อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่492 แต่งงาน
“สถานที่ต้องห้ามอยู่ไหน เจ้าพาข้าไปดูหน่อยสิ”
กู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้มกะทันหัน
น่าหลันหลิงลั่วมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ในสายตาเหมือนเข้าใจอะไรแล้วบ้าง
“เจ้ามาหุบเขาตันหุย คงไม่ได้มาเพราะสถานที่ต้องห้ามหรอกนะ?”
“ข้าชอบการผจญภัยอยู่แล้ว ยิ่งเป็นสถานที่ลึกลับ ข้ายิ่งอยากไป เจ้าแค่พูดมาคำเดียว เจ้าจะพาข้าไปหรือไม่?”
“ตลกล่ะ ข้าเป็นเจ้าหุบเขาน้อยแห่งหุบเขาตันหุย เจ้าเป็นอะไรกับข้า ทำไมข้าต้องเสี่ยงอันตรายพาเจ้าไปด้วย นอกเสียจากว่า เจ้าจะเป็นภรรยาของข้า”
“ภรรยา? เรื่องนี้คุยกันได้ เอ้านี่ ข้าให้เจ้า”
กู้ชูหน่วนดึงหยกออกมาจากเอว แล้วโยนให้เขา
น่าหลันหลิงลั่วตะลึง มองดูหยกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อบอุ่นบนฝ่ามือ
“นี่จะทำอะไร?”
“ของขวัญแทนใจไง เรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องของวันสองวันนะ ข้ามอบของขวัญแทนใจให้เจ้าก่อน พวกเราถือว่าหมั้นกันแล้วนะ”
“……”
ถ้าน่าหลันหลิงลั่วรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่คิดเล็กคิดน้อย ตรงไปตรงมาแบบนี้ ก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
ผู้หญิงคนนี้ ง่ายเกินไปไหม
พวกเขาเพิ่งเจอกันครั้งที่สองเองนะ ครั้งแรกคือที่ภูเขาน้ำเต้า
นางไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาเลย แต่กลับเพราะคำพูดเดียวก็หมั้นกันแล้ว?
นี่มันเร็วเกินไปไหม?
“ทำไม เจ้าไม่อยากเหรอ?” กู้ชูหน่วนถามกลับ
น่าหลันหลิงลั่วไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
เขาอยากอยู่แล้ว แต่ดูเร่งรีบแบบนี้ เป้าหมายของนางดูจะชัดเจนเกินไปแล้ว
“ข้าต้องการผู้หญิง หัวใจของนาง ร่างกายของนางก็ต้องเป็นของข้าคนเดียว แต่ไม่ใช่คนที่ต้องการหลอกใช้ข้า”
“เจ้าใช้ตาข้างไหนดูว่าข้าหลอกใช้เจ้า?”
“……”
กู้ชูหน่วนแย่งหยกในมือเขากลับมา แล้วพูดอย่างรำคาญว่า “ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่อยากได้ ก็ถือเสียว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน ยังไงวันหลังก็เป็นงานชื่นชมยาชั้นเลิศแล้ว ข้าจะเข้าไปด้วยความสามารถของตัวเอง”
น่าหลันหลิงลั่วรีบแย่งหยกในมือนางกลับมาอย่างรวดเร็ว
“มีที่ไหนมอบของขวัญแทนใจให้คนอื่นแล้วแย่งกลับไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็จะเป็นว่าที่ภรรยาของข้า เป็นว่าที่ภรรยาของข้าแต่เพียงผู้เดียว เจ้าจะแต่งงานกับคนอื่นอีกไม่ได้”
เขาพูดแล้ว ก็เอาหยกของตัวเองมอบให้กู้ชูหน่วน หยกชิ้นนี้เป็นหยกเขียวทั้งชิ้น แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง เห็นแล้วก็รู้ว่าเป็นหยกที่ดีมาก
กู้ชูหน่วนแค่มองผ่านๆ ก็ใส่เข้าไปในแหวนมิติทันที
นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ ข้าจะรับหยกของเจ้าไว้ งั้นตอนนี้พาข้าไปสถานที่ต้องห้ามได้หรือยัง?”
“ถึงแม้ข้าจะเป็นเจ้าหุบเขาน้อย ก็ไม่มีสิทธิ์พาเจ้าไปที่นั่นอยู่ดี ถ้าอยากเข้าไป นอกจากจะเป็นเจ้าหุบเขาใหญ่แล้ว ก็คือคนที่ได้ที่หนึ่งของงานชื่นชมยาชั้นเลิศ แต่ว่า ข้าสามารถพาเจ้าไปดูรอบนอกของสถานที่ต้องห้ามได้นะ”
กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ ด้านนอกก็ด้านนอก”
นางลองไปสำรวจดูสถานที่ก่อน ถึงตอนนั้นจะได้ประหยัดเวลาหน่อย
ส่วนว่าที่ภรรยา……
เหอะ……
ตอนนี้นางเป็นพระชายาหาน อยากจะแต่งงานกับนาง ก็ต้องผ่านด้านเย่จิ่งหานก่อนไหม
“เจ้ารอข้าก่อนนะ ข้าไปรายงานพ่อบุญธรรมก่อน”
“นี่ๆๆ เจ้าไปบอกตาแก่นั่นแล้ว ตาแก่นั่นจะให้ข้าไปเหรอ? เจ้าคงไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกนะ”
น่าหลันหลิงลั่วหัวเราะด้วยน้ำตา
คนที่คิดจะทำอะไรคือนางไม่ใช่เหรอ?
เขารู้ว่านางไม่ชอบเย่จิ่งหาน แต่ตอนนี้นางยังเป็นพระชายาหานอยู่ แต่กลับตกลงแต่งงานกับเขา นี่จะให้เขาเปิดศึกกับเย่จิ่งหานซึ่งๆหน้าหรือไง?
“พ่อบุญธรรมมีข้าเป็นลูกชายคนเดียว แต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องบอกกับพ่อบุญธรรมก่อน ข้าไม่เพียงแต่จะบอกกับพ่อบุญธรรมเท่านั้น ยังจะบอกกับทุกคนในหุบเขาตันหุยด้วย และจะบอกกับทุกคนในใต้หล้านี้อีกด้วย”
“ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นก็ได้”
นี่มจะผลักนางไปหาเย่จิ่งหานหรือไง?
ถึงเวลาเย่จิ่งหานได้สับนางเป็นชิ้นๆแน่
“ต้องสิ เจ้าแต่งงานกับข้า ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องจัดงานแต่งอย่างอลังการ จะให้เจ้าน้อยใจได้ยังไง”
กู้ชูหน่วนกลอกตามองบน
น่าหลันหลิงลั่วก็เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เหมือนกัน
เป็นจิ้งจอกแก่เลยล่ะ
“แล้วแต่เจ้าเถอะ ข้ามีแค่คำขอเดียว ตอนนี้รีบพาข้าไปสถานที่ต้องห้ามเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นการแต่งงานครั้งนี้เป็นอันโมฆะ”
“รอข้าสิบห้านาทีนะ หลังจากนั้นข้าจะรีบพาเจ้าไปทันที”
พูดจบ น่าหลันหลิงลั่วก็หายตัวไปแล้ว
ไม่นาน หุบเขาตันหุยก็ตีระฆังมงคล แขวนผ้าแดงและโคมไฟแดงทั่วหุบเขา
กู้ชูหน่วนเงี้ยหูได้ยินเสียงพูดคุยของลูกศิษย์ที่ลาดตระเวนอยู่
“ได้ยินว่าเจ้าหุบเขาน้อยจะแต่งงานแล้ว ทำไมกะทันหันแบบนี้ล่ะ พวกเรายังไม่เคยเห็นนางเลย”
“นั่นน่ะสิ ถ้าไม่ใช่คำสั่งจากปากของเจ้าหุบเขาใหญ่ ข้ายังไม่อยากจะเชื่อเลย”
“ที่สำคัญคือ งานแต่งคือวันพรุ่งนี้ บอกว่าพรุ่งนี้เป็นงานชื่นชมยาชั้นเลิศ เจ้าหุบเขาน้อยจะแต่งงาน หุบเขาของเราก็ยิ่งคึกคักยิ่งขึ้นน่ะสิ”