อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 412 ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งจนใจ
“แผนที่จะลงมือกับเผ่าเทียนเฟิ่นดำเนินการก่อนกำหนด ส่วนสำนักอสุรา…..เอาตำแหน่งสำนักงานใหญ่ของสำนักอสุราเปิดเผยให้เผ่าเทียนเฟิ่นรู้”
“ขอรับ…..”
“ยังมีฮ่องเต้น้อยคนนั้น ข้ารู้สึกว่าเขาว่างจัด ในเมื่อมีเวลาว่าง งั้นก็ให้เขามีงานทำอีกสักหน่อย ตามแม่ทัพทั้งหมดกลับมา สั่งลงไปว่า ใครกล้าช่วยเหลือฮ่องเต้น้อย ถือว่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้า”
ชิงเฟิงพูดขึ้นอย่างกระวนกระวายใจว่า “ท่านอ๋อง หากตามแม่ทัพทั้งหมดกลับมา เกรงว่า….เกรงว่าแคว้นเย่จะรับมือการโจมตีจากแคว้นฮั่วอย่างต่อเนื่องไม่ไหว”
ถึงแม้แม่ทัพพวกนั้น เป็นแม่ทัพที่ฝีมือแย่ที่สุดของท่านอ๋อง แต่แม่ทัพที่ฝีมือแย่ที่สุด ตอนนี้ก็เป็นแม่ทัพที่ฮ่องเต้ให้ความสำคัญที่สุดแล้ว
“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรใส่ใจหรือ? ความใส่ใจของเจ้าในตอนนี้ คือจะรักษาหัวบนคอของเจ้าไว้ได้ยังไง ไม่สามารถทำให้เรื่องนี้สงบ เจ้าหิ้วหัวตัวเองมา”
“ขอรับ….ข้าน้อยจะรีบไปจัดการ”
ชิงเฟิงจากไปอย่างรีบร้อน เจี่ยงเสวียพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ท่านอ๋อง เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสำนักอสุราให้เผ่าเทียนเฟิ่นรู้ เผ่าเทียนเฟิ่นจะต้องไปโจมตีสำนักอสุราแน่ ….ยังไงสำนักอสุราก็เป็นเผ่าหยก เราอยากได้มุกมังกรห้าลูก ยังต้องอาศัยเผ่าหยก ล่วงเกินไปแล้วจะทำให้……”
“เจ้าเป็นท่านอ๋อง หรือข้าเป็นท่านอ๋อง”
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอท่านอ๋องลงโทษ”
“เดี๋ยวไปรับการถูกโบยแปดสิบที”
“ขอรับ”
เมื่อเย่จิ่งหานโกรธ ฝ่ามือใหญ่ตบลงไป โต๊ะไม้จันทน์น้ำหนักหลายร้อยปอนด์ถูกเขาตบจนแตกสลายในทันที
สำนักอสุรา……
อยู่ดีๆพวกเขาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องได้ยัง?
เดิมเย่จิ่งหานยังสงสัยเผ่าหยกกับสำนักอสุราเกี่ยวข้องอะไรกับกู้ชูหน่วน ตอนนี้เขามั่นใจว่า กู้ชูหน่วนไม่เพียงเกี่ยวข้องกับพวกเขา ยังเกี่ยวข้องอย่างไม่ธรรมดาด้วย
หรือกู้ชูหน่วนสนิทกับอี้เฉินเฟยแต่แรกแล้ว ดังนั้นอี้เฉินเฟยจึงรักใคร่เอ็นดู และช่วยเหลือนางตั้งแต่แรก
คิดได้เช่นนี้แล้ว เย่จิ่งหานพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “กู้ชูหน่วนล่ะ นางกำลังทำอะไรอยู่?”
“พระชายาบอกว่า หลายวันมานี้พักผ่อนไม่เพียงพอ ตอนนี้กำลังนอนอยู่ในเรือนอุ่น ยังสั่งไม่ให้ใครไปรบกวน”
ด้านนอกห้องมีเสียงสั่นเทาดังขึ้น “ท่าน….ท่านอ๋อง ด้านนอกจวนมีผู้หญิงทั้งเตี้ยทั้งอ้วนทั้งอัปลักษณ์ล้อมหมดแล้ว พวกนางต่างพูดว่าจะมาสมัครเป็นคนใช้ ขอท่านอ๋องรับพวกนางไว้ด้วย”
“ไล่ออกไปให้หมด”
“ไล่…ไล่แล้ว ไล่ก็ไม่ไป”
“ไล่ไม่ออกไป ก็จับตัวมาทั้งหมด โบยคนล่ะห้าสิบที แล้วโยนออกไปพร้อมกัน”
“ขอรับ…..”
คนใช้สีหน้าขาวซีด
ห้าสิบที คนจะไม่ถูกโบยตายหรือ?
ท่านอ๋องโกรธโมโหจริงๆแล้ว
เย่จิ่งหานโกรธจนสีหนังตึงไปหมด ไฟแห่งความโกรธร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชูหน่วน……
ผู้หญิงคนนี้…..
ทำเกินไปมากแล้วจริงๆ
“เจี่ยงเสวีย มีคำสั่งลงไป พระชายาประพฤติตนไม่ดีงาม กักบริเวณห้ามออกจากจวน ให้นางสำนึกผิดอยู่ในเรือนอุ่น ใครก็ห้ามช่วยนางส่งข่าวออกไปข้างนอก ใครขัดคำสั่งฆ่าตายไปเลย”
“ขอรับ”
เย่จิ่งหานก้าวเดินออกไป ตรงไปยังเรือนอุ่นอย่างโกรธจัด
ตลอดทางที่เดินมา คนใช้ทุกคนต่างก็คุกเข่าลง ไม่กล้าเงยหัวขึ้นมาด้วยซ้ำ กลัวถูกท่านอ๋องลงโทษโบยตี
เย่จิ่งหานผลักประตูเรือนอุ่นอย่างแรง
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือกู้ชูหน่วน นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสบายอกสบายใจ
เย่จิ่งหานทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งจนใจ
ผู้หญิงคนนี้ สร้างปัญหาให้เขาอย่างใหญ่หลวง
นางกลับดี นอนหลับอยู่อย่างสบาย
เขาเรียกอย่างโมโหว่า “กู้ชูหน่วน”
เสียงตะโกนดัง นกกาต่างตกใจบินหนีไปหมด
กู้ชูหน่วนก็ตกใจตื่นขึ้นมา
นางดึงหูของตนเอง พร้อมพูดขึ้นอย่างงัวเงียว่า “ตะโกนดังขนาดนั้นทำไม ในจวนมีคนตายหรือ?”
ชิวเอ๋อร์อยากพูดเตือนนาง ให้นางรีบคุกเข่าสารภาพผิด กู้ชูหน่วนกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่าทีสูงส่ง ไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น และก็ไม่เห็นเย่จิ่งหานอยู่ในสายตา