อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 558 ท่านหลอกข้าอีกแล้ว

บทที่ 558 ท่านหลอกข้าอีกแล้ว

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 558 ท่านหลอกข้าอีกแล้ว
นี่คือเส้นทางลับ เส้นทางลับไม่ได้ใหญ่ แต่แคบและยาวมาก เวลานี้พวกนางกำลังอยู่ในตำแหน่งที่กว้างที่สุดของเส้นทางลับ

บนร่างกายของสีชิ่นและไป๋จิ่นก็ถูกมีดฟันไปไม่น้อย เสื้อผ้าเปียกโชกไปด้วยเลือดมากกว่าครึ่ง พวกนางช่วยตัวเองรักษาบาดแผลคร่าวๆ เฝ้าระวังนางไว้ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งเหมือนรู้ใจกันเช่นนั้น

สีชิ่นกล่าวด้วยความลังเล “เจ้าหอ จอมมารยังไม่แยกตัวกลับมา ทิ้งเขาไว้คนเดียวจะไม่……”

“วางใจเถอะ แม้ว่าเจ้าลูกหมานั่นจะไม่ชนะ ก็ไม่ได้ตายง่ายขนาดนั้นหรอก”

หากว่าเขาตายง่ายขนาดนั้น จะคู่ควรกับการเป็นเจ้าแห่งเผ่าปีศาจได้อย่างไร?

ในทางกลับกันหากไม่มีซือโม่เฟยขัดขวางสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่และรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้ พวกนางก็ถอยออกมาไม่ได้

สีชิ่นหัวเราะเย้าเบาๆ “คิดว่าทั้งโลกนี้ก็คงจะมีเพียงเจ้าหอผู้เดียวที่กล้าเรียกจอมมารว่าเจ้าลูกหมา”

ไป๋จิ่นก็ปิดปากแอบหัวเราะ

ด้านหน้าของกู้ชูหน่วนคือผู้เฒ่าวัยหกสิบกว่า ด้านหลังผู้เฒ่าวัยหกสิบกว่า ยังมีชายปิดหน้าอีกหลายสิบคน

ชายปิดหน้าเหล่านี้ส่วนใหญ่อายุประมาณยี่สิบกว่าปี แต่ละคนแววตาเฉียบคม ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาบาดแผลอยู่รวมกัน ที่ไม่ได้บาดเจ็บ ส่วนหนึ่งคอยคุ้มกันนางในรูปแบบค่ายกลอารักขา ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เฝ้าสังเกตสถานการณ์ตรงทางเข้าเส้นทางลับอย่างถี่ถ้วน

ดูจากรูปแบบค่ายกลชนิดนี้ รวมถึงขณะที่พวกเขาต่อกรกับเผ่าเทียนเฟิ่น วิธีที่สับสนแต่ไม่วุ่นวายนี้ ดูแวบเดียวก็เห็นว่าได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

“ท่านคือ……” กู้ชูหน่วนถามท่านผู้เฒ่า

เหมือนว่าตาเฒ่าคนนี้จะคุ้นเคยต่อเผ่าเทียนเฟิ่นเป็นอย่างมากเชียวล่ะ แม้แต่เส้นทางลับที่ลึกลับเช่นนี้ก็รู้ได้

ไม่รอให้ผู้เฒ่าปิดหน้าตอบกลับ ด้านนอกเส้นทางลับก็มีเสียงฝีเท้าอันรีบร้อนดังขึ้นอย่างฉับพลัน

ลูกน้องของผู้เฒ่าที่ปิดหน้าเตรียมระวังด้วยความตื่นตัวเต็มที่ แต่ละคนถืออาวุธ รอเพียงแค่เขาเข้ามาก็สังหารเขาไปโดยตรง

“พี่สาว พวกท่านวิ่งหนีเร็วเกินไปแล้ว”

เสียงอันคุ้นเคยดังมา และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของผู้เฒ่าที่ปิดหน้าก็ต่างพากันลงมือ กู้ชูหน่วนรีบตะโกนทันที “เดี๋ยวก่อน เป็นเพื่อนของข้า”

ที่น่าแปลกคือ นางพูดเพียงคำเดียว ผู้ชายที่ปิดหน้าเหล่านั้นก็เก็บอาวุธด้วยความเคารพทั้งหมด เข้าแถวสองข้าง ต้อนรับจอมมาร

ดวงตาของกู้ชูหน่วนหรี่ลงเล็กน้อย

คนเหล่านี้ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนางงั้นหรือ?

“พี่สาว ท่านลืมอาโม่แล้วใช่หรือไม่ อาโม่เกือบจะถูกพวกเขาฆ่าตายอยู่แล้ว”

จอมมารเสียงสะอึกสะอื้น ราวกับกำลังสาธยายความคับข้องใจที่มีไม่รู้จบเช่นนั้น

เขามีโฉมหน้าอันโดดเด่นเลิศล้ำดั่งปีศาจ โดยเฉพาะดวงตาสีฟ้าข้างหนึ่งสีม่วงข้างหนึ่งคู่นั้นที่กะพริบปริบๆทั้งยังมีน้ำตาคลออีก จะบอกว่าน่าสงสารมากเพียงใดก็น่าสงสารมากเท่านั้น

กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเก้ๆกังๆ “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ นี่ไม่ใช่ว่าข้าก็กำลังจะออกไปหาเจ้าอยู่พอดีหรอกหรือ”

“จริงหรือ?” จอมมารเหมือนจะเชื่อแต่ไม่เชื่อ

ตอนนั้นขณะที่นางพาคนมากมายวิ่งหนีไป แม้แต่จะหันกลับมาสักหน่อยก็ไม่มี

“จริงซะยิ่งกว่าทองคำแท้ๆซะอีก”

เดิมทีกู้ชูหน่วยไม่อยากปลอบโยนเขา แต่เมื่อได้เห็นเสื้อผ้าบนตัวของจอมมารถูกเผาไปชิ้นหนึ่ง ทั้งยังมีรอยเลือดอีกไม่น้อย ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนเล็กน้อย

โดยปกติแล้วเจ้าลูกหมานี่รักสะอาดเป็นที่สุด หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ล่อแหลมอันตรายเป็นที่สุด จะโดนคนอื่นเผาเสื้อผ้าได้อย่างไร และจะปล่อยให้เลือดกระเซ็นโดนเสื้อผ้าเขาได้อย่างไรกันอีก

สงครามเมื่อครู่นั่น คิดว่าเขาคงจะต่อสู้ด้วยความยากลำบากสินะ

อาจจะเพราะแววตาของนางร้อนแรงเกินไป ตอนนี้จอมมารก็เพิ่งจะเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองทั้งสกปรกและขาด สีหน้าเปลี่ยนไปในพริบตา

เห็นเพียงเงาสีแดงแฉลบ จอมมารก็หายตัวไปแล้ว

“ผู้ใดกล้ามองข้า ข้าจะควักดวงตาของผู้นั้น พี่สาว ท่านก็ห้ามมอง”

กู้ชูหน่วน “……”

ใครอยากมองเขากัน

เจ้าคนหลงตัวเอง

ที่นี่บนตัวของผู้ใดมีเลือดบนตัวน้อยไปกว่าเขาบ้าง?

คนไหนที่ไม่ได้ถูกฟันด้วยมีดมากมายบ้าง

สีชิ่นและไป๋จิ่นลูกผู้หญิงสองคน ยังมีนางอีกก็ล้วนไม่ได้พูดอะไร เขางอแงไร้เหตุผลอะไรกันเนี่ย?

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท