อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 544 จะไม่ระวังได้อย่างไร
รองหัวหน้าเผ่าซือคงเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน
เขาไม่พอใจกับการตัดสินใจเช่นนี้ของสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ แต่เมื่อชำเลืองมองไปโดยรอบ คิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็อดกลั้นไว้แล้ว
“สนามที่สองเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้เข้าประลอง กู้ชูหน่วน ซ่งอวี่”
ภายใต้คำสั่ง ชายหนุ่มสวมชุดนักปราชญ์เดินออกมาช้าๆ
ด้านหลังของชายผู้นั้นมีดาบแก้วเจ็ดมณีเสียบอยู่ หน้าตาสง่างามผ่าเผย ราศีไม่ธรรมดา ท่าทางการเคลื่อนไหวสง่างามเป็นธรรมชาติโดยสมบูรณ์แบบ อ่อนโยนราวกับหยก เข้ากับชื่อของเขาโดยแท้จริง
“แม่นาง วิทยายุทธของซ่งอวี่เหนือกว่าท่าน เป็นข้าออกรบ แม้ว่าจะชนะด้วยโชค และเป็นชัยชนะที่ไม่ได้มาด้วยความกล้าหาญและความสามารถ แต่รองหัวหน้าเผ่ามีคำสั่ง ซ่งอวี่ไม่กล้าขัด หากว่าแม่นางไม่รังเกียจ ซ่งอวี่จะอ่อนข้อให้แม่นางเจ็ดกระบวนท่า และรับรองว่าดาบจะไม่ออกจากฝัก หากว่าออกจากฝัก ก็นับว่าซ่งอวี่แพ้”
“เหลวไหล เจ้าเป็นตัวแทนออกรบแทนเผ่าเทียนเฟิ่น จะทำเป็นเรื่องเด็กเล่นได้อย่างไร” รองหัวหน้าเผ่าซือคงตำหนิด้วยความเดือดดาลไปตรงๆโดยไม่ได้คิด
เย่จิ่งหานเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “หรือว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่มีความมั่นใจต่อซ่งอวี่งั้นหรือ?”
เหล่าลูกศิษย์ทั้งสนามของเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนพากันกระซิบกระซาบกันเป็นการส่วนตัว
จากความสามารถของซ่งอวี่ แม้ว่าเขาจะยอมให้เจ็ดกระบวนท่า แม้ว่าดาบของเขาจะไม่ออกจากฝัก แต่ละนาทีก็สามารถสังหารกู้ชูหน่วนได้
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงได้หวาดกลัวเช่นนี้
หรือเพราะว่านางชนะหวังเฟิงหวังหยู่เช่นนั้นหรือ?
ชนะหวังเฟิงหวังหยู่ได้ ก็เพราะว่านางวางยาพิษ ฉวยโอกาสได้เหมาะเจาะเท่านั้น
แต่วิทยายุทธของซ่งอวี่ เทียบกับหวังเฟิงหวังหยู่ ก็ไม่ได้เหนือกว่าเพียงแค่นิดหน่อยหรือครึ่งเดียว
มีเพียงคนชั้นสูงของเผ่าเทียนเฟิ่นเท่านั้นที่เข้าใจว่า ทำไมรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงได้ใส่ใจขนาดนี้ ไม่กำจัดเด็กสาวผู้นี้ทิ้งไป ทั้งชีวิตนี้ของพวกเขาก็จะกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ไม่เป็นสุข
กู้ชูหน่วนหรี่ตาสังเกตมอง ผู้ชายตรงหน้าไม่เพียงหน้าตาดี แต่ยังสุภาพเรียบร้อยและสง่างามอีกด้วย ทั้งตัวเปี่ยมล้นไปด้วยพลังความยุติธรรมและความจริงจัง ต่างจากหวังเฟิงหวังหยู่ ที่ชั่วร้ายทารุณ หน้าตาเจ้าเล่ห์ฉ้อโกง
เมื่อนางยิ้ม ก็เหมือนดั่งดอกท้อผลิบาน งามหยาดเยิ้มทำให้คนหลงใหล คนไม่น้อยล้วนถูกนางทำให้หลงเสน่ห์แล้ว
“เผ่าเทียนเฟิ่นพูดคำไหนคำนั้นเสมอ อีกทั้งพี่ใหญ่ซ่งก็เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหัวหน้าเผ่า ข้าเชื่อว่าคำที่ท่านพูดมาเมื่อครู่นั้นเชื่อถือได้ ถูกต้องหรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ก็แทบจะสกัดกั้นทางหนีทีไล่ของรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้ทั้งหมดแล้ว
หากว่าไม่ยอมรับคำพูดของซ่งอวี่ เช่นนั้นหน้าตาหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ก็แทบจะไม่มีแล้ว ไม่ว่าอย่างไรซ่งอวี่ก็เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของหัวหน้าเผ่า
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ไม่พอใจต่อซ่งอวี่เป็นที่สุด ก็ยังคงเปิดปากกล่าวอย่างเย็นชา “คำพูดที่เผ่าเทียนเฟิ่นพูดออกมา แน่นอนว่าเป็นคำไหนคำนั้น”
“เช่นนั้น ก็ขอบใจพี่ใหญ่ซ่งแล้วที่ยอมให้” กู้ชูหน่วนหัวเราะแฮ่ะแฮ่ะ
กล่าวคำขอบคุณคำหนึ่ง กู้ชูหน่วนก็เริ่มลงมือก่อน ทันทีที่ออกมือก็เป็นกระบวนท่าชั้นยอด ตั้งใจจะคว้าชัยชนะมาในเวลาอันสั้นที่สุด เพื่อสิ้นสุดการประลองวิทยายุทธ
ดาบของนางม้วนขึ้นมาเป็นดาบบุปผาหลายดอก แต่ละดอกพุ่งโจมตีไปยังตำแหน่งที่ถึงแก่ชีวิตของซ่งอวี่ อันที่จริงก็คือมุ่งโจมตีไปที่ดวงตาของเขาโดยเฉพาะ ทุกดาบลงมืออย่างไร้ความปรานี ความเร็วก็ทั้งรวดเร็วแม่นยำและโหดเหี้ยม
ซ่งอวี่คิดไม่ถึงว่า นางจะออกมือได้อย่างเฉียบคมเพียงนี้ และกระบวนท่าก็เปลี่ยนไปหลากหลาย ความเร็วที่ทั้งเร็วทั้งดุดันนี่ เกือบจะประเมินนางต่ำไป และถูกนางทำร้ายเข้าแล้ว
ศักยภาพของเขาใกล้เคียงกับระดับห้า แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะเร็วเพียงใด เขาก็ยังหลบได้ทัน
“ปังปังปัง……”
พริบตาเดียวก็ผ่านไปห้ากระบวนท่าแล้ว ซ่งอวี่ไม่ได้ตอบโต้จริงๆ หลีกให้นางมาโดยตลอด
แววตาของกู้ชูหน่วนเป็นแววความดุดันทันที
ผ่านไปห้ากระบวนท่าแล้ว นางมีโอกาสอีกเพียงสองกระบวนท่าเท่านั้น
ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าศักยภาพที่แท้จริงแข็งแกร่งกว่าหวังเฟิงหวังหยู่กี่เท่า
มิน่าล่ะคนของเผ่าเทียนเฟิ่นถึงได้ไม่มีความหวาดกลัวแม้สักนิด
เย่จิ่งหานกับสีชิ่นและคนอื่นอดเป็นกังวลจนเหงื่อตกไม่ได้
เมื่อครู่ขณะที่รับมือกับกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของหวังเฟิงหวังหยู่ กู้ชูหน่วนไม่สนใจความเป็นความตาย ฝืนปะทะไปฝ่ามือหนึ่ง แม้ว่าบนใบหน้าจะแสร้งแสดงออกมาว่าไม่เป็นอะไร แต่ว่าจริงก็ได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว
ทั้งยังบาดเจ็บไม่เบาอีกด้วย
ตอนนี้จะเป็นคู่ต่อกรของซ่งอวี่ได้อย่างไร?
หรือจะใช้ยาพิษอีกครั้งงั้นหรือ?
ซ่งอวี่ไม่ใช่หวังเฟิงหวังหยู่ เห็นความล้มเหลวที่มีก่อนหน้านี้ เขาจะไม่ระวังได้อย่างไร?