝีมือก็ไร้ที่ติแล้ว
เสื้อผ้าเหล่านี้…ล้วนเป็นเสื้อผ้าที่แม่ของเขาเย็บเองทีละเข็มให้เขา…
เย็บแต่ละเข็ม ด้ายแต่ละเส้นเต็มไปด้วยความคิดถึงบุตรของนาง
นาทีนี้ เย่เฟิงอยากร้องไห้โฮมาก แต่เขาอดกลั้นสุดชีวิต
“ล้ำค่ามากเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้”
“มีอะไรล้ำค่ากัน ชาตินี้ข้ายังไม่รู้ว่าจะหาหลินเอ๋อร์พบไหม เสื้อผ้าพวกนี้เก็บไว้ก็เปล่าประโยชน์ อีกอย่า…ข้าทำอีกก็ได้มิใช่หรือ?”
ฮองเฮาฉู่เลือกอยู่ในหีบ เลือกชุดสีเขียวอ่อนออกมาชุดหนึ่ง ยิ้มเอ่ย “ข้าว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับเจ้ามาก ลองดูสักหน่อยไหม?”
เย่เฟิงไม่กล้ารับ
ฮองเฮาฉู่ยัดเสื้อผ้าใส่มือเขา มองชุดหลวมโคร่งของเขาอย่างสงสาร “ดูเจ้าผอมสิ ชุดนี้หลวมไปหมดแล้ว”
เย่เฟิงก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่
นี่มิใช่เสื้อผ้าของเขา เสื้อผ้าของเขาถูกผู้พิทักษ์ขวาของเผ่าปีศาจฉีกทิ้งหมดแล้ว
นี่เป็นชุดที่กู้ชูหน่วนหามาสวมให้เขาชั่วคราวเท่านั้น
ครั้นออกจากเผ่าปีศาจแล้ว เขาก็ลืมเสียสนิท
อีกอย่างก็ไม่มีเงินไปซื้อชุดใหม่ด้วย จึงใส่กับตัวตลอด
“ได้”
เขาลูบไล้เสื้อผ้าที่อยู่ในมือ มุมปากยกยิ้มสุขใจ คิดจะหันเข้าห้องรับรองเปลี่ยนชุด
อย่างไม่ได้ตั้งตัว ทันใดนั้นบรรยากาศก็มีความกดดันหนักหน่วงหนึ่ง ความกดดันอันคุ้นเคยนี้ทำให้เขาสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ ใบหน้าที่ยากจะมีรอยยิ้มขาวซีดในบัดดล
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้…
เป็นเขา…
เขามาแล้ว…
ความกดแรงกล้ามากเกินไป ไม่เพียงเย่เฟิง กู้ชูหน่วน ฝูกวงจะรู้สึก แม้แต่ฮองเฮาฉู่และคนอื่นๆ ก็รู้สึกเช่นกัน
กู้ชูหน่วนหน้าขึงขัง แม้ห่างอยู่ไกลโขแต่นางกลับรู้สึกได้ถึงความตาย
ฝูกวงระแวดระวังรอบๆ ราวกับเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ
องครักษ์ลับข้างกายฮองเฮาฉู่พากันปรากฏตัวออกมาปกป้องฮองเฮาฉู่อยู่ด้านหน้าในแทบจะเป็นวินาทีแรก
แต่องครักษ์ลับพวกนั้นจะเร็วอย่างไรก็มิสู้เย่เฟิง
เย่เฟิงบังอยู่ด้านหน้านาง เอ่ยอย่างร้อนรน “ท่านรีบไปเร็ว!”
“ไป…ไปที่ไหน…?”