อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 429 ปกป้อง
นิ้วมือเรียวของกู้ชูหน่วนเคาะบนโต๊ะเบาๆ ไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่ สักพักแล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ยอดเขากุยหยุนคือที่ไหน”
“เรียนนายหญิง ยอดเขากุยหยุนเป็นหน่วยหลักของเผ่าเทียนเฟิ่น แต่ผู้คนต่างรู้เพียงชื่อยอดเขากุยหยุน ส่วนยอดเขากุยหยุนตั้งอยู่ที่ไหน ตอนนี้ไม่มีใครรู้”
“ดังนั้น พวกเจ้าก็ไม่รู้ว่ายอดเขากุยหยุนตั้งอยู่ที่ไหน?”
“ใช่ ผู้คนต่างไม่มีใครรู้ เหมือนอย่างที่ไม่มีใครรู้ว่าเผ่าหยกของเราอยู่ที่ไหน ข้าน้อยเดาว่า ยอดเขากุยหยุนน่าจะเหมือนเผ่าหยก มีม่านอาคมปกคลุมไว้ ดังนั้นไม่ว่าผู้คนจะตามหายังไง ก็ตามหายอดเขากุยหยุนไม่เจอ”
หนึ่งในกุญแจรูปดาวอยู่ในยอดเขากุยหยุน ต่อให้หายอดเขากุยหยุนยากขนาดไหน ก็ต้องหา
เวินเส้าหยีเป็นนายน้อยของยอดเขากุยหยุน เขาน่าจะรู้ว่ายอดเขากุยหยุนอยู่ที่ไหน?
เห็นทีการจะตามหายอดเขากุยหยุน ยังต้องพึ่งเวินเส้าหยี
“งั้นหุบเขาตันหุยล่ะ?”
“หุบเขาตันหุยก็เป็นสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง คนที่รู้ทางเข้ามีน้อยมาก นายหญิงจะไปหุบเขาตันหุยหรือ? หากนายหญิงจะไปหุบเขาตันหุย ข้าน้อยจะรีบสั่งคนไปเอาแผนที่มา แล้วก็สั่งคนแอบเข้าไปในหุบเขาตันหุย”
“หมายความว่า พวกเจ้ารู้ว่าหุบเขาตันหุยอยู่ที่ไหน?”
“รู้”
กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจออกยาวๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เผ่าตันหุยกับเผ่าปีศาจ สองแห่งนี้ก็ถือว่าง่ายขึ้นแล้ว
“เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหุบเขาตันหุยให้ข้าฟัง”
“หุบเขาตันหุยมีชื่อเสียงในการหลอมยา ผู้คนตระกูลใหญ่ไม่น้อย เพื่อให้ได้ยาหลอมของหุบเขาตันหุยมาหนึ่งเม็ด จนถึงขั้นตระกูลล้มละลายบ่อยๆ และก็มีคนที่ตามหาประตูทางเข้าหุบเขาตันหุยทั้งชีวิต เพื่อให้ได้ยาหลอมมาหนึ่งเม็ด ทำให้ตนเองมีพลังแข็งแกร่งมากขึ้น หรือเป็นการช่วยชีวิตญาติพี่น้องของพวกเขา ที่พวกเขาอยู่ในตำแหน่งเร้นลับ เพราะเป็นกฎที่บรรพบุรุษสร้างไว้ อย่างอื่นไม่มีอะไร”
“ดังนั้นจึงไม่มีบุญคุณความแค้นอะไรกับเผ่าหยกเรา?”
“ไม่มี แต่หลายปีมานี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หุบเขาตันหุยก็ตามหามุกมังกรมาตลอด และก็มีปัญหา กระทบกระทั่งกับพวกเราหลายครั้ง จนมีหลายครั้งที่ต่อสู้กันขึ้นมา ตามที่ข้าน้อยไปสืบมา ภายในหุบเขาตันหุยเกิดการแบ่งพรรคพวก มีคนเสนอให้อยู่อย่างเปิดเผย และมีคนไม่ยินยอม”
“ต๊อกต๊อกๆ…..”
เสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้น พร้อมมีคนพูดขึ้นว่า “ท่านสาม เทพสงครามกลับมาแล้ว ไม่ช้าก็จะเข้ามาแล้ว”
“รู้แล้ว”
กู้ชูหน่วนเอาเข็มทิศเปิดฟ้าเก็บไว้ในแหวนมิติ พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ล้วนออกไปก่อนเถอะ ช่วงนี้นอกจากตามหามุกมังกรแล้ว อย่าทำอะไรโดยภาระการ มีอะไรข้าจะติดต่อพวกเจ้า”
“ขอรับ”
เมื่อกี้ยังมีคนอยู่เต็มห้อง เพียงพริบตาเดียวล้วนออกไปจากทางห้องลับ
กู้ชูหน่วนใช้เท้าเตะร่างกายชิงเฟิง
ชิงเฟิงตื่นขึ้นมายังสะลึมสะลือ เอามือลูบหัวพร้อมถามขึ้นว่า “พระชายา ข้าสลบไปได้อย่างไร?”
“เจ้าถามข้า? ข้าถามใคร เย่จิ่งหานให้เจ้าคอยปกป้องข้า แล้วเจ้าก็ปกป้องแบบนี้หรือ?”
“คือ…..”
“คืออะไรคือ พูดความจริงออกมา เมื่อคืนเจ้าออกไปเที่ยวเตร่ใช่ไหม วันนี้ถึงได้งีบหลับ?”
“เข้าใจผิด ข้าจะกล้าหรือ ข้า….”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดมากแล้ว งานประมูลจะเสร็จสิ้นแล้ว เบื่อแล้ว ทั่วทั้งงานประมูล ก็ไม่เห็นมีสิ่งของอะไรถูกใจ ยังบอกว่าเป็นงานประมูลครั้งใหญ่ หลอกลวงกันชัดๆ”
ชิงเฟิงมึนงงสงสัยอย่างที่สุด
อยู่ดีๆ ทำไมเขาถึงได้สลบไป หรือว่าพระชายาทำอะไรอีก?
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ใช่ ข้ากระทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้ อย่างเช่นนัดเจอชายรูปงามบางคน เจ้าไปฟ้องเย่จิ่งหานได้เลย”
“……”
“แต่หลังจากฟ้องแล้ว เจ้าคิดดูให้ดี เจ้าก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ ท่านอ๋องให้เจ้าคอยปกป้องข้า แล้วเจ้าก็ปกป้องแบบนี้หรือ?”