อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 537 ใส่ร้าย
เหล่าผู้อาวุโสต่างก็มองรองหัวหน้าเผ่าซือคงที่กอดฮองเฮาฉู่อย่างตกตะลึง ผ่านไปนานก็ยังพูดอะไรไม่ออก
รองหัวหน้าเผ่าซือคงรีบปล่อยฮองเฮาฉู่ทันที และสกัดจุดฮองเฮาฉู่ในที่ที่คนอื่นมองไม่เห็น จงใจทำเป็นนิ่งสงบและพูดว่า “นางเป็นบ่าวรับใช้ในเรือนบ่าวชั้นใน ก่อนหน้านี้ที่บ้านเกิดเรื่องเล็กน้อย ทำให้สติไม่ค่อยดี ประเดี๋ยวข้าจะให้ท่านหมอมาตรวจชีพจรนาง”
เขาพูดอย่างสบายอกสบายใจ แต่พวกอาวุโสไม่เชื่อเขาเลยแม้แต่คำเดียว
ยังไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ เรือนบ่าวชั้นในก็ไม่ใช่ที่ที่ใครจะสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ นับประสาอะไรกับหญิงสาวคนนี้ที่สมองไม่ค่อยปกติ
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยเตือนว่า “รองหัวหน้าเผ่า เผ่าเทียนเฟิ่นมีกฎระเบียบ รองหัวหน้าเผ่านั้นไม่สามารถแต่งงานให้กำเนิดลูกได้ ”
ตอนนั้นเป็นเพราะภรรยาและลูกของเขาต่างก็ตายไปหมดแล้ว จึงมีสิทธิ์เลื่อนขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าเผ่า
“ทำไม พวกเจ้าไม่เชื่อข้าหรือ “สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงขรึมลง เป็นไปได้ว่าอาจเคืองพวกเขาได้ทุกเมื่อ
“พวกข้ามิกล้า เพียงแต่……”
“ทำไมจู่ๆพวกเจ้าจึงมาที่นี่ได้”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายจึงได้สติขึ้นมา “เมื่อครู่พวกเราเห็นเงาคนสองคนผ่านไป จึงไล่ตามมาถึงที่นี่”
“ลั่นระฆังแจ้งเตือน ให้คนในเผ่าทั้งหมดทำการป้องกันเต็มที่ ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดละก็ ในเผ่าเทียนเฟิ่นของเรานอกจากหุบเขาตันหุยแล้ว น่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญอีกมาทีเดียว”
“ขอรับ”
เย่จิ่งหานอยากจะพากู้ชูหน่วนถอยออกไป แต่ว่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นจำนวนมากได้ขวางทางหนีที่ไล่ทั้งหมดไว้แล้ว
ที่สำคัญคือ ยังมียอดฝีมือที่มีพลังไม่ต่ำกว่าระดับห้ากำลังเร่งเดินทางมาด้วย
ทันใดนั้น สายตาที่คมกริบคู่หนึ่งก็จ้องมองมาทางพวกเขา
พวกเขารู้ดีแก่ใจ ตนเองได้ถูกพบเข้าแล้ว
เย่จิ่งหานกำลังจะเดินออกไป แต่กู้ชูหน่วนเร็วกว่าหนึ่งก้าวชิงเดินออกไปก่อน
นางฉีกยิ้มพร้อมพูดว่า “รองหัวหน้าเผ่าซือคง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะบังอาจมาก แม้แต่ฮองเฮาของแคว้นฉู่ยังกล้าจับตัวมา”
ทุกคนต่างก็รู้ตกตะลึง
อะไรนะ……
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นถึงฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่
“รองหัวหน้าเผ่า ทำไมท่านจึงจับตัวฮองเฮาของแคว้นฉู่มาที่นี่”
“นางพูดอะไร พวกเจ้าก็เชื่อหรือ นางไม่ใช่ฮองเฮาของแคว้นฉู่”
กู้ชูหน่วนทำเสียงจุ๊ปาก พร้อมกับปรบมือและพูดยิ้มๆว่า “ตาเฒ่าซือคง เจ้าคงไม่คิดจะบอกว่า นางเป็นบ่าวรับใช้ของเผ่าเทียนเฟิ่นกระมัง พวกเขามีใครเคยเห็นหรือว่ามีบ่าวรับใช้ที่สวมแหวนที่ทำจากหยกมันแพะ และปิ่นปักผมหลวนเฟิ่งที่ประดับมุกระย้า แต่ละเม็ดสมบูรณ์เต็มอิ่ม เกรงว่าจะมีแค่ทะเลตงไห่จึงจะผลิตออกมาได้ ยังมีเครื่องประดับหยกที่เอวของนาง ไม่ต้องให้ข้าพูด พวกเจ้าก็คงจะรู้ว่าหยกชั้นนั้นล้ำค่ามากแค่ไหนกระมัง”
เครื่องประดับบนร่างของฮองเฮาฉู่เห็นได้ชัดเจนมาก และล้ำค่ามากเช่นกัน พวกเขาอยากจะไม่สนใจก็ทำไม่ได้
เครื่องประดับที่หรูหราเช่นนี้ อย่าว่าแต่บ่าวรับใช้เลย แม้แต่พวกเจ้านายก็ไม่มีปัญญาสวมใส่ได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปิ่นปักผมหลวนเฟิ่งที่มีไข่มุกระย้า มีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่มีสิทธิ์สวมใส่
หรือว่ารองหัวหน้าเผ่าได้จับตัวฮองเฮาฉู่มาจริงๆ
สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเริ่มไม่น่าดู แทบอยากจะฉีกปากของกู้ชูหน่วนให้ขาด
ฮองเฮาฉู่ทั้งตกใจทั้งดีใจ ที่ตกใจคือกู้ชูหน่วนตกอยู่ในมือของเผ่าเทียนเฟิ่นเกรงว่ายากจะหนีออกไปได้
ที่ดีใจคือ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบนางอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนพูดต่อไปอีกว่า “พวกเจ้าว่า หากฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่รู้ว่าพวกเจ้าจับตัวฮองเฮาอันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์มา จะส่งทหารมาจัดการกับพวกเจ้าเหมือนที่จัดการกับเผ่าปีศาจหรือไม่”
“เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเจ้ามียอดฝีมืออยู่ไม่น้อยก็จริง แต่แคว้นฉู่ที่แสนจะยิ่งใหญ่ แค่ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่โบกมือพร้อมร้องเรียก คิดว่าก็คงจะมียอดฝีมือพากันมามากมาย แคว้นฉู่ยังมีทหารหาญอีกนับล้าน แม้จะทำให้เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเจ้าราบคาบไม่ได้ แต่ก็สามารถทำให้ลมปราณของเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเจ้าเสียหาย กระทั่งสูญสิ้นเผ่าไปเลย”
เหล่าผู้อาวุโสต่างก็มีสีหน้าไม่ดีนัก
พวกเขาไม่มีความแค้นกับแคว้นฉู่ และไม่อยากจะเปิดศึกกับแคว้นฉู่
รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ้มเย็นและพูดว่า “ข้านับว่าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าจงใจจับตัวฮองเฮาของแคว้นฉู่มาที่เผ่าเทียนเฟิ่น อยากจะให้เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเราเปิดศึกกับแค้วนฉู่ใช่หรือไม่ ”