“รีบอะไร? เอาไว้แต่งงานแล้วข้าย่อมไปช่วยนาง”
งานแต่งเป็นวันพรุ่งนี้
แต่เย่เฟิงไปเขาสูบวิญญาณคนเดียวแล้ว
หลังแต่งงานยังจะช่วยอะไร? ไปเก็บศพนะสิ!
“เย่จิ่งหาน เจ้าส่งคนไปช่วยตอนนี้ไม่ได้หรือ?” กู้ชูหน่วนเตือน
เย่จิ่งหานเมินการเตือนจากนาง ยิ้มเย็นเอ่ย “ไม่ส่ง”
“ได้ เจ้าแน่มาก!”
กู้ชูหน่วนถลึงตาใส่เขา แล้วออกจากห้องโถงหลักไปทีละก้าว
ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียประหลาดใจเล็กน้อย
จะไปแล้ว?
ไม่เหมือนนิสัยนางเลย
ไม่รอให้พวกเขาทันคิด กู้ชูหน่วนก็ตะเบ็งเสียงสูง ตะโกนเอ่ย “เทพสงครามเย่จิ่งหาน ถูกสตรีข่มขืนในพุ่มหญ้าแล้ว เทพสงครามเย่จิ่งหานถูกข่มขืนแล้ว”
ซี๊ด…
ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียหน้าซีดเผือด
จากนั้น แสงขาวหนึ่งก็แล่นผ่านตัวพวกเขา แล้วทำลายหินแกะสลักข้างตัวกู้ชูหน่วนเป็นผุยผง ส่งเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว
“พระชายาป่วย สติไม่ดี พูดจาเพ้อเจ้อ พานางกลับห้อง ไม่มีคำสั่งข้า ใครก็ห้ามปล่อยนางออกมา!”
กู้ชูหน่วนกวาดตามองหินแกะสลักที่แตกละเอียด มุมปากยิ้มเยาะ
จะกักบริเวณนางหรือ?
นางจะให้กักบริเวณได้ง่ายๆ อย่างนั้นได้อย่างไร?
กู้ชูหน่วนหยิบเข็มพิษออกมา แล้ววางอยู่ที่ลำคอ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ลูกท้องที่แบนราบนิดๆ ของตัวเอง
“ท่านอ๋อง ข้าขอเตือนว่าคิดให้ดีแล้วค่อยตัดสินใจนะ มิเช่นนั้น ข้าที่เป็นว่าที่ชายาท่านจะต้องกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิตแล้ว”
นางเน้นหนักที่ ‘หนึ่งศพสองชีวิต’ แล้วมองใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมแวบความประหลาดใจอย่างเย็นชา
แม้ความประหลาดใจนี้จะแวบผ่านชั่ววูบ แต่ก็ยังถูกนางจับได้
“น่าขัน! ข้ายังไม่ได้แต่งงานกับเจ้า จะมีลูกได้อย่างไร?”
กู้ชูหน่วนเพียงยิ้ม ใช้สายตาดูแคลนถึงที่สุดชนิดหนึ่งมองเย่จิ่งหาน ราวกับเขาเป็นแค่เหยื่อของนาง
สีหน้าเย่จิ่งหานขรึมมากขึ้นอีกบางส่วน
ภาพที่เจอกันในครั้งแรกผุดขึ้นมาในหัวเขาอีกครั้ง
วันนั้นเขาบาดเจ็บหนัก ล้มอยู่ที่พื้นขยับตัวไม่ได้ นางลากเขาเข้าพุ่มหญ้า จากนั้น…
กลับขืนใจเขาต่อหน้าลูกน้องทั้งสองของเขาเสียได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นแล้ว อารมณ์ของเย่จิ่งหานก็ผุดขึ้นมา
ตั้งแต่เล็กจนโต นั่นเป็นครั้งแรกที่อัปยศเช่นนั้น
“ทำไม? หรือว่าจำพันธุ์ของตัวเองไม่ได้?”
ชิวเอ๋อร์ร้อนใจจนร้องไห้ “คุณหนู! ท่านกำลังพูดเหลวไหลอะไรอยู่เจ้าคะ? ท่านรีบวางเข็มลงเถอะ ข้าน้อยจะพาท่านไปลองชุดแต่งงานนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันมงคลของท่านแล้ว”
“ชิวเอ๋อร์ ดูผู้ชายตรงหน้าให้ชัดๆ เขาได้ข้าไปจนหมดแล้ว ทำท้องข้าโต แล้วยังกล้าไม่รับอีก ถุยๆๆ! ไอ้คนไร้น้ำยา!”
ถึงชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียทนดูต่อไปไม่ได้
แต่วันนั้นนางลากท่านอ๋องเข้าพุ่มหญ้า แล้วทำ…ทำเรื่องนั้น
บัดนี้ไยจึงกลับคำ กล่าวว่าท่านอ๋องขืนใจนาง?
นางพูดคำเท็จตาไม่กะพริบสักนิด จะหน้าไม่อายเกินไปหน่อยกระมัง?
กู้ชูหน่วนลูบท้องของตัวเอง แล้วพึมพำอย่างหนักใจ
“ข้าก็ว่าอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่ต้อนรับการมายังโลกของเจ้าหรอก เจ้ายังไม่เชื่อ ข้าว่านะ เจ้าก็รีบๆ ตายแล้วไปเกิดใหม่เถอะ ชาติหน้าก็อย่าไปเกิดผิดที่ล่ะ”
“เด็กๆ! เชิญหมอหลวง!”
เย่จิ่งหานเค้นคำพูดนี้จากร่องฟัน “กู้ชูหน่วน ถ้าเจ้าโกหก ข้าจะให้เจ้าอยู่อย่างเสียใจแน่!”
“เอาสิ! แล้วถ้าข้าท้องลูกเจ้าจริงล่ะ?”
“ตรวจชีพจร!”
หมอหลวงมาเร็วมาก แล้วยังมาถึงห้าคน แต่ละคนหลังจากตรวจชีพจรแล้ว ก็คุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว เอ่ยเสียงสั่น “เรียนท่านอ๋อง พระชายา…คุณหนูสามกู้ตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ระยะครรภ์ประมาณหนึ่งเดือนเศษพ่ะย่ะค่ะ”
หมอหลวงปาดเหงื่อไม่หยุด
ท่านอ๋องกับพระชายายังไม่ได้เข้าพิธีสมรส แล้วเด็กในครรภ์พระชายานั่นอย่างไรกันแน่?
คงมิใช่ว่ายังไม่แต่งงาน ก็สวมเขาให้ท่านอ๋องแล้วนะ?