อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 255 จอมมารชิงตัวเจ้าสาว

บทที่ 255 จอมมารชิงตัวเจ้าสาว

บทที่ 255 จอมมารชิงตัวเจ้าสาว
แม้บอกว่าเสียงนี้นุ่มนิ่มไร้กำลัง ทั้งยังเผยความชั่วร้ายอีกหน่อย แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ในหูของทุกคนกลับรู้สึกขนลุกเสียวสันหลัง กระวนกระวายไม่เป็นสุข เสมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

รอยยิ้มบนใบหน้าเย่จิ่งหานค่อนๆ หย่อนตัวลง มุมปากปรากฏการถากถางนิดๆ

องครักษ์ลับของเขาและเหล่าคนรับใช้ตั้งค่ายรับประดุจเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ

นัยน์ตาอ่อนโยนของซ่างกวนฉู่แวบทีหนึ่ง เหมือนรู้อะไรบางอย่าง ใบหน้าอ่อนโยนและสุภาพที่มีมาแต่เดิม มีความสนใจเพิ่มขึ้นบางส่วน ราวกำลังรอดูเรื่องสนุก

กู้ชูหน่วนผงะ

เสียงนี้…เหมือนจะเป็นอาโม่

เขามาทำอะไรกัน?

“พี่สาว เจ้าแย่จริง ข้าเป็นคนของเจ้าแล้ว เจ้ากลับใจดำทิ้งข้า แต่งกับคนอื่น”

ซีด…

ทุกคนสูดลมเย็นอีกครั้ง

หมะ…หมายความว่าอะไร…

พระชายาหานยังไม่ทันเข้าประตู ก็สวมเขาให้เทพสงครามแล้ว?

นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง?

นั่นเป็นถึงเทพสงครามที่วิธีการโหดเหี้ยม เสพโลหิตโหดร้ายเชียวนะ!

หากพระชายาหานจะสวมเขาให้เขาจริงๆ เทพสงครามต้องบีบคอนางตายทั้งเป็น

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้อยากโพล่งคำสบถ

บ้านเจ้าแน่ะ

วันนี้เป็นวันมงคลของนาง ปากสะอาดหน่อยมิได้หรือ?

ถึงนางจะหน้าไม่อาย…ถุย! ควรพูดว่านางเป็นคนที่รักษาหน้าตา การป้ายมลทินชื่อเสียงนางเช่นนี้ ยังทนอยู่ก็มิใช่คนแล้ว!

กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยโทสะ “ซือโม่เฟย เจ้าไสหัวออกมาเลยนะ!”

คนทั้งงานที่มีสายตาต่างตกตะลึง

โดยเฉพาะชิงเฟิงและเจี่ยงเสวีย

พวกเขาติดตามอยู่ข้างกายเย่จิ่งหานมาหลายปี ยังรู้ว่าผู้ที่มาคือจอมมาร อีกทั้งจอมมารยังไม่ถึง เสียงก็ถึงก่อนแล้ว นี่เป็นกำลังภายในล้ำลึกเร่งปฏิกิริยาออกมา

พระชายากลับกล้าเอ่ยนามของจอมมารโดยตรง ทั้งยังกล้าให้จอมมารไสหัวออกมาอีก นางไม่กลัวว่าจอมมารจะจ้องนาง เอาชีวิตนางหรือ?

ที่ทำให้พวกเขาตาค้างยิ่งกว่าคือ

จอมมารยังขานรับอย่างนุ่มนิ่มประโยคหนึ่ง “ก็ได้ๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เออ…

เสียงนี้ จะหวานจักจี้ไปแล้วกระมัง?

หรือว่าผู้ที่มาไม่ใช่จอมมาร?

มุมปากเย่จิ่งหานหัวเราะเย็นเนืองๆ

ผู้หญิงที่เขาเย่จิ่งหานชอบ นอกเสียจากเขาไม่เอาเอง มิเช่นนั้นใต้หล้านี้ก็ไม่มีผู้ใดชิงได้

เรือนร่างสีแดงเพลิงสายหนึ่งแวบมา จากนั้นหนุ่มน้อยคนงามก็อยู่ในห้องโถงหลักแล้ว

ทุกคนต่างตะลึงงาน คนผู้นี้ช่างว่องไวนัก เขามาถึงเมื่อไรกัน?

แล้วเมื่อดูสืบต่อ อายุอานามไม่มี ราวยี่สิบกว่าปี ชุดสีแดงเพลิงทั้งตัว หน้าอกเผยกล้ามแผ่นใหญ่ ขับให้มีเสน่ห์สามส่วน เส้นผมดำสนิททิ้งตัวลงดุจน้ำตก พลิ้วไหวสง่างามอีกสามส่วน ทั้งยังเจือความชั่วร้ายอีกสามส่วน

เขามีรูปลักษณ์ที่งามตามาก ความงามของเขาอยู่นอกเหนือขีดจำกัดชายหญิง งามจนไม่เหมือนมนุษย์สามัญ ใช้ได้เพียงคำว่าปีศาจมาบรรยาย

ที่ทุกคนแปลกใจยิ่งกว่าคือนัยน์ตาของเขา

เขามีนัยน์ตาสีผิดแผกคู่หนึ่ง ข้างหนึ่งสีดำ ข้างหนึ่งสีฟ้าอ่อน

“ผู้ชายคนนี้คือใคร?”

“ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือจะเป็นคุณชายตระกูลโด่งดังไหน? แต่เขาดูแปลกหน้าจริงเชียว”

กลุ่มคนพากันวิพากษ์วิจารณ์

พระนครมีชายงามเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไร?

ในบรรดาอาคันตุกะภูเขาเลากา มีเพียงซ่างกวนฉู่ที่รู้จักเขา รอยยิ้มบางเขาของเจือความรู้แจ้งบางส่วน ราวกับรู้แล้วว่าต่อจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ครั้นจอมมารปรากฏตัว สายตาแรกก็กวาดมองทางกู้ชูหน่วน

เห็นเพียงโฉมหน้างามหาใดเทียมของนาง ดวงตาเกียจคร้านพลันตะลึง ริมฝีปากแดงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยาดเยิ้ม “พี่สาว ท่านสวยจริง อาโม่ยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบแล้ว”

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท