ไม่ช้า ก็มีคนของเผ่าเทียนเฟิ่นอีกกลุ่มหนึ่งล้อมรอบเข้ามาอีก
ระหว่างการฆ่าฟัน กู้ชูหน่วนเห็นเย่จิ่งหานถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงสะเทือนได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญ ร่างกายดำไปกว่าครึ่งซีก ไอดำอันน่ากลัวผุดขึ้นมาไม่หยุด
สีหน้าของเย่จิ่งหานซีดขาว ลมปราณหล่อเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ แต่เขาก็ยังรับมือกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่หยุด ไม่ให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงเข้าใกล้พวกเขาได้แม้แต่ครึ่งก้าว ยั่วยุจนทำให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงเกิดความคิดที่จะฆ่าขึ้น คิดจะสังหารเย่จิ่งหานก่อน แล้วค่อยกำจัดพวกเขาทีละคน
กู้ชูหน่วนกล่าว “ไป๋จิ่น เจ้าไปช่วยเย่จิ่งหาน”
“เจ้าค่ะ……”
มีไป๋จิ่นเข้าร่วม แรงกดดันของเย่จิ่งหานก็ลดลงไปหน่อย
รองหัวหน้าเผ่าซือคงรวมพลังที่ฝ่ามือจนเป็นหมอก ปล่อยถล่มไปทางไป๋จิ่น
เย่จิ่งหานกล่าวด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “ระวังไอหมอกมีพิษ”
ไอหมอกสีดำปะทะเข้ากับหอกน้ำแข็งอันแข็งแกร่งทนทานของไป๋จิ่น หอกน้ำแข็งกลับละลายกลายเป็นน้ำสีดำไปโดยตรง
หากไม่ใช่เพราะเย่จิ่งหานเตือน เกรงว่านางก็คงถูกหมอกดำทำร้ายไปแล้ว
เมื่อมองรอบๆตรงสถานที่ที่อบอวลไปด้วยหมอกดำ ต้นไม้ใบหญ้า กระทั่งกำแพงหินก็กลายเป็นน้ำสีดำไปหมดแล้ว
หอกน้ำแข็งของนางเป็นอาวุธวิเศษชั้นยอดที่หัวหน้าเผ่าหล่อหลอมขึ้นในตอนนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงรูปมายาแปลงที่แยกออกมาจากหอกน้ำแข็ง พลานุภาพก็มองข้ามไม่ได้ คนธรรมดาก็ยากที่จะทำลายได้ แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงกลับทำลายได้อย่างง่ายดายโดยคาดไม่ถึง
ศักยภาพของเขาอยู่ถึงระดับใดกันแน่
รองหัวหน้าเผ่าซือคงกล่าว “หอกน้ำแข็งของเจ้าไม่เลวก็จริง แต่……ใช้เงามายาเหมือนว่าจะไม่เพียงพอยังห่างอีกไกลสินะ”
“เหอะ……ท่านอยากเห็นหัวใจแห่งหอกน้ำแข็งที่แท้จริงไหมล่ะ?”
“เย่จิ่งหานเทพสงครามในตำนานที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว ศักยภาพความแข็งแกร่งสูงถึงขั้นสูงสุดระดับหกเต็มๆ มองดูในโลก ก็มีไม่กี่คนที่จะเป็นคู่ต่อกรได้ วันนี้ที่ได้เห็น ก็แค่เท่านี้ หากว่าเย่จิ่งหานเป็นเหมือนดั่งคำร่ำลือนั้นจริงๆ เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหก พวกเจ้าสองคนร่วมมือกัน ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้จริงๆ น่าเสียดาย……แม้ว่าเจ้าจะมีอาวุธวิเศษชั้นยอดอยู่ในมือ และมีวิทยายุทธเลิศล้ำไม่ธรรมดา ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงทั้งดูถูก ทั้งผยอง ทั้งยังมีความสงสัยเล็กน้อย
ต่อสู้กับเย่จิ่งหานมาหลายปีขนาดนั้น แม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ ศักยภาพก็ไม่น่าจะมีเพียงเท่านี้ซึ่งแตกต่างกันมาก
แต่ตอนนี้ ศักยภาพของเขาอย่างมากก็มีเพียงแค่ขั้นกลางระดับห้าเท่านั้น
เย่จิ่งหานหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง “วิทยายุทธของข้าในตอนนี้ อยากจะฆ่าเจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”
หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนดูดพลังของเขาไปมากมายขนาดนั้น วันนี้ยังจะปล่อยให้เขาพูดไร้สาระเป็นกองอยู่ตรงนี้ได้หรือ
สิ้นสุดคำพูดของเย่จิ่งหาน ขลุ่ยหยกขาวเปลี่ยนจากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ สี่เป็นแปด แปดเป็นสิบหก……
ก่อตัวเป็นวงกลมวงหนึ่ง ล้อมรอบรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้ตรงกลาง
แรงสังหารอันมหาศาลจากขลุ่ยหยกขาวยิงไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคง พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั่น ทำให้คนในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยสั่นเทา
“บาดเจ็บหนักจนใกล้ตาย ยังจะมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้อีก ไม่เสียแรงที่เป็นเทพสงครามอย่างแท้จริง การสังหารวันนี้ ก็เริ่มจากท่านเถอะ”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงรวบรวมกำลังภายใน หมอกดำกลายเป็นมังกรดำทีละตัว พร้อมด้วยเสียงคำรามของมังกรที่ดังสนั่นฟ้า พุ่งทะยานไปทางขลุ่ยหยกขาว
ดวงตาของไป๋จิ่นเย็นชาทันที และไม่รู้ว่านางทำอย่างไร หอกน้ำแข็งที่แวววับทั้งอันค่อยๆโผล่ออกมาจากร่างกายของนาง ลอยอยู่ในอากาศ ทันทีที่หอกน้ำแข็งออกมา อากาศโดยรอบก็เย็นลงในพริบตา ลูกศิษย์เผ่าเทียนเฟิ่นที่พลังอ่อนแอก็กุมร่างกายของตัวเองไว้ หนาวเย็นจนสั่นสะท้าน
สนามประลองเต็มไปด้วยหมอกสีขาวขมุกขมัวทั้งผืน และหมอกสีขาวก็หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ หนาแน่นจนพวกเขามองสถานการณ์เบื้องหน้าไม่ชัดเจน
“อาวุธวิเศษระดับหก”
ไม่รู้ว่าผู้ใดตะโกนออกมาจากฝูงชนเสียงหนึ่ง จากนั้นทั้งหมดก็เป็นเสียงสูดหายใจด้วยความตกตะลึง
อาวุธวิเศษระดับหก ถึงแม้จะหาทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ก็มีไม่กี่อันนี่นา ไป๋จิ่นมีอาวุธวิเศษระดับหกได้อย่างไรกัน?
ทันทีอาวุธวิเศษหอกน้ำแข็งออกมา พลังแห่งความเย็นยะเยือกอันแข็งแกร่งเป็นที่สุดก็แผ่ซ่าน กักขังศักยภาพอันแข็งแกร่งของมังกรดำไว้
ขลุ่ยหยกขาวดังขึ้นเองโดยไร้คนเป่า เปล่งเสียงอันไพเราะออกมา
ลูกศิษย์ของเผ่าเทียนเฟิ่นแต่ละคนกุมศีรษะร้องคร่ำครวญเมื่อได้ยินเสียงขลุ่ย ทั้งยังมีบางคนที่ลงไปดิ้นอยู่กับพื้นไม่หยุดอีกด้วย