อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 534 ห้ามถอด
“เรื่องนี้ใครจะไปรู้ แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งน่าประหลาดใจมาก ”
“เอ๋……เรื่องอะไร”
“รองหัวหน้าเผ่ากับหัวหน้าเผ่าน้อยของพวกเราไปเข้าร่วมงานชื่นชมยาชั้นเลิศที่หุบเขาตันหุยแล้วมิใช่หรือ ไม่รู้ทำไม พวกเขาจึงหล่นลงมาจากฟ้าอย่างกะทันหัน ปรากฏตัวอยู่บนคานของตำหนักหลักในเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเรา ได้ยินว่าทำเอาคานยุบไปเลยทีเดียว”
“เป็นไปไม่ได้ แม้ว่ารองหัวหน้ากับหัวหน้าเผ่าน้อยจะเดินทางกลับเผ่าเทียนเฟิ่น ก็คงไม่สามารถลงมาจากท้องฟ้า กระแทกคานตำหนักจนเสียหาย อีกอย่างหุบเขาตันหุยอยู่ห่างจากเผ่าเทียนเฟิ่นของเราขนาดนั้น ในเวลาสั้นๆแค่นี้ พวกเขาจะกลับมาได้อย่างไร นอกเสียจากพวกเขาจะไม่เคยไปถึงหุบเขาตันหุยเลย”
กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานต่างก็สบตากัน
พวกเขาสองคนตกลงมาที่นี่ เวินเส้าหยีกลับหล่นลงบนคานบ้าน แล้วคนอื่นๆเล่า ต่างก็ร่วงหล่นอยู่ในสถานที่อื่นๆของเผ่าเทียนเฟิ่นใช่หรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นจอมมารสีชิ่น ไป๋จิ่น อำนาจเบื้องหลังล้วนแข็งแกร่งอย่างที่ละเลยไม่ได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง แต่กลับต้องเป็นห่วงตนเองว่าจะสามารถไปจากเผ่าเทียนเฟิ่นอย่างราบรื่นได้หรือไม่
ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายเห็นว่าที่นี่ไม่มีใคร ก็เอ่ยขึ้นอย่างมีลับลมคมนัยว่า” เห็นแก่ที่พวกเราเป็นมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ข้าจะแอบบอกความลับบางอย่างกับเจ้า หัวหน้าเผ่าน้อยกับรองหัวหน้าเผ่าไปที่หุบเขาตันหุยจริง ที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บ เพราะว่าถูกทำร้ายที่หุบเขาตันหุย”
“ล้อเล่นอะไรกัน ทั้งสองสถานที่นี้ห่างกันหนึ่งแสนแปดพันลี้ อีกอย่างหุบเขาตันหุยก็ไม่มีคนที่มีความสามารถทำร้ายรองหัวหน้าเผ่ากับหัวหน้าเผ่าน้อยของเราได้กระมัง”
“ทำไมเจ้าจึงไม่เชื่อสิ่งที่ข้าพูด เรื่องนี้พี่สาวข้าบอกกับข้าเองเลยนะ พี่สาวข้าเป็นเมียน้อยที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงโปรดปรานมาก สิ่งที่นางพูด ไม่มีทางเป็นเรื่องไม่จริง”
“ก็ใช่……”
“จริงๆนะ ไม่เพียงเท่านี้ เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันกับเจ้าหุบเขาน้อยน่าหลันก็มาแล้ว”
“อะไร……หุบเขาตันหุยกำลังจัดงานชื่นชมยาชั้นเลิศมิใช่หรือ จะมาที่เผ่าเทียนเฟิ่นได้อย่างไร ”
“ฉะนั้นข้าจึงรู้สึกว่าเรื่องราวมันน่าแปลกอย่างไรเล่า”
“คนของหุบเขาตันหุยมาที่เผ่าเทียนเฟิ่นของเราทำไม”
“เรื่องนี้ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้ารู้แค่ว่าพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่มีลางบอกกล่าวใดๆ เหมือนหัวหน้าเผ่าน้อยของพวกเรา ที่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า อีกอย่าง……ข้ายังได้ยินมาว่า เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเรายังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกด้วย ท่านหัวหน้าเผ่ากำลังส่งคนออกไปตามจับตัว”
สองคนพลางพูดคุยกัน พลางเดินออกไป
กู้ชูหน่วนลูบคางตัวเองด้วยความเคยชิน พึมพำกับตัวเองว่า “หึ……ครั้งนี้เผ่าเทียนเฟิ่นคงครึกครื้นไม่น้อย”
“ถ้าหากคนของหุบเขาตันหุยก็มา เช่นนั้นคนของเผ่าหยก หากไม่เกิดความคาดคิด ก็น่าจะมาเช่นกัน”
หัวใจของทั้งสองหนักอึ้ง
นอกจากพวกเขา คนอื่นยังพอคุยกันได้
แต่ว่าคนของเผ่าหยกปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ต้องต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับเผ่าเทียนเฟิ่นแน่
ที่นี่เป็นเขตแดนของเผ่าเทียนเฟิ่น ถ้าเกิดเรื่องปะทะกันขึ้นที่นี่ เผ่าหยกต้องเสียเปรียบแน่นอน
“หาทางออกไปจากที่นี่ก่อน หากสามารถค้นหาค่ายกลขนส่งได้จะดีที่สุด ถ้าหาไม่เจอ ก็คงต้องสู้เท่านั้น”
ทั้งสองคนทำการสำรวจ ก็ไม่พบว่ามีค่ายกลขนส่งอะไร ได้แต่ให้กู้ชูหน่วนเป็นผู้นำ เดินออกไปด้านนอกอย่างเงียบเชียบ
คนเฝ้ายามมีแค่สองคน
กู้ชูหน่วนยิงอาวุธลับออกไปสองชิ้น ทำให้สองคนที่ไม่ทันได้ระวังตัวสลบไปทันที
นางเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ ถอดเสื้อผ้าของพวกเขาออกจากร่างอย่างรวดเร็ว สวมใส่ไว้บนร่างของตนเอง แล้วโยนให้เย่จิ่งหานหนึ่งตัว
เย่จิ่งหานเกือบอึ้งไปเลย
ท่าทีที่ชำนาญเช่นนี้
ผู้หญิงคนนี้เคยถอดเสื้อผ้าของคนอื่นมาตั้งกี่ครั้งกันแล้ว
“มองอะไร ยังไม่รีบใส่อีก”
“วันหลังห้ามถอดเสื้อผ้าของผู้ชายอีก “เย่จิ่งหานกัดฟันกรอด
“ได้ได้ได้ วันหน้าข้าจะถอดเสื้อผ้าของท่านแค่คนเดียวดีหรือไม่”
นี่มันเวลาไหนกันแล้ว ยังจะมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรอีก
ก็แค่ถอดเสื้อผ้า ไม่ได้ทำเรื่องนอกลู่นอกทางเสียหน่อย