ห่างออกไปไม่ไกลนัก หลังจากฝังเข็มให้เย่จิ่งหานแล้วกู้ชูหน่วนก็มาหลบอยู่ในที่ไกลออกไป ฟังทุกถ้อยคำที่พวกเขาคุยกันโดยไม่ขาดแม้แต่คำเดียว
หุบเขาตันหุย?
มีอำนาจอะไรกัน
เป็นเผ่าที่หลอมยาโดยเฉพาะหรือ
แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไรว่ามุกมังกรอยู่ที่นี่
กระดิ่งทลายวิญญาณอยู่กับนางตลอดเวลา น่าจะไม่มีใครรู้ว่ามุกมังกรอยู่ที่นี่
ถ้าหากรู้ พวกเขาคงมาแย่งชิงไปนานแล้ว ไยต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วย
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นยังคงเดินหน้าต่อ ไม่รู้ว่าหลีโล่มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายนางตั้งแต่เมื่อไหร่ ถามว่า “พระชายา ได้ทำการเปลี่ยนน้ำสมุนไพรให้เจ้านายตามที่ท่านสั่งไว้แล้ว ไม่ทราบว่าพวกข้าน้อยต้องทำอะไรอีก”
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เปลี่ยนยาให้เขาทุกสองทุกยามก็พอ”
“แล้วพระชายาไม่อยู่เฝ้าเจ้านายหรือ”
“พวกเจ้าเฝ้าเย่จิ่งหานให้ดี ข้ายังมีเรื่องต้องไปสะสาง ไม่จำเป็นต้องติดตามข้า ถ้าหากร่างกายของเย่จิ่งหานเกิดผิดปกติขึ้นมา ก็ป้อนสิ่งนี้ให้เขาดื่ม “กู้ชูหน่วนส่งยาให้เขาขวดหนึ่ง
“พระชายา……”
หลีโล่ตกใจ
พวกเขาจะไม่สนใจพระชายาได้อย่างไร ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่อันตราย อีกทั้งยังมีคนของเผ่าปีศาจ เผ่าเทียนเฟิ่น รวมไปถึงเผ่าตันหุย ถ้าหากพระชายาเป็นอะไรขึ้นมา แม้พวกเขาจะมีศีรษะเป็นร้อยก็ไม่พอให้ตัด
“วางใจได้ ข้าไม่ไปไหนไกล แค่หาสมุนไพรใกล้ๆนี้เท่านั้น”
หลีโล่ใช้สายตาที่สงสัยมองนาง
พระชายาเปลี่ยนสีหน้าได้เร็วกว่าพลิกหนังสือเสียอีก ที่น่ากลัวคือ นางยังชอบพลิกไปพลิกมา ยากจะรู้ว่าครั้งนี้นางจะพลิกเป็นแบบไหน
กู้ชูหน่วนทั้งกล่อมทั้งหลอกล่อ ในที่สุดก็กล่อมให้หลีโล่กลับไปได้ ตัวเองขมวดคิ้วเล็กน้อย อาศัยความจำที่ได้จากกระดิ่งทลายวิญญาณก้าวไปยังปากปล่องภูเขาทีละก้าว
นางมีแผนที่ ฉะนั้นเวลาเดินทางจึงค่อนข้างราบรื่นกว่าคนอื่น อย่างน้อยก็ไม่ต้องเดินผ่านค่ายกลกับดักต่างๆ และไม่ต้องเดินอ้อมไปไกลนัก
เพียงแต่ยิ่งเข้าใกล้ปากปล่องภูเขามากเท่าไหร่ ความร้อนของทะเลโลหิตก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น นางสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า บนปากปล่องภูเขาคงจะเป็นทะเลโลหิตขนาดใหญ่ ทะเลโลหิตที่ล้อมรอบหุบเหวสองทั้งสองข้างของภูเขาน้ำเต้า ล้วนไหลมาจากทะเลโลหิตที่อยู่บนยอดของภูเขาน้ำเต้า
นางมีผลึกเกล็ดหิมะยังลำบากถึงเพียงนี้ กู้ชูหน่วนไม่รู้จริงๆ คนเหล่านั้นจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของภูเขาน้ำเต้าได้อย่างไร
จุดสิ้นสุดที่อยู่ข้างหน้าเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน ห่างได้ให้ห่างเอาไว้ คลื่นของทะเลโลหิตโหมกระหน่ำขึ้นมา กู้ชูหน่วนถอยหลังไปหลายก้าว ในมือกำกระดิ่งทลายวิญญาณเอาไว้แน่น ดวงตามีแววเคร่งขรึมถึงขีดสุด
ไม่มีทางเดินแล้ว
ปากปล่องภูเขาถูกทะเลโลหิตตัดขาดแล้ว ไม่สามารถไปถึงยอดภูเขาน้ำเต้าได้ อยากจะปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ต้องว่ายผ่านทะเลโลหิตเท่านั้น นี่มัน……
ทะเลโลหิตมีอุณหภูมิเกือบพันองศา ใครจะว่ายข้ามไปได้
ล้อเล่นอะไรกัน
กู้ชูหน่วนเดินอ้อมปากปล่องภูเขาสำรวจโดยละเอียดรอบหนึ่ง ยังคงหาเบาะแสใดๆไม่พบ
เพราะนางยืนอยู่บนที่สูง กู้ชูหน่วนจึงสังเกตเห็นโดยบังเอิญว่า ไม่เพียงแต่มีหัวหน้ากองกล้วยไม้ที่มา ยังพาฮองเฮาของแคว้นฉู่มาด้วย อีกทั้ง……เย่เฟิงก็ถูกจับตัวเอาไว้
เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นหัวของกู้ชูหน่วน จนเกือบจะล้มพับไปแล้ว
ฮองเฮาฉู่กับเย่เฟิงถูกจับ
ฮองเฮาฉู่ก็แล้วไปเถอะ ทำไมเย่เฟิงจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
เขาอยู่ที่สำนักอรุสามิใช่หรือ
เย่เฟิงอยู่ที่นี่ แล้วฝูกวงเล่า ฝูงกวงก็อยู่ที่นี่ใช่หรือไม่
ใต้ภูเขา
เป็นเพราะฮองเฮาฉู่ไม่มีวรยุทธ มาถึงดินแดนที่ร้อนระอุอย่างกะทันหัน ร่างกายอ่อนแอแม้แต่หายใจยังรู้สึกลำบาก
ริมฝีปากของนางซีดเผือด ใบหน้าแดงจัดจนน่ากลัว ร่างกายร้อนผ่าวไปหมด แม้แต่สติก็รู้สึกเลอะเลือนอยู่บ้าง
เย่เฟิงดูแลอยู่ข้างกายนาง อดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้นาง ดวงตาที่เย็นชามีแววร้อนใจ
“ค่อกแค่ก……”
ฮองเฮาฉู่ไปเป็นเลือดออกมา ลมหายใจยิ่งอ่อนลงหลายส่วน