บทที่ 262 เด็กในท้องเป็นของข้า
สายตากู้ชูหน่วนไม่เป็นมิตร เสียงเย็นชาบางส่วน
เซียวหยู่เซวียนคิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะโมโหขึ้นมาขนาดนี้กะทันหัน
ถึงจอมมารจะเป็นน้องชายร่วมอุทร แต่อย่างไรเขาก็คือจอมมาร หากเขาเกิดโทสะ แค่โบกมือตามอารมณ์ก็เอาชีวิตนางได้แล้ว
เซียวหยู่เซวียนเอ่ยเตือน “ยัยขี้เหร่ ไยเจ้าจึงกล่าวกับน้องชายเช่นนี้เล่า มีเรื่องอันใดก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยได้”
จอมมารอุ่นใจขึ้นทันที
เป็นท่านน้าชายของเขาโดยแท้ ในใจยังเอนเอียงทางเขา
“พี่สาวไม่ชอบให้บนตัวมีกลิ่นของอาโม่หรือ?”
“พูดเป็นเล่น! หากข้าติด GPS บนตัวเจ้า ลอบตามเจ้าตลอดเวลา เจ้าจะดีใจไหม?”
“จีพีอะสื่อ(*ตาย) นั่นเป็นวิธีการตายอย่างใด? พี่สาววางใจ มีข้าอยู่ ใครก็ทำร้ายท่านไม่ได้”
“…”
กู้ชูหน่วนสงสัยว่าสองคนนี้จะรวมหัวกันมาแกล้งนาง โดยเฉพาะจอมมาร
“ขจัดกลิ่นเจ้าบนตัวข้าประเดี๋ยวนี้!”
“ก็ได้ๆ เช่นนั้นท่านกำจัดบอลในท้องท่านได้หรือไม่?”
ครั้นมือใหญ่จอมมารโบกไป กลิ่นดอกลำโพงจางๆ บนตัวกู้ชูหน่วนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
เพียงแต่นัยน์ตาพิลึกทั้งคู่ของจอมมาร จ้องหน้าท้องแบนราบของกู้ชูหน่วนตลอดเวลา ความหมายในแววตาไม่ชัดเจน
กู้ชูหน่วนถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว กุมท้องตัวเอง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“บอลลูกนั้นน่ารังเกียจนัก อาโม่ไม่ชอบบอลลูกนั้น”
เซียวหยู่เซวียนฟังอยู่ค่อนวันถึงเข้าใจ ว่าบอลที่จอมมารกล่าวคืออะไร
เขาตื่นตะลึง “ยัยขี้เหร่ เจ้าท้องแล้ว? ไม่กระมัง? พ่อเด็กเป็นใคร? เทพสงคราม?”
กู้ชูหน่วน “…”
พวกเขาตาบอด ใจก็บอดหรือ?
หากนางท้องจริง ยังหนีการแต่งงานได้หรือ?
ไม่รู้พวกเขาเอาไอคิวมาจากไหนจริงๆ?
“ยัยขี้เหร่! รีบบอกข้าเร็ว เทพสงครามขืนใจเจ้าใช่ไหม?!”
กลิ่นอายบนตัวจอมมารควบแน่นเย็นเยียบ นัยน์ตาสีอ่อนแวบประกายโลหิต “เย่จิ่งหานกล้าบีบท่าน?”
กู้ชูหน่วน “…”
ปัญญาอ่อนสองคน พูดกับพวกเขานางรู้สึกไอคิวจะต่ำมาตรฐานแล้ว
น้อยนักที่จอมมารและเซียวหยู่เซวียนจะได้เห็นกู้ชูหน่วนนิ่งงัน เวลานี้ปากนางปิดสนิท ไม่พูดสักแอะ จึงมั่นใจในการอนุมานของตัวเองมากขึ้น
เย่จิ่งหานไอ้คนหน้าไม่อาย กลับกล้าขืนใจนางจริง
จิตใจทั้งสองคนบันดาลโทสะ จิตสังหารห้อมล้อม จัดเย่จิ่งหานเข้าไว้ในบัญชีคนตาย
เซียวหยู่เซวียนปลอบใจเอ่ย “ยัยขี้เหร่ เจ้าอย่าได้คิดมาก เด็กคนนี้หากเจ้าอยากเก็บไว้ก็เก็บไว้เถอะ ข้าจะดูแลเขาเยี่ยงลูกแท้ๆ ของตัวเอง เชื่อว่าน้องชายก็มีความคิดเช่นเดียวกับข้า”
เดิมจอมมารคิดไปเอาชีวิตเย่จิ่งหานทันที
แต่ได้ยินคำกล่าวของเซียวหยู่เซวียน ฝีเท้าก็ไม่ขยับเสมือนกรอกตะกั่ว
เสวียซาเคยกล่าว เวลาที่ผู้หญิงทุกข์ใจที่สุดต้องการการอยู่เป็นเพื่อน เช่นนั้นถึงทำให้นางประทับใจได้มากขึ้น
เวลานี้คงเป็นช่วงที่พี่สาวเป็นทุกข์ที่สุดกระมัง น้องชายก็ส่งสัญญาณให้เขาปลอบใจพี่สาวไม่หยุด เขาจะผิดต่อความตั้งใจดีของน้องชายไม่ได้ ยิ่งทำให้พี่สาวรับความทุกข์เพียงคนเดียวไม่ได้เช่นกัน
จอมมารเอ่ยอย่างจริงจังขึงขัง “ถูกต้อง ข้าจะเห็นเขาเป็นเสมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง ฉะนั้นท่านไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคตของเด็ก ลูกของข้าซือโม่เฟย ใต้หล้านี้ผู้ใดกล้ารังแก!”
เซียวหยู่เซวียนผงะ แก้ไขให้ถูกต้อง “เด็กในท้องยัยขี้เหร่ไม่ใช่ลูกของเจ้า” นั่นเป็นลูกของเขา!
จอมมารกระจ่างใจถ่องแท้
ใช่ พวกเขายังไม่ได้แต่งงาน ยามนี้ยังไม่ใช่ลูกของเขา แต่นี่เป็นเรื่องช้าเร็วเท่านั้น
“ต่อไปจะเป็นลูกของเรา” จอมมารเอ่ย
กู้ชูหน่วนรู้สึก ว่าชาติที่แล้วนางต้องทำกรรมอะไรไว้แน่ ชาตินี้ถึงได้รู้จักปัญญาอ่อนสองคนนี้