อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 372 ชาวบ้านที่เรียบง่ายซื่อตรง
ในห้องนอนอันเรียบง่ายสงบ
สีหน้าอี้เฉินเฟยขาวซีด นัยน์ตาทั้งคู่ปิดสนิท ลมหายใจในตัวแผ่วเบา เส้นผมขาวโพลนของเขาชอนไชลูกตา ชวนให้ปวดใจ
ข้างกายอี้เฉินเฟย ยังมีอาวุโสผมขาวอายุมากอีกหลายท่าน
เหล่าอาวุโสไม่รู้ว่าผลาญพลังภายในมากเกินไปหรืออย่างไร ลมหายใจไม่เสถียร สีหน้าก็โทรมเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนเพิ่งเข้าห้องมา ด้วยผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้นำ ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างทำความเคารพ “คารวะท่านหัวหน้าเผ่าขอท่านหัวหน้าเผ่าจงเจริญ”
“ท่านผู้เฒ่ารีบลุกขึ้นเถิด”
กู้ชูหน่วนไม่ค่อยคุ้นเคย ความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าหยกของนางมีไม่มาก จู่ๆ ถูกผู้สูงวัยมากขนาดนั้นเรียกท่านหัวหน้าเผ่า นางรู้สึกแต่เพียงตะขิดตะขวง
ขณะยื่นมือออกไปประคองพวกเขา กู้ชูหน่วนไม่ทันระวังจับถูกชีพจรของผู้อาวุโสใหญ่
กำลังภายในผู้อาวุโสใหญ่แข็งแกร่ง ความสามารถไม่รู้ว่าถึงระดับไหน แต่ผลาญลมปราณไปมาก ตอนนี้ลมหายใจไม่เสถียร อีกทั้งชีพจรของเขาคล้ายกับอี้เฉินเฟยมาก เหมือนมีพลังกัดกร่อนสายหนึ่งดูดพลังชีวิตของพวกเขาไม่หยุด
พลังชีวิตของเขาแม้ไม่สูญเสียมากเหมือนอี้เฉินเฟย แต่ก็สูญอย่างช้าๆ
หรือว่าคนที่ถูกคำสาปโลหิตจะมีชีพจรเช่นนี้?
ยังอยากจับชีพจรผู้อาวุโสใหญ่ให้ละเอียด แต่ผู้อาวุโสใหญ่ชักมือออกอย่างแนบเนียนแล้ว คล้ายไม่อยากให้นางจับชีพจรของเขา
ผู้อาวุโสหกเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น “อาหน่วน เจ้ากลับมาสักที ข้ารอเหล้าดีเจ้า รอจนผมหงอกหมดแล้ว เหล้าข้าล่ะ? หรือเจ้าแอบซ่อนที่ไหนอีกแล้ว?”
“เจ้าหก” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยด้วยความขรึม
ผู้อาวุโสหกกระแอมเบาเสียงหนึ่ง ยืดตัวตรง ยืนอยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อม
ผู้อาวุโสอื่นราวกับเกรงผู้อาวุโสใหญ่ แต่ละคนแม้ตื่นเต้น แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร
“พี่เฉินเฟยเป็นอย่างไรบ้าง?”
กู้ชูหน่วนเดินผ่านพวกเขาไป มาถึงตรงหน้าเตียง จับชีพจรของอี้เฉินเฟย ชีพจรของเขาดีกว่าเดิมบ้างแล้ว น่าจะมีคนใช้กำลังภายในมหาศาล ช่วยเขาฝืนควบคุมอาการไว้ แต่พลังชีวิตยังผลาญไม่หยุด กระทั่งกำลังภายใน ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวง เจ็ดเส้นเอ็นแปดชีพจร รวมไปถึงเลือดเนื้อไขกระดูกยังถูกกัดกร่อนไม่หยุด
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาต้องตายแน่
พวกเขาบอกว่าสองเดือนยังถือว่ามากแล้ว
อยู่ได้ถึงสองเดือน น่าจะเป็นขีดสุดของอี้เฉินเฟยแล้ว
“เรียนท่านหัวหน้าเผ่า อาการของเฉินเฟยนับว่าควบคุมได้แล้วชั่วคราว ไอ้แก่อย่างพวกเรา อย่างมากช่วยรักษาชีวิตให้เขาได้เพียงสองเดือน ไม่ทราบท่านหัวหน้าเผ่ามีเบาะแสที่อยู่มุกมังกรเม็ดที่หกแล้วหรือยัง? หากมี ข้าจะส่งคนออกค้นหามากขึ้น”
กู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก
ขนาดพวกเขายังไม่มีที่อยู่ของมุกมังกร แล้วนางจะมีได้อย่างไร?
นางข้ามมิติมาโลกนี้ เวลาก็ไม่มาก
ผู้อาวุโสสามถอนหายใจ “สถานการณ์ในเผ่าตอนนี้นับวันก็ยิ่งแย่ ถ้าไม่รีบรวบรวมมุกมังกรเจ็ดเม็ด เกรงแต่…”
“เจ้าสาม!”
ผู้อาวุโสใหญ่เสียงกร้าว
ผู้อาวุโสสามตกใจ หุบปากทันที
ผู้อาวุโสใหญ่จึงผ่อนน้ำเสียง กล่าว “ท่านหัวหน้าเผ่าโปรดวางใจ ในเผ่าปกติดีทุกอย่าง ท่านไม่ต้องกังวล และไม่ต้องร้อนใจด้วย”
“นั่นสิ ในเผ่าดีมาก อาหน่วน…ไม่ ท่านหัวหน้าเผ่า เจ้าอย่าฟังเจ้าสามพูดเพ้อเจ้อ เมื่อวานเขาต้องดื่มหนักไปแน่ วันนี้ถึงได้พูดจาเรื่อยเปื่อย”
“ใช่ๆๆ เมื่อวานข้าดื่มหนักไป ตอนนี้สมองยังมึนอยู่ ถึงได้พูดจาเลอะเทอะ ท่านหัวหน้าเผ่า คิดว่าถ้อยคำที่ข้าพูดเมื่อกี้เป็นผายลมแล้วกัน”
กู้ชูหน่วนลูบคาง
นางรู้ว่าพวกเขารีบรวบรวมมุกมังกรเจ็ดเม็ด แต่กลับไม่อยากให้นางเป็นกังวล ดังนั้นจึงปลอบนาง
ผู้อาวุโสใหญ่เห็นกู้ชูหน่วนเงียบงันพูดน้อย จึงเอ่ยเรียบ “ท่านหัวหน้าเผ่าเพิ่งกลับมา ต้องเหน็ดเหนื่อยบ้างเป็นแน่ พวกเจ้าออกไปเถอะ ให้ท่านหัวหน้าเผ่าพักผ่อนดีๆ”
เหล่าผู้อาวุโสต่างไม่อยากจากไป ยังอยากสนทนากับกู้ชูหน่วน ครั้นผู้อาวุโสใหญ่กวาดสายตาเย็นชาไป พวกเขาจึงได้แต่ออกไปก่อน
รักษาหัวหน้าเผ่าก่อน แล้วจึงรักษาอี้เฉินเฟย พวกเขาเสียกำลังภายในมากเกิน ควรกลับไปพักผ่อนให้ดีจริงๆ
“ท่านหัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าแต่เล็กท่านมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเฉินเฟย แต่…ท่านก็อย่าร้อนใจเกินไป เผ่าหยกทุกคนต่างพยายามหามุกมังกรให้ได้เร็วที่สุด เฉินเฟยเด็กคนนี้จิตใจดีงาม เขาไม่อยากให้ท่านเสียใจเช่นกัน ”
“ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าเห็นท่านก็อ่อนล้ามากเหมือนกัน ท่านกลับไปพักก่อนเถอะ”
“ได้”
กู้ชูหน่วนนั่งข้างเตียง ยื่นมือหอมขาวลูบใบหน้าซีดเซียวที่ดั่งเซียนมาจุติ ไรผมแยกชัดของเขา
ในความทรงจำ ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยเห็นนาง มักยิ้มเอาอกเอาใจ อ่อนโยนอบอุ่นเสมอ
นางหวังเพียงใดให้อี้เฉินเฟยยังเหมือนเมื่อก่อน ยิ้มอ่อนโยนกับนาง เรียกนางว่าเด็กโง่ เรียกนางอาหน่วน
“พี่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าบ่าของตัวเองหนักมาก แบกเรื่องที่ต้องทำมากมาย แต่ข้าคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันแน่ ตอนนี้…ข้าเหมือนจะเริ่มเข้าใจแล้ว ชะตาหนึ่งในนั้นของข้า ก็คือตามหามุกมังกรใช่ไหม?”
เนื่องจากอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พลังปิดผนึกไม่เสถียร เหล่าอาวุโสเผ่าหยกจึงบังคับให้กู้ชูหน่วนอยู่ต่ออีกหลายวัน
เวลาหลายวันนี้ กู้ชูหน่วนเข้าใจเผ่าหยกมากขึ้นอีกหลายส่วน
ที่นี่ไม่ได้มีแค่หมู่บ้านเดียว แต่มีหลายสิบหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านมีประชากรหลายร้อยถึงหลายพันคน ราวกับชนเผ่าโบราณที่ห่างจากโลกิยะ หรือเป็นแคว้นเล็กๆ แล้ว
ไม่รู้ว่าเพราะผู้อาวุโสใหญ่สั่งคนในหมู่บ้านโดยเฉพาะหรืออย่างไร ว่าไม่ให้รบกวนนางตามอำเภอใจ คนในหมู่บ้านต่างๆ จึงไม่กล้ามารบกวนนางตามใจชอบ มีเพียงเด็กที่ค่อนข้างซุกซนยังแอบมาเล่นกับนาง
อย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนคลุกคลีกับพวกเขาจนคุ้นเคย วิถีชาวบ้านอันเรียบง่ายแล้วซื่อตรงของที่นี่ ทำให้นางอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจาก
อาทิตย์ไขแสง แสงตะวันเรืองรองอร่ามราวกับฉาบแสงทองชั้นหนึ่ง สาดส่องในหมู่บ้าน ส่องจนหมู่บ้านมีความศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอีกหลายส่วน
กู้ชูหน่วนเป็นห่วงอาการของอี้เฉินเฟย อยากไปจากเผ่าหยกโดยเร็ว ตามหามุกมังกรที่เหลืออีกสองเม็ดต่อ นางตื่นแต่เช้า อย่างในความคาดหมาย ปากประตูมีผักสด เนื้อปลา ผลไม้และอย่างอื่นมากมายที่ชาวบ้านวางไว้
ท้องฟ้าเพิ่งสว่าง ในหมู่บ้านมีชาวบ้านลงนาใช้แรงงานแล้ว
กู้ชูหน่วนกวาดมองอย่างคร่าวๆ ทีหนึ่ง ไม่รู้เพราะอะไร นางมักรู้สึกว่าคนในหมู่บ้านหายไปเยอะ เมื่อก่อนฟ้ายังไม่สาง ข้างลำธาร ในท้องนา ล้วนมีชาวบ้านทุกหนแห่ง เสียงหัวเราะครื้นเครงแม้แต่นอกหมู่บ้านยังได้ยิน
วันนี้เด็กๆ ในหมู่บ้านเหล่านั้นก็ไม่เห็นแล้ว
“หัวหน้าเผ่า เหตุใดวันนี้จึงเช้านัก?”
อาหนิล่าสัตว์กลับมา เห็นนางอยู่ไกลๆ จึงแย้มยิ้มทักทาย
กู้ชูหน่วนจำเขาได้ เขาเป็นคนเอาใจภรรยาไร้ขอบเขตที่เลื่องชื่อในหมู่บ้าน ภรรยาของเขาว่าตะวันออก จะไม่กล้าไปทางตะวันตกเด็ดขาด ปกติก็ปรนนิบัติภรรยาของเขาอย่างครบถ้วนเฉกเช่นปรนนิบัติโอรสสวรรค์
โดยเฉพาะหลังจากภรรยาของเขาตั้งครรภ์ ยิ่งเอาใจอย่างละเอียด อมในปากกลัวละลาย กอบไว้ในมือก็กลัวตก
“ใช่แล้ว นี่ท่านไปล่าสัตว์ทั้งคืนหรือ?” กู้ชูหน่วนยิ้มน้อยๆ กวาดตามองไก่ป่า กระต่ายป่า อินทรีและอย่างอื่นด้านหลังเขา
“ช่วงนี้ฮูหยินข้าไม่ค่อยอยากอาหาร ข้าจึงฉวยตอนที่นางหลับรีบไปล่าไก่ป่ามาหลายตัวกลับมา ดูสิว่านางจะกินได้มากหน่อยไหม ท่านก็รู้ ตอนนี้นางตั้งท้องอยู่ ต้องบำรุงสักหน่อย”
ลุงหนิวหน้าแดง ลูบหลังศีรษะตัวเองอย่างเก้ๆ กังๆ เล็กน้อย ทันใดนั้นเอง เขาเหมือนคิดอะไรได้ หยิบไก่ป่าให้กู้ชูหน่วน
“ท่านหัวหน้าเผ่า สองตัวนี้ให้ท่าน ท่านก็ต้องบำรุง”