อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 415 คนที่พ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช
ชิงเฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า “ท่านอ๋อง พระชายามีแหวนมิติ บางทีในแหวนมิติยังมียาสมุนไพรอยู่บ้าง แต่ก็น่าจะใช้ใกล้จะหมดแล้ว ข้าน้อยสาบาน นับตั้งแต่ที่ท่านมีรับสั่ง ภายในจวนก็ไม่มีใครเอายาสมุนไพรมาให้นางเอก”
“พวกเจ้าล้วนทำงานกันยังไง พระชายากำลังตั้งครรภ์ พวกเจ้ากลับให้นางหลอมยาทั้งวัน ร่างกายของนางจะสามารถทนรับได้หรือ? เกิดอะไรขึ้นกับนางไม่เป็นไร แต่ถ้าหากลูกในท้องเป็นอะไรไปล่ะ?”
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยพูดกล่อมแล้ว แต่พระชายาพูดว่า ท่านอ๋องกักบริเวณนาง เพราะนางทำผิด ดังนั้นนางจึงต้องลงโทษตนเอง ปิดประตูหลอมยาอยู่ข้างในไม่ออกมา”
เห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องเป็นห่วงพระชายา ยังจะทำเป็นพูดถึงลูก เขาไม่ได้ตาบอดเสียงหน่อย
เย่จิ่งหาน ”……”
นี่ไม่ใช่การลงโทษตัวนางเอง
แต่เป็นการลงโทษเขา
เป็นความตั้งใจของนาง ตั้งใจบีบบังคับให้เขาเป็นฝ่ายไปหานาง เมื่อเป็นเช่นนี้ สงครามเย็นในครั้งนี้ นางก็เป็นฝ่ายชนะแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงได้ทรมานคนขนาดนี้
“ท่านอ๋อง งั้นท่านจากไปดูพระชายาด้วยตนเองหรือ?”
“ไม่ไป”
วาดภาพของเขาเป็นฝ่ายรับคนหนึ่ง ยังเป็นภาพกับผู้หญิงที่ตัวเตี้ยทั้งอ้วนทั้งอัปลักษณ์ กระทั่งยังเอาภาพวาดของเขาเผยแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวง
จนถึงตอนนี้ ยังมีคนไม่น้อย นินทาเขาอยู่ลับหลัง
ความโกรธนี้ เขายังไม่ได้เอาคือเลย
เจี่ยงเสวียพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าว่า “ท่านอ๋อง ปล่อยให้พระชายาทำตามอำเภอใจเช่นนี้ หากพระชายาไม่ทันระวังแล้วส่งผลกระทบต่อร่างกาย งั้น……”
“จับตาดูไว้ให้ดี อย่าให้เกิดเหตุอะไรขึ้นกับนาง รอยาสมุนไพรในมือของนางหมด”
“ขอรับ”
“ตูมปังปัง…..”
“ปัง…..”
“”ปังปังปัง…..”
ภายในจวนมีเสียงระเบิดดังอยู่อย่างต่อเนื่อง
จนคนในจวนต่างเคยชินแล้ว
คนนอกจวนต่างวิพากษ์วิจารณ์ เกิดอะไรขึ้นในจวนอ๋องกันแน่ ทำไมถึงมีเสียงระเบิดดังขึ้นทุกวัน
ผ่านไปอีกสองวัน
เย่จิ่งหานอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
กำลังคิดจะสั่งคนให้หยุดพระชายา ห้ามให้นางหลอมยาอีก
คิดไม่ถึงว่า ภายในจวนเกิดเหตุระเบิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงระเบิดในครั้งนี้ ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา
ครั้งนี้เสียงดังมาก ทั่วทั้งจวนสั่นสะเทือนไปหมด เรือนอุ่นทั้งหลังถล่มลงมา กลายเป็นซากปรักหักพัง
ชิงเฟิงรีบรายงานขึ้นว่า “ท่านอ๋อง แย่แล้ว เรือนอุ่นถูกระเบิดถล่มแล้ว”
“กู้ชูหน่วนล่ะ”
“พระชายา……”
ชิงเฟิงยังพูดไม่จบ ตรงหน้ายังมีเย่จิ่งหานมีตัวตนอยู่ตรงไหน ร่างกายของเขาพัดผ่านไปเหมือนลมกระโชก
ในใจในสายตาเย่จิ่งหานล้วนคือกู้ชูหน่วน ไม่กล้าคิดเลยว่ากู้ชูหน่วนจะถูกเรือนอุ่นถล่มลงมาทับไหม
ความโกรธโมโหก่อนหน้านี้ หลังจากได้ยินข่าวนี้ก็มลายหายหมดแล้ว เขาหลงเหลือเพียงความกังวล ตื่นเต้น กระวนกระวาย หวาดกลัว
ในที่สุดก็มาถึงตรงหน้าเรือนอุ่น เรือนอุ่นกลายเป็นซากปรักหักพังหมดแล้ว พวกคนใช้ต่างหิ้วน้ำไปช่วยกันดับไฟ ยังมีคนใช้อีกหลายคนที่สภาพย่ำแย่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งหนีออกมาจากซากปรักหักพัง
“พระชายาล่ะ”
เจี่ยงเสวียพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง พระชายาเพียงแค่บาดเจ็บเล็กน้อย ตอนนี้พระชายาถูกส่งไปรักษาตัวที่หอหลิงเยว่ ก่อนที่พระชายาจะหลอมยา จู่พวกคนใช้ก็ออกมาจากเรือนอุ่นทั้งหมด ดังนั้นคนใช้ในเรือนอุ่นจึงไม่มีคนเสียชีวิต”
เจี่ยงเสวียยังพูดไม่จบ เย่จิ่งหานก็หายไปอีกครั้ง
เจี่ยงเสวียขมวดคิ้วเล็กน้อย
เห็นท่านอ๋องตื่นเต้นขนาดนี้
ความเย็นชาระหว่างเขากับพระชายา ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ติดตามอยู่ข้างกายท่านอ๋องมานานหลายปีขนาดนั้น เขาไม่เคยเห็นท่านอ๋องถูกเอาเปรียบมาก่อน
หลังจากได้เจอพระชายา ท่านอ๋องเสียเปรียบมาตลอด ล้วนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างย่ำแย่ทุกครั้ง
แม้แต่ความรักใคร่ระหว่างสามีเมีย ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ภายในหอหลิงเยว่
กู้ชูหน่วนนอนอยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีด อ่อนแรงไปทั้งร่างกาย พวกหมอหลวงต่างกำลังตรวจชีพจร