บทที่300 วางแผน
“เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งบอกว่าทิศตะวันออกเฉียงใต้มีสัตว์ร้ายไม่ใช่เหรอ? และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็มีคนน้อยด้วย ถ้าเกิดพวกตงฟางเจ๋อไล่ตามมาจะทำยังไง?”
กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม นัยน์ตาเต็มไปด้วยการครุ่นคิดแผนการ
เซียวอวี่เซวียนและคนอื่นรู้สึกเย็นวาบทั่วแผ่นหลัง ยัยคนนี้คิดจะทำอะไรอีกนะ
“หลิวเยว่ อวี่ฮุย พวกเจ้าสองคนเก็บสมุนไพรต่อไป ไปเก็บที่ที่มีคนเยอะๆ เซียวอวี่เซวียน เจ้าไปกับข้า”
“อะไรนะ……พวกเราเก็บเยอะขนาดนี้แล้ว ยังต้องเก็บอีกเหรอ?”
“นั่นน่ะสิ พวกเรามาหาสมบัติที่ภูเขาสวินหลงนะ ถ้าเด็ดต่อไปแบบนี้ พวกเราก็ไม่มีเวลาไปหาสมบัติน่ะสิ”
“สมบัติมีอยู่ทั่วทุกที่นี่? พวกเจ้าแค่ไม่รู้จักเท่านั้น ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าต้องตาถึงแน่นอน รอข้ากลับมานะ พวกเจ้าอย่างน้อยเด็ดอีกคนละสองกระสอบใหญ่ ถ้าเด็ดไม่ได้ ระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ” กู้ชูหน่วนยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยการข่มขู่
ไม่รอหลิวเยว่อวี่ฮุยตกลง กู้ชูหน่วนก็ลากเซียวอวี่เซวียนออกไปแล้ว
กังฟูของเซียวอวี่เซวียนถึงขั้นที่เจ็ดแล้ว ขอแค่ถึงขั้นที่เก้า ก็สามารถเข้าระดับหนึ่งได้ การฟังก็ต้องดีมากอยู่แล้ว เขาเดินไปด้วย แล้วพูดเสียงเบาไปด้วยว่า “ยัยขี้เหร่ มีคนแอบเดินตามพวกเรามา และยังมีแรงอาฆาตด้วย”
“วางใจเถอะ มีเทพสงครามอยู่ พวกเศษเดนพวกนั้นไม่กล้าลงมือพร่ำเพรื่อหรอก พวกเราแค่เดินไปเรื่อยๆก็พอ”
หุบเขาที่นี่อันตรายมาก สองข้างเป็นแม่น้ำ เดินยากมาก และรอบด้านยังมีหมอกพิษอยู่เต็มไปหมด
กู้ชูหน่วนกับเซียวอวี่เซวียนกินยาต้านพิษแล้วก็ถึงเดินในหุบเขาได้อย่างสะดวกสบาย
“ยัยขี้เหร่ พวกเราเดินวนอยู่ในหุบเขานี้ จะไปไหนกันแน่?”
นางรู้ได้ยังไงว่าจะไปไหน?
นางแค่รู้ว่ากระดิ่งทลายวิญญาณในกระเป๋ากำลังชักนำให้นางไปข้างหน้า
“ไม่ได้ เดินต่อไปก็จะถึงหุบเขาใหญ่แล้ว ในนั้นต้องมีสัตว์ร้ายมากมายแน่ ด้วยความสามารถของพวกเรายากที่จะต่อกรได้ และด้านหลังยังมีคนไล่ตามมาอีก”
“พวกเราออกไปไม่ได้แล้วล่ะ”
“ว่าไงนะ?”
เซียวอวี่เซวียนยังไม่ทันตั้งสติ มู่หยงเฉินกับตงฟางเจ๋อก็เดินมาล้อมตัวพวกเขาไว้แล้ว
“พวกเจ้าอยากทำอะไร? นางเป็นถึงพระชายาหานเชียวนะ” เซียวอวี่เซวียนยืนข้างหน้านางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“รู้ว่านางเป็นพระชายา ไม่งั้นพวกเราจะตามมานานขนาดนี้ทำไม? กู้ชูหน่วน ในกระเป๋าของเจ้าคือกระดิ่งวิญญาณใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วยังไง?”
กู้ชูหน่วนเอากระดิ่งทลายวิญญาณออกมา แล้วแกว่งไปมาตรงหน้าพวกเขา
แสงจากกระดิ่งทลายวิญญาณประกายขึ้นแรงกว่าเดิม เหมือนกำลังชี้ทาง
มู่หยงเฉินกับตงฟางเจ๋อเห็นแล้วก็ตาค้างทันที ดวงตาประกายไปด้วยความโลภ อยากจะแย่งกระดิ่งทลายวิญญาณมาครอบครองโดยเร็ว
กู้ชูหน่วนกระตุกยิ้มมุมปาก “อยากได้เหรอ? งั้นก็ต้องดูว่าพวกเจ้ามีความสามารถมากพอจะมาแย่งไปไหม?”
เซียวอวี่เซวียนกุมขมับ
ผู้หญิงคนนี้ นางอยากจะป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า นางมีกระดิ่งทลายวิญญาณเหรอ?
มู่หยงเฉินกับตงฟางเจ๋ออยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนเต็มที ตอนนี้เห็นว่านางมีกระดิ่งทลายวิญญาณอีก แรงอาฆาตของพวกเขาก็ปรากฏออกมา ยกมือขึ้นตบฝ่ามือไปยังกู้ชูหน่วน
พวกเขาลงมือหนักมาก ไม่เบามือเลย แต่ละกระบวนท่าก็ทำให้คนปางตายได้เลย
กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มเย็นชา โอบเอวของเซียวอวี่เซวียนแล้วกระโดดลงไปยังหน้าผา
เซียวอวี่เซวียนตกใจ “ยัยขี้เหร่ เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง?”
“จะตายก็ตายด้วยกัน ตอนที่พวกเราร่วมสาบานก็เคยบอกไว้แล้วนี่” กู้ชูหน่วนหัวเราะ แล้วผิวปากไปข้างบน “พวกเจ้าสองคนกล้าก็กระโดดลงมาด้วยกันสิ กระดิ่งทลายวิญญาณอยู่ในมือข้านี่ไง”
พวกมู่หยงเฉินวิ่งไปข้างหน้าผา ชะโงกหัวออกไปดู ด้านล่างเป็นทะเลหมอกหนาๆ มองไม่เห็นสถานการณ์ข้างล่างเลย ไม่รู้ว่าลึกเท่าไหร่ด้วย พวกเขาจะโดดลงไปได้ยังไง
ในตอนที่พวกเขาสงสัยว่าทำไมกู้ชูหน่วนต้องโดดลงไปด้วย ทันใดนั้นไม่ไกลมากก็มีเสียงตูมดังขึ้น ขนาดพื้นยังสั่นสะเทือนไปด้วยเลย
มู่หยงเฉินกลับหลังหันไปด้วยเนื้อตัวที่สั่นคลอน กลับเห็นข้างหน้ามีฝูงเสือดาววิ่งมาด้วยความเร็วแสง พวกมันแต่ละตัวอ้าปากแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว สายตาดุร้าย มองพวกเขาสองคนเหมือนเป็นอาหารในจานเด็ดของพวกมัน