อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 343 พี่ชายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนและเวินเส้าหยีแบกรับคลื่นความร้อนไปมากเพียงใด
พวกเขาทั้งสองคนเหงื่อไหลริน หายใจหอบถี่ ล้วนอยู่ตรงขีดอันตราย
ลมอุ่นๆพัดมา ความตระหนักรู้ของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าหยีหย่อนยานโดยสมบูรณ์ และทนไม่ไหวอีกต่อไป เคล้าคลออยู่ด้วยกันโดยที่ไม่รู้ว่าใครถาโถมเข้าหาใคร
แล้วในขณะที่พวกเขากำลังจะไปสู่ขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาเงาร่างสีเขียวที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด มือหนึ่งจับเถาวัลย์ที่เตรียมมาล่วงหน้า กระโดดลงเหวไปด้วยความรวดเร็ว
สายตาของเจ้าสำนักชิงมองไปรอบๆด้วยความร้อนใจ พยายามค้นหาหญิงสาวผู้นั้นในความทรงจำ
คลื่นหินหลอมเหลวขนาดใหญ่ทะลักขึ้นมาบ่อยๆ ทุกคลื่นขนาดใหญ่นั่นที่ทะลักขึ้นมา ก็เหมือนดั่งเพลิงขนาดใหญ่ในจิตใจ เผาไหม้ร่างกายของเขาไม่หยุดเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่ได้หวาดกลัว ดวงตาที่ดึงดันทั้งคู่นั่นค้นหากู้ชูหน่วนไม่พบ ก็สาบานว่าจะไม่ยอมแพ้
ฉับพลันนั้น เขาก็เห็นกู้ชูหน่วนบนแผ่นหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมา
จิตใจอันตึงเครียดของเจ้าสำนักชิงก็ผ่อนคลายลง
ไม่ช้า จิตใจของเขาก็กังวลขึ้นมา
เพราะว่าแววตาของนางเลื่อนลอย เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย กำลังทำอะไรกับเวินเส้าหยี
เดือดดาล
ความเดือดดาลดั่งคลื่นซัดสาด
คนยังไม่ถึง ฝ่ามือหนึ่งของเจ้าสำนักชิงก็กวาดเข้าไปอย่างรุนแรงแล้ว
อันตรายใกล้จะมาถึง ความตระหนักรู้ของเวินเส้าหยีฟื้นคืนมามาก เขาดึงเสื้อผ้าบังกู้ชูหน่วนไว้ในเวลาแรก
ช่วงเวลาต่อมาเขาก็ผลักกู้ชูหน่วนออก เลี่ยงไม่ให้พลังของฝ่ามือกระทบนาง
สุดท้ายจึงได้รวบรวมกำลังภายในที่เหลืออยู่น้อยนิดของตัวเองต้านทานพลังฝ่ามืออันดุเดือดนั่น
“ฟู่ว……”
เวินเส้าหยีที่บาดเจ็บสาหัสกระอักเลือดออกมาแล้ว
ยังไม่ได้ตอบสนอง กระบวนท่าสังหารของเจ้าสำนักชิงก็โจมตีเข้ามาติดๆ
“ปึงปึงปึง……”
แม้ว่าทั้งตัวของเจ้าสำนักชิงจะเต็มไปด้วยเลือด และบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน แต่เวินเส้าหยีสูญเสียกำลังภายในไปปริมาณมาก ตอนนี้วิทยายุทธห่างไกลกับเขาจนเทียบไม่ติด และได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยกว่าเขา
ทั้งยังโดนยาพิษอีก เสื้อผ้าก็ไม่เรียบร้อย
ประกอบกับเจ้าสำนักชิงอยู่ในอาการโมโห ภายใต้เหตุผลทุกอย่าง เวินเส้าหยีตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แทบจะถูกเจ้าสำนักชิงแขวนแล้วตี
เสียงการต่อสู้ดังขึ้นข้างหู มีเสียงดังสนั่นสะเทือนแก้วหูดังมาบ่อยๆ
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด ลืมดวงตาอันไร้เรี่ยวแรงขึ้น
นางไม่มองก็ไม่เป็นไร ทันทีที่มอง ความตระหนักรู้ของนางก็มาสองสามระดับ
เจ้าสำนักชิงที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดดวงตาสองข้างแดงก่ำ ฝ่ามือหนึ่งแล้วอีกฝ่ามือหนึ่งโจมตีเวินเส้าหยี
เวินเส้าหยีผู้น่าสงสารที่ผ่านมาอยู่อย่างสูงศักดิ์ วิทยายุทธสูงส่งแข็งแกร่ง น่าเกรงขามไปทั่วทิศกลับถูกเจ้าสำนักชิงโจมตีจนแทบหมดลม
“หยุด…….หยุดมือ”
ขลุ่ยหยกเขียวกวาดไป แทรกด้วยแรงสังหารที่เดือดพล่าน โบกไปทางเวินเส้าหยี
กู้ชูหน่วนรับรองว่า ขลุ่ยนี้ออกไป เวินเส้าหยีไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส
แทบจะไม่มีความลังเลใด กู้ชูหน่วนขวางหน้าเวินเส้าหยีไว้ตามสถานการณ์ ช่วยเขาขวางกั้นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตนั้น
เจ้าสำนักชิงตกใจแล้ว
เวินเส้าหยีก็ตกใจเช่นกัน
พริบตาแห่งความเป็นความตาย ม่านตาของเจ้าสำนักชิงหดลง ทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อสลายการโจมตีถึงแก่ชีวิตของขลุ่ยนั่น
“ฟู่ว…….”
เจ้าสำนักชิงถูกกำลังภายในของตัวสะท้อนกลับ กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง
“เจ้าสำนักชิง…….”
กู้ชูหน่วนโซซัดโซเซคลานเข้าไปประคองเขา
ดอกรัญจวนของนางยังไม่ได้ถอน เพิ่งจะสัมผัสร่างกายของเจ้าสำนักชิง สมองก็มีเสียงโห่ร้องนางชนิดหนึ่ง
กู้ชูหน่วนกัดลิ้นตัวเองแตก พยายามแลกสติมาเล็กน้อย
เห็นกู้ชูหน่วน ความโกรธของเจ้าสำนักชิงก็สลายไปเล็กน้อย “เจ้า……โดนยาพิษหรือ?”
“โดน……โดนพิษเข้าแล้ว ดอกรัญจวนที่รุนแรงมาก เจ้ารีบ……รีบไป” นางจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรขึ้นกับเจ้าสำนักชิง ยิ่งไม่อยากให้เขาเห็นฉากที่น่ารังเกียจเช่นนี้ของนาง
เจ้าสำนักชิงไม่ทันได้สนใจปรับลมปราณภายในของตัวเอง วางมือสองข้างไว้ที่หลังของนาง ใช้กำลังภายในของตัวเองสลายพิษอันรุนแรงของดอกรัญจวนไปพลาง
พลางเอ่ยว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ให้เวินเส้าหยีรอดพ้นวันนี้ไปได้ แม้ว่าจะพ่วงชีวิตตัวเองไปด้วยชีวิตหนึ่ง เขาก็จำเป็นต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา”