อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 631 ในชามียาพิษ
ลมหายใจของกู้ชูหน่วนอัดอั้นในลำคอ ขึ้นก็ไม่ได้ ลงก็ไม่ได้
ความรู้สึกนี้ทรมานเป็นอย่างยิ่ง
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องโถงใหญ่
จากระยะไกล กู้ชูหน่วนก็ได้ยินว่ากู้ชูหยุนกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างก็ไม่รู้กับแม่ทัพใหญ่เซียว สนทนากันอย่างสบายใจ กู้ชูหยุนขอตัวลาอย่างสุภาพมีมารยาท
พริบตาที่เดินสวนกัน นางสบตากับกู้ชูหยุน
พี่น้องสองคน นิสัยอารมณ์สองอย่าง สายตาสองสายตา
ผู้หนึ่งแฝงด้วยการสำรวจสังเกตอย่างละเอียด
ผู้หนึ่งแฝงด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
กู้ชูหยุนยิ้มแล้วกล่าว “น้องสาม ไม่เจอนาน คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้พบหน้ากันที่จวนแม่ทัพ”
“ใช่ ไม่เจอนาน ราศีของพี่รองก็แทบจะมาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม
“น้องสามก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
ทั้งคู่กำลังยิ้ม แต่ในรอยยิ้ม ดูเหมือนมีความหมายโดยนัย
เซียวหยู่เซวียนมองความนัยในสายตาของพวกนางไม่ออก กล่าวแทรกว่า “กู้ชูหยุน การหมั้นหมายของเราสองคนยกเลิกแล้ว เจ้าวิ่งมาทำอะไรที่บ้านข้าทุกสองสามวัน”
“เซวียนเอ๋อร์ ข้ารับนางเป็นลูกสาวบุญธรรมแล้ว นับแต่นี้ไปนางก็คือน้องสาวบุญธรรมของเจ้า เจ้าพูดจาเกรงใจหน่อย”
แม่ทัพใหญ่เซียวสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า แทบจะกล่าวเตือนเซียวหยู่เซวียนอย่างประจันหน้า
“ท่านพ่อ เดิมทีนางก็มาที่จวนทัพด้วยเจตนาไม่มี ท่านจะเชื่อคนที่ชอบทำตัวใสซื่อไร้เดียงสาได้เช่นไรกัน”
“คุณชายเซียว ท่านว่าข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกันล่ะ ข้าเพียงแค่เคารพแม่ทัพใหญ่ จึงได้มาที่จวนแม่ทัพบ่อยๆ”
“เหอะ เคารพอะไร คนพระนครเหมือนกัน ในเมื่อเจ้าเคารพขนาดนั้น ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าไม่มาล่ะ”
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของแม่ทัพใหญ่กับครอบครัวของข้า ดังนั้นจึง…..”
กู้ชูหยุนถูกเซียวหยู่เซวียนสวน เบ้าตาแดงในพริบตา คิดจะอธิบายอะไรอย่างรีบร้อน แต่จู่ๆก็ไม่รู้จะเอ่ยปากยังไง ดูแล้วช่างทำให้คนสงสารนัก
แม่ทัพใหญ่เซียวเห็นดังนั้น ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในใจ ตะคอกด่าตีวัวกระทบคราด “บังอาจ ต่อไปนี้ห้ามเจ้าเสียมารยาทต่อคุณหนูรองกู้ หลังจากนี้จวนแม่ทัพของข้าก็คือบ้านของคุณหนูรองกู้ นางอยากมาก็มา อยากไปก็ไป ใครก็ห้ามขวางนาง แต่คุณหนูสามกู้ มาที่จวนแม่ทัพติดกันสองวัน ไม่รู้ว่าท่านมีจุดประสงค์อะไร? และคิดหาวิธีให้ฮ่องเต้ยกเลิกการหมั้นหมายเพื่ออะไร?”
สายตาของกู้ชูหน่วนตกตะลึง
กู้ชูหยุนพูดอะไรกับแม่ทัพใหญ่เซียวกันแน่ ถึงได้ทำให้แม่ทัพใหญ่เซียวปกป้องนางขนาดนี้?
“ท่านพ่อ เป็นข้าที่ขอร้องให้ยัยขี้เหร่เข้าวังไปหาฮ่องเต้ให้ถอนพระราชโองการพระราชทานงานแต่งกลับคืน ท่านจะโทษก็โทษข้าละกัน”
“เจ้าลูกสารเลว ดูซิว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง”
กู้ชูหยุนมองดูบรรดาผู้คน คำนับเล็กน้อยอย่างมีมารยาท “แม่ทัพใหญ่ ที่วิทยาลัยใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว ชูหยุนอยู่ที่จวนแม่ทัพก็ไม่รับการต้อนรับ ชูหยุนขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”
“ได้” ตอนนี้ใบหน้าอันโกรธเคืองของแม่ทัพใหญ่เซียวถึงได้คลายลงเล็กน้อย
หลังจากกู้ชูหยุนจากไป กลิ่นเขม่าควันปืนก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
เซียวหยู่เซวียนกล่าว “พ่อท่าน กู้ชูหยุนผู้หญิงคนนี้ภาพภายนอกกับตัวตนภายในไม่เหมือนกัน ท่านอย่าถูกนางหลอกเลย”
“ใครก็ได้ ส่งคุณชายน้อยกลับห้องเดี๋ยวนี้ ไม่มีคำสั่งข้า ไม่อนุญาตให้ปล่อยเขาออกมา”
“ขอรับ”
องครักษ์สองสามคนบังคับหามเซียวหยู่เซวียนออกไป ทำให้เซียวหยู่เซวียนโมโหจนกล่าวต่อว่า “ตาแก่ ท่านเพื่อคนนอกแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะกักบริเวณข้า ในใจของท่าน ลูกชายของท่านยังสู้คนนอกคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ? ปล่อย ปล่อยข้า”
แม้ว่าเซียวหยู่เซวียนจะบ่นพร่ำต่อว่าอย่างไร ก็ยังคงถูกหามไปแล้ว แม่ทัพใหญ่เซียวกวาดตามองกู้ชูหน่วนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ท่าทางไม่เป็นมิตร น้ำเสียงแข็งกร้าว “ไม่ทราบว่าพระชายาหานมีธุระอันใดพ่ะย่ะค่ะ?”
“แม่ทัพใหญ่ ข้าสามารถสนทนาตามลำพังกับท่านได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนทำความเคารพอย่างจริงจังตั้งใจ ท่าทางถ่อมตัวมีมารยาท ในตาแฝงด้วยความอ้อนวอน
เดิมทีแม่ทัพใหญ่เซียวคิดจะไล่นางออกไปโดยตรง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกู้ชูหน่วนทำความเคารพตามพิธีการใหญ่ พิธีการใหญ่นี้เป็นมารยาทระดับสูงสุดของแคว้นเย่ คนทั่วไปจะไม่ทำโดยง่ายดาย
คำพูดมาถึงข้างปาก แต่ก็ยังทำท่าทางเชื้อเชิญแล้ว
กู้ชูหน่วนยิ้มเล็กน้อย โค้งคำนับอีกครั้ง “ขอบคุณท่านแม่ทัพใหญ่”
หลังจากเข้าห้อง กู้ชูหน่วนสังเกตการจัดแต่งภายในห้อง นี่เป็นห้องหนังสือ จัดวางหนังสือด้านการทหารมากมาย ทั้งยังมีชุดเกราะและอาวุธทหารด้วย
ชุดเกราะปรากฏเป็นแสงเย็นยะเยือก ด้านนอกมีรอยขีดข่วนมากมาย คิดว่าเขาคงเอาชุดเกราะนี้ไปทำศึกมาหลายปี รอยขีดข่วนนั่นก็คือรอยที่สนามรบทิ้งไว้
“พระชายาหานมีธุระก็เชิญพูดได้โดยตรง ที่นี่นอกจากพวกเรา ก็ไม่มีคนอื่นแล้ว”
ถือว่าแม่ทัพใหญ่เซียวยังคงมีความเกรงใจอยู่ หลังจากให้คนเอาชามาให้แล้ว จึงได้เอ่ยปากขึ้นช้าๆ
กู้ชูหน่วนได้กลิ่นหอมของชา แม้ว่าจะไม่ใช่ชาคุณภาพสูง แต่รสชาติก็ยังนับว่าเข้มข้นและหอมกรุ่น
เพียงแต่…..
ในฐานะที่เป็นหมอ นางได้กลิ่นด้วยความว่องไวว่าชาที่แม่ทัพใหญ่เซียวดื่ม กลิ่นไม่เหมือนของนาง และยังมียาพิษชนิดเรื้อรังผสมอยู่สองสามชนิด
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “แม่ทัพใหญ่ เหมือนว่าชาของท่านจะไม่เหมือนกับของผู้น้อย?”
แม่ทัพใหญ่เซียวคิดว่า กู้ชูหน่วนหมายความว่าเขาเอาชาที่ดีไว้ให้ตัวเอง และเอาชาชั้นรองให้นาง
อดไม่ได้ที่จะอธิบาย “ชาของข้าเป็นเพียงชาเถี่ยกวานอินคุณภาพต่ำ เนื่องจากช่วงนี้กะจิตกะใจพะว้าพะวัง นอนหลับไม่ดี ดังนั้นจึงได้ใส่ยาสองสามอย่างในชา ชาของพระชายาหานเป็นชาเถี่ยกวานอินคุณภาพระดับกลาง และเป็นชาที่ดีที่สุดในจวนแม่ทัพของเราแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
กู้ชูหน่วนเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
คาดว่าแม่ทัพใหญ่คงเอาชาที่ดีที่สุดในจวนแม่ทัพมารับรอง
ครอบครัวของเขายากจนเกินไป ชาคุณภาพดีเกรงว่าก็คงจะตัดใจซื้อไม่ลง
“ไม่รู้ว่าในชาของแม่ทัพใหญ่ใส่สมุนไพรอะไรเพิ่มลงไป ผู้น้อยดมแล้วหอมมาก และอยากต้มดื่มสนองความอยากดูสักกา”
หน้าตานางมีรอยยิ้ม ท่าทางยังคนถ่อมตัวมีมารยาท ไม่เหมือนการจับผิด
สีหน้าท่าทางอันแข็งกร้าวเย็นชาของแม่ทัพใหญ่เซียวคลายลงเล็กน้อย “น่าจะใส่ชาเทิงเซี่ยง ม่านฉ่าว แล้วก็มีจูเกินละมั้ง”
“ข้าได้กลิ่น เหมือนว่าจะมีกลิ่นหญ้าฉีหลัวด้วยน่ะ”
แม่ทัพใหญ่เซียวตกตะลึงครู่หนึ่ง
หญ้าฉีหลัว เหมือนว่าในชาจะไม่มียาสมุนไพรชนิดนี้นี่นา
“พระชายาหาน คนตรงไปตรงมาไม่พูดจามีความนัย ท่านอยากพูดอะไร ก็พูดตรงๆเถอะ”
“หมู่นี้แม่ทัพใหญ่ฝันร้ายติดต่อกัน ใจร้อนหงุดหงิด กังวลอยู่ไม่สุข ทั้งยังปวดหัวอยู่รางๆ ปวดกระดูกด้วยใช่หรือไม่”
หางตาของแม่ทัพใหญ่เซียวเปล่งแสงเย็นยะเยือกออกมา อำนาจของคนที่เป็นแม่ทัพปรากฏออกมาทั้งหมด
กู้ชูหน่วนกล่าว “ผู้น้อยไม่มีความตั้งใจจะหาเรื่องจับผิด แต่ในชาของแม่ทัพใหญ่นั้นยาสมุนไพรสองสามชนิดที่เพิ่มขึ้นมาเป็นยาพิษชนิดเรื้อรังอย่างหนึ่ง มันจะเปลี่ยนแปลงสติสัมปชัญญะทำให้คนเข้าสู่ความตายโดยไม่รู้ตัว”
“เหลวไหลทั้งนั้น”
“หากว่าแม่ทัพใหญ่รู้สึกว่าข้าพูดเหลวไหล สามารถเชิญหมอหลวงมาตรวจสอบชาได้ แม้ว่าคุณสมบัติทางยาของสมุนไพรสองสามชนิดนั้นจะคล้ายกัน แต่คนทั่วไปจะสังเกตเห็นได้ยาก แต่เพียงแค่เป็นคนที่มีวิชาการรักษาที่ยอดเยี่ยมมาตรวจสอบอย่างละเอียด ก็สามารถตรวจหาออกมาได้”
“พระชายาหาน ยังมีอะไรต้องการจะพูดหรือไม่?”
“ไม่เช่นนั้นท่านแม่ทัพใหญ่ก็เชิญหมอหลวงมาตรวจดูก่อนเถอะ เรื่องที่ผู้น้อยคิดจะขอ จะต้องเป็นหลังจากที่ตรวจสอบชาแล้ว”
ทีแรกกู้ชูหน่วนคิดจะพูดตรงๆ เอาเรื่องของเผ่าหยกพูดออกมา
แต่ด้วยท่าทีของแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อนาง จะไม่รับปากนางเป็นเด็ดขาด