อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 374 หมู่บ้านเกิดเรื่อง
ที่ขอบม่านอาคม กู้ชูหน่วนนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง เท้าคางมองเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่มุดไปมุดมา หาเส้นทางไม่หยุดหย่อน แล้วถอนหายใจอีกครั้ง
เจ้างูซื่อบื้อนี่ พันรับรองหมื่นรับประกันบอกว่ามันจำคำพูดของเหล่าผู้อาวุโสได้ ยังแอ่นอกตบรับรองว่าพานางออกไปได้แน่นอน
สุดท้าย…
สุดท้ายนางไม่ควรเชื่อคำพูดของงูตัวหนึ่ง
เจ้านี่นิ พานางสาละวนในกลุ่มเขารอบแล้วรอบเล่า วนจนนางหน้ามืดตาลาย แต่ก็ออกจากม่านอาคมไม่ได้
น่าสงสารจนสุดท้าย รู้ว่านางแยกไม่ชัดแม้แต่เหนือใต้ออกตก จึงได้แต่นั่งรอมันหาทางออกอยู่ที่นี่
“ซี่ๆ…”
หัวใหญ่ๆ ของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ยักๆ ทางซ้าย
กู้ชูหน่วนมอบตาขาวให้มันทีหนึ่ง “หาต่อ! ข้าไม่อยากวนเขากับเจ้าอีกนะ”
“ซี่ๆ…”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงด้วยความน้อยใจ
หุบเขาหยกขาวมหาโหราเกินไป ลักษณะภูเขาแต่ละลูกก็คล้ายคลึงกัน นี่เป็นการรังแกงูอย่างเห็นได้ชัด!
นายหญิงน่าจะทำภูเขาให้เรียบ
กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความหงุดหงิด “ที่นี่เป็นภูเขาใหญ่สิบหมื่น ลูกหนึ่งเชื่อมกับอีกลูกหนึ่ง เจ้าเก่งจริงก็ไปทำให้เรียบสิ ถ้าเจ้าทำได้ เจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่านายหญิง แล้วข้าก็ไปเป็นสัตว์เลี้ยงเจ้าเลยแล้วกัน!”
“ซี่ๆ…”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กะพริบตาน้อยๆ อันบริสุทธิ์
ไม่มีของกิน มันไม่มีแรงทำให้เรียบ มันกลัวจะทำตัวเองแย่ไปเสียก่อน
กู้ชูหน่วนถอนหายใจอีกครั้ง
ใครชี้ทางออกให้นางได้บ้าง?
และถึงจะไม่ได้ ชี้ทางให้นางกลับหมู่บ้านก็ได้!
กู้ชูหน่วนลุกขึ้น จัดระเบียบกระโปรง ขณะคิดจะเสี่ยงดวง ไปทางหนึ่ง แวบหนึ่ง ข้างใบหูก็มีเสียงแว่วๆ ดังมา
“ก็บอกเจ้าตั้งแต่ทีแรกแล้ว ต่อไปล่าสัตว์ก็อย่าไปไกลขนาดนั้น เจ้าก็ไม่ฟัง ตอนนี้เป็นอย่างไร? พวกเราต้องเร่งกลับบ้านก่อนคืนวันที่สิบห้าไม่ได้แล้วแน่”
“ถ้ากลับไปไม่ทันจริงๆ มิเช่นนั้นเราก็หาที่ไกลๆ อีกหน่อยเถอะ ที่เปลี่ยวหน่อยผ่านวันที่สิบห้า จะได้ไม่ทำร้ายถูกคนอื่น”
“นอกจากแบบนี้ ยังทำอย่างไรได้อีก? หวังว่าคืนนี้พวกเราจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นแล้วกัน ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว พี่สาวข้าท้องเก้าเดือนกว่าแล้ว เด็กในท้องออกมาได้ทุกเมื่อ กลัวจริงว่าลูกของนางจะคลอดคืนวันที่สิบห้า”
“ถุยๆๆ เจ้ามันปากอีกา พูดเพ้อเจ้ออะไร? พี่สาวเจ้าจิตใจดีมีเมตตา ชอบทำบุญสุนทาน สวรรค์ไม่ยอมให้นางคลอดลูกวันที่สิบห้าหรอก”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นแล้ว”
“พูดจริงๆ นะ ข้าล่ะนับถือความกล้าของพี่เจ้าจริงๆ นางยังกล้าคลอดลูกอีก ข้าแม้แต่แต่งงานยังไม่กล้าเลย พี่ชายพี่สาวพวกนั้นของข้ายังกล้ากว่าข้าหน่อย อย่างน้อยก็แต่งงาน แต่พวกเขาก็ไม่กล้ามีลูกเหมือนกัน”
“พี่ใหญ่กับซ้อใหญ่เจ้าไม่ใช่ว่าชอบเด็กมากหรือ?”
“ชอบก็ส่วนชอบ แต่ใครไม่กลัวบ้าง? เกิดมาคลอดลูกตอนคืนวันที่สิบห้าจะทำอย่างไร? นั่นตายสถานเดียวเชียวนะ แล้ว…คนในหมู่บ้านเราก็ถูกคำสาปโลหิตหมด กำเริบทุกวันที่สิบห้า ทรมานอยู่ไม่สู้ตาย เจ้าว่าถ้ามีลูก มิต้องพาลรับเคราะห์ด้วยหรือ? รสชาติขออยู่ไม่ได้ ขอตายก็ไม่ได้แบบนั้น หรือว่าเรายังลิ้มรสกันไม่พอ?”
“ก็จริง เจ้าว่ามาอย่างนี้ ข้ายิ่งไม่กล้าแต่งงานมีลูกไปกันใหญ่ เฮ้อ ก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าเผ่าไปนานขนาดนั้น หามุกมังกรเจอหรือยัง ถ้ารวบรวมมุกมังกรได้ครบเจ็ดลูก จะดีแค่ไหนกันนะ? แบบนั้นทุกคนก็ไม่ต้องทรมานกับการที่คำสาปโลหิตกำเริบอีก”
“เพื่อหามุกมังกรหัวหน้าเผ่าทุ่มเทขนาดไหน รับความลำบากเพียงใด เจ้ามิใช่ไม่รู้ ข้าว่านะ ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรมเถอะ ข้ายอมทรมานจนตาย ก็ไม่อยากให้หัวหน้าเผ่ากังวลกับพวกเรามากอีก”
ชาวบ้านสองคนสนทนาไปก็เดินไป
กู้ชูหน่วนมองแผ่นหลังพวกเขาจากไป สองมือสั่นระริกเล็กน้อยไม่หยุด
คนทั้งหมู่บ้านต้องคำสาปโลหิต?!
เช่นนั้นสภาพการณ์ของทุกคนก็เหมือนกับอี้เฉินเฟยนะสิ?
กู้ชูหน่วนแทบไม่อยากจะเชื่อ หากทุกคนเป็นเหมือนกับอี้เฉินเฟย เช่นนั้นชีวิตพวกเขาก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้วนะสิ?
คิดถึงตอนกลางวัน ความผิดปกติของพวกลุงหนิวและเหล่าผู้อาวุโส
กู้ชูหน่วยเข้าใจในที่สุด
ที่พวกผู้อาวุโสต้องการให้นางไป ก็เพราะไม่อยากให้นางเห็นทุกอย่างในหมู่บ้าน
กู้ชูหน่วนเลือกเส้นทางหนึ่ง เอ่ยด้วยเสียงเย็น “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ กลับหมู่บ้าน”
“ซี่ๆ…”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บุ้ยปากไปทางซ้าย
กลับหมู่บ้านควรไปทางซ้าย
“เชื่อเจ้ากับผีสิ! ออกจากม่านอาคมมาทางซ้าย กลับหมู่บ้านก็ทางซ้าย?”
ทางซ้ายต้องไม่มีปัญหาแน่ นายหญิงจะรังแกงูไม่ได้นะ
“พอสักที ไปทางขวาเดี๋ยวนี้ พาข้ากลับหมู่บ้าน!”
น่าจะทางซ้าย…
“ปกติเจ้าบอกว่าทางซ้าย โดยรวมแล้วต้องทางขวา ถ้าเจ้าว่าขวา บางทีข้ายังอาจพิจารณาทางซ้าย”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังอยากแย้ง แต่กู้ชูหน่วนปีนขึ้นบนตัวมันแล้ว เอ่ยเตือนเสียงเย็น “ถ้ายังไม่รีบไปกับข้าอีก ต่อไปเจ้าอย่าหวังจะได้ปลาดีเนื้อดีจากข้า!”
พลังทำลายล้างของถ้อยคำนี้ทรงพลังมาก เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พุ่งออกไป ฟิ่วเดียวก็หายลับ
ขณะกลับถึงหมู่บ้าน ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
ในหมู่บ้านที่แต่เดิมคึกคักครื้นเครง บัดนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาคน
ถ้าไม่ใช่เพราะนางพักอยู่ที่หมู่บ้านนี้หลายวัน นางยังเกือบนึกว่านี่เป็นหมู่บ้านร้างที่ไม่มีผู้คน
คนล่ะ? ไปไหนกันหมดแล้ว?
หมู่บ้านกว้างใหญ่ ทุกคนจะหายไปในวันเดียวได้อย่างไร?
กู้ชูหน่วนไปหมู่บ้านข้างๆ หมู่บ้านข้างๆ ก็เป็นหมู่บ้านว่างเปล่าเหมือนกัน ในหมู่บ้านไม่มีเงาคนสักคน
นางไปอีกหลายหมู่บ้าน ผลลัพธ์เหมือนกัน
ไม่เพียงเท่านี้ แม้แต่อี้เฉินเฟยที่เจ็บหนักก็ไม่พบแล้วด้วย
ทันใดนั้นเอง เสียงโหยหวนหวีดหวิดที่แว่วมาแต่ไกลชวนให้ขนพองสยองเกล้า
ไม่นาน เสียงโหยหวนที่ปอดฉีกหัวใจแหลกลาญก็ดังขึ้นไม่หยุด เสียงหนึ่งต่ออีกเสียงหนึ่ง ขึ้นๆ ลงๆ กระจะเด่นชัดในราตรีอันเงียบสงัด
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เร็ว! พาข้าไปเขาข้างหน้าลูกนั้น!”