ดวงตานางเฉกเช่นน้ำ สันจมูกโด่ง กลีบปากแดงระเรื่อ เมื่อมองดูก็มีบุคลิกสง่าสูงส่ง
กู้ชูหน่วนลูบคลำใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาด้วยความพึงพอใจ มุมปากยกยิ้มขึ้นบางๆ
โฉมหน้านี้ ไม่เสียแรงที่นางค้นหาดอกเยียนหลัวและหญ้านรกด้วยความลำบากมานาน
ทีแรกกู้ชูหน่วนไม่อยากใช้ผ้าปิดหน้า แต่ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร นางยังคงหยิบผ้าบาง ปกปิดใบหน้าที่งามล่มเมือง เผยแต่ดวงตาขาวดำตัดกันชัดคู่หนึ่ง
“ชิงเฟิง”
“พ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบพระชายาประสงค์สิ่งใด?”
“ท่านอ๋องได้ไปเขาสูบวิญญาณด้วยตนเองหรือไม่?”
“เออ…ข้าน้อยมิทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปสืบดูหน่อย”
“พระชายา ท่านอ๋องสั่งไว้ ว่านอกจากคุ้มครองท่านแล้ว ก็ไม่ต้องยุ่งเรื่องอื่น และพูดกับพระชายาก็ไม่ได้ด้วย”
“ฉะนั้น ความหมายเจ้าคือ ข้าเป็นนักโทษ?”
“ข้าน้อยมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ”
“ในเมื่อไม่กล้า เช่นนั้นเจ้าว่าตอนนี้เจ้าควรทำอะไร?” กู้ชูหน่วนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม นัยน์ตาที่ราวกับตัดสายน้ำเผยประกายอื่น
ชิงเฟิงกระตุก เอ่ยอ้อม “พระชายา อย่าให้ข้าน้อยลำบากใจเลยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
“ข้าก็แค่นักโทษ ไหนเลยจะกล้าข่มขู่เจ้า แต่พ่อทูนหัวในท้องข้ากลับบอกว่า อยู่แต่ในห้องจนเบื่อ อยากออกไปเดินสักหน่อย เจ้าว่าอย่างไร?”
“ข้าน้อยจะไปเดินในสวนเป็นเพื่อนพระชายาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“พ่อทูนหัวบอกว่าเดินในสวนจนเบื่อแล้ว อยากไปเดินชายทะเลบ้าง”
“พระชายา…!”
ชิงเฟิงแทบอยากร้องไห้
เขาว่าอยู่แล้วเชียว นายคนนี้เอาใจยาก!
“ท่านอ๋องบอกว่าหากท่านจะออกจากหอบุหลันงามก็ให้ข้าน้อยถือหัวไปพบ พระชายาก็เมตตา ละเว้นข้าน้อยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?
“ดูเจ้าสิ ทำงานจนบื้อไปแล้วหรือไร? ไม่ใช่ข้าจะไปชายทะเล แต่เป็นพ่อทูนหัวในท้องจะไปต่างหาก”
ชิงเฟิงหมดคำพูด
อ๋องน้อยเพิ่งจะเดือนเศษ จะรู้อะไร?
ทั้งหมดก็อยู่ที่พระชายาว่าอยู่ฝ่ายเดียว
ชิงเฟิงเค้นมันสมองคิดวิธีปฏิเสธ แต่จู่ๆ กู้ชูหน่วนกลับเอ่ยปาก
“ช่างเถอะ เห็นท่าทางเจ้าน่าสงสาร ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากแล้วกัน เจ้าไปเอาขนมมาให้ข้ากินหน่อย”
“ห๊า…” พระชายาว่าง่ายขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?
“ห๊าอะไร? ไม่ให้ข้าออกไป แล้วยังไม่ให้ข้ากินขนมอีกหรือ?”
“ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยจะให้คนไปเอามาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“ว๊าย! เจ้าดูสิ ตรงนั้นมีงู!” อยู่ๆ กู้ชูหน่วนก็ร้องตกใจ
ชิงเฟิงสับสน ไม่ว่าจะพูดหรือทำก็ยิ่งระวัง
แต่เขาจะระวังอย่างไรก็ยังถูกกู้ชูหน่วนหลอก
ก็ขณะที่เขาหันไปมองงู กู้ชูหน่วนก็ใช้เข็มปักเข้าที่จุดหลับของเขา
เฮ้ย…
ว่าแล้วเชียว พระชายาต้องไม่ใจดีอย่างนั้นแน่!
ชิงเฟิงพยายามให้ตัวเองมีสติ ปากก็อยากเรียกคน แต่กลับถูกกู้ชูหน่วนจี้จุดใบ้
ก่อนจะหมดสติ เขาได้ยินคำพูดโอหังได้ใจของกู้ชูหน่วน
“ก็บอกแล้ว ว่าเจ้าทั้งโง่ทั้งเขลา ยังไม่เชื่ออีก?”
“…”
“ยืมเสื้อผ้าใช้หน่อย”
ตัวเย็นพลัน ระหว่างที่สะลึมสะลือชิงเฟิงรู้สึกว่าเสื้อผ้าตัวเองถูกคนถอดไป
เขาอยากจะตายให้ได้!
ท่านอ๋องได้พระชายาอะไรมาเนี่ย!
สตรีผู้หนึ่งจะถอดเสื้อผ้าผู้ชายไปเรื่อยได้อย่างไร?
ภาพตรงหน้ามืดสนิท ชิงเฟิงหมดสติไปแล้ว
กู้ชูหน่วนสวมชุดของชิงเฟิงอย่างรวดเร็ว เลียนแบบเสียงของเขาตะโกน
“พระชายา ท่านดูผิดไปแล้ว นั่นมิใช่งู จวนอ๋องจะมีงูได้อย่างไร ข้าน้อยจะไปเอาขนมมาให้เดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
กู้ชูหน่วนตั้งใจฟังหูผึ่ง
ยอดฝีมือด้านนอกไม่มีความเคลื่อนไหว
เมื่อนั้นนางจึงแปลงโฉมเป็นชิงเฟิง แล้วฉวยโอกาสปะปนออกไป