อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 543 เหน็บแนม
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมนางยังไม่ตาย?”
“นั่นสิ พลังของฝ่ามือเมื่อครู่นั่นมากมายขนาดนั้น แม้ว่านางจะไม่ตาย ก็ต้องพิการ ทำไมถึงยังลุกขึ้นมาได้อีก”
“มีบางอย่างผิดปกติ เหมือนว่าอาการบาดเจ็บของนางจะฟื้นตัวได้เร็วมากเลยล่ะ”
ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่สีชิ่นและคนอื่นๆก็อึ้งไปแล้ว
ไป๋จิ่นเหมือนกำลังครุ่นคิด ความรู้สึกสงสัยหยั่งรากลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“ฟู่ว…….”
“ฟู่ว…….”
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน หวังเฟิงหวังหยู่ที่เดิมทีสามารถคว้าชัยชนะไปได้ก็กระอักเลือดออกมาอย่างกะทันหัน หน้าดำขึ้นมาในพริบตา ดวงตาสองข้างกลายเป็นสีขาว ทั้งร่างสั่นเทาไม่หยุด ขาสองข้างอ่อนทรุดล้มลงไปทันที
“หวังเฟิง หวังหยู่…….”
“รายงานรองหัวหน้าเผ่า หวังเฟิงหวังหยู่โดนยาพิษขอรับ ทั้งยังเป็นยาพิษร้ายแรงอีกด้วยขอรับ”
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นกล่าวด้วยความโกรธเคือง “เจ้าเล่นโกงวางยาพิษ”
กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “อนุญาตให้ผู้ว่าวางเพลิง ไม่อนุญาตให้ประชาชนจุดตะเกียงหรือไง? พวกเขาวางยาพิษได้ ทำไมข้าจะวางยาพิษไม่ได้ล่ะ”
พูดพลาง นางแบมือออก ตะปูโลหิตสองสามตัวปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง
ตะปูโลหิตทั้งอันเป็นสีแดงเลือด ทั้งยังปรากฏเป็นไอสีดำจางๆ หลังจากตกลงบนพื้น สัมผัสโดนกิ่งไม้ที่ร่วงหล่น กิ่งไม้ก็มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ฟองผุดขึ้นมาไม่หยุด แวบเดียวก็เห็นได้ว่าเป็นวัตถุที่มีพิษร้ายแรงมหาศาล
ทั้งร่างของจอมมารเย็นยะเยือก ปรากฏแรงสังหารขึ้นจางๆ
เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนไม่เป็นอะไร ก็เล่นเล็บของตัวเองต่อไปด้วยสีหน้าเกียจคร้าน
ทันทีที่แขนเสื้อของกู้ชูหน่วนสั่น ก็เป็นลูกดอกพิษและหมอกพิษที่ถูกสะบัดลงมา
สีชิ่นเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “ดูท่าแล้วเป็นหวังเฟิงหวังหยู่วางยาพิษก่อนสินะ เป็นถึงระดับสี่ ใช้สองคนสู้หนึ่งคน ยังจะใช้วิธีการต่ำทรามเช่นนี้อีก เผ่าเทียนเฟิ่นทำให้ผู้คนต้องมองด้วยมุมมองใหม่จริงๆ”
ตาคนของเผ่าเทียนเฟิ่นไม่ได้บอด สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นอาวุธลับชั้นยอดของหวังเฟิงหวังหยู่
โดยปกติแล้วจะไม่เอาออกมาใช้รับมือกับผู้คนอย่างส่งเดช แต่เพียงแค่ใช้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย
แต่ตอนนี้ พวกเขาใช้อาวุธลับตะปูพิษลอบทำร้ายคน ไม่เพียงแค่ทำร้ายคนไม่ได้เท่านั้น ยังถูกคนที่เป็นเพียงระดับสองทำร้ายอีก เผยแพร่ออกไป จะให้เผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ขายหน้าผู้คนยิ่งนัก
คนเผ่าเทียนเฟิ่นมากมายที่อยากจะเอ่ยปากปกป้อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาไร้พิษสง “ข้าเพียงแค่ใช้วิธีการของพวกเขา ตอบโต้พวกเขาคืน ไม่ผิดกฎสินะ?”
“……”
ทั้งสนามเงียบสงัด
ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้อาวุโสเฉินที่หัวเราะด้วยความเก้ๆกังๆ “แน่นอน……ไม่ผิดกฎ……”
“เช่นนั้นการแพ้ชนะในรอบที่หนึ่ง สามารถประกาศผลการตัดสินได้แล้วใช่หรือไม่?”
“การประลองรอบที่หนึ่ง กู้ชูหน่วนชนะ”
ผู้อาวุโสเฉินโบกมือทันที สั่งให้คนพยุงหวังเฟิงหวังหยู่ลงไป กล่าวด้วยรอยยิ้มไม่จริงใจว่า “แม่นาง การประลองเป็นเพียงการเจียระไนศิลปะวิทยายุทธเท่านั้น ไม่ทราบว่าจะมอบยาถอนพิษให้ได้หรือไม่ จะได้รักษาหวังเฟิงหวังหยู่ให้หายไงล่ะ”
จอมมารเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “หากว่าทั้งสองคนนี้เป็นลูกน้องของข้า ข้าจะตบกะโหลกพวกเขาให้แหลกด้วยฝ่ามือหนึ่งไปนานแล้ว ยังมีหน้ามาเอายาถอนพิษอีก เหอะ……”
สีชิ่นกล่าว “หายนะจากสวรรค์ยังสามารถหลบเลี่ยงได้ กรรมที่ก่อขึ้นเอง หลบเลี่ยงไม่ได้หรอก”
เผ่าปีศาจและหอหนึ่งในหล้า นี่คือต้องการฉีกหน้าตัดความสัมพันธ์ ยืนอยู่ข้างเดียวกับกู้ชูหน่วนอย่างโจ่งแจ้งแล้วหรือ?
ตึกตึกตึก……
สุดยอดผู้อาวุโสของเผ่าเทียนเฟิ่นไม่กี่คนรีบตามมา พลังแข็งแกร่ง ทุกคนต่างพากันหลีกทางให้ ยกที่นั่งหลักให้กับสุดยอดผู้อาวุโสไม่กี่คนนั่น
เมื่อสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่โบกมือ ก็มีคนหามหวังเฟิงหวังหยู่ลงไปทันที
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่อายุเจ็ดสิบปี แก่ชราแต่กลับแข็งแรง ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยพลัง “หวังเฟิงหวังหยู่ ไม่เห็นกฎของเผ่าในสายตา ลอบลงมือใช้ยาพิษ ทำลายวิทยายุทธของพวกเขา ขังในห้องต้องห้ามสิบปี”
หืม…….
แค่นี้ก็…….ทำลายวิทยายุทธทิ้งแล้วหรือ?
เช่นนั้นวิทยายุทธที่พวกเขาฝึกฝนมานานหลายปีก็เท่ากับสูญเปล่าแล้วไม่ใช่หรือ?
กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว สังเกตมองสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่อย่างละเอียด
ตาเฒ่าผู้นี้ ลงมือโหดเหี้ยมมาก ทั้งๆที่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการสั่งสอนพวกเขาทั้งคู่
ความจริงนั้นคือกำลังแสดงอำนาจให้นางประจักษ์สินะ?