อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 648 ทำได้เพียงครั้งเดียว
กู้ชูหน่วนแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นแล้ว
แม้ว่านางจะไม่ได้คิดอะไรกับพวกเขาจริงๆ แต่คำพูดนี้ขัดกับใจจริงเกินไป โดยเฉพาะจอมมาร
นางไม่เคยรังเกียจที่เขาสติปัญญาต่ำ จำทางไม่ได้จริงๆ แต่ในใจกลับยังมีความซาบซึ้งในบุญคุณมาตลอดอีกด้วย
ทุกประโยคที่กู้ชูหน่วนพูด สีหน้าของเย่จิ่งหานก็อ่อนโยนขึ้นมาหนึ่งระดับ ฟังจนถึงท้ายที่สุด มุมปากก็อดโค้งเป็นรอยยิ้มขึ้นมาไม่ได้แล้ว
เป็นเวลานานที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาหน้าบึ้งทันที “ยังมีเย่หวงอีกล่ะ”
“ฮ่องเต้น้อยผู้นั้นอายุน้อยขนาดนั้น ขาที่สามอันนั้นของเขาใช้การได้หรือ?”
“แฮ่มแฮ่ม……”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียต่างพากันแสร้งไอ เพื่อปิดบังความเก้ๆกังๆ
ชิวเอ๋อร์หน้าแดงทันที ก้มหน้าจนต่ำ จนกระทั่งไม่กล้าลืมตา
คนรับใช้ผู้อื่นในจวนก็มีสีหน้าท่าทางแบบทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ต่างพากันก้มหน้ากันหมด อยากหัวเราะก็ไม่กล้าหัวเราะ
ใบหน้าของเย่จิ่งหานดำในพริบตาแล้ว
กู้ชูหน่วนรีบพูดแก้ไข “ความหมายของข้าคือ ฝ่าบาทยังเด็ก อีกทั้งยังเป็นหลานของข้าอีก ข้าแตะต้องผู้ใดก็ไม่สามารถแตะต้องหลานของตัวเองได้นี่เพคะ”
แม้ว่านางจะอธิบายแล้ว แต่ก็เท่ากับยิ่งแก้ตัวยิ่งมีพิรุธโดยไร้ข้อสงสัย ทุกคนยิ่งก้มหน้าต่ำลงอย่างทำตัวไม่ถูก
กู้ชูหน่วนมองไปทางเย่จิ่งหานด้วยความขุ่นข้องหมองใจ
เย่จิ่งหานกล่าวตำหนิ “ผู้หญิงหน้าไม่อาย”
“ใช่ใช่ใช่ ข้าหน้าไม่อาย ท่านพี่ ยืนตั้งนานแล้ว ข้าปวดขาไปหมดแล้ว พวกเรากลับห้องดีหรือไม่เพคะ” กู้ชูหน่วนโอบเย่จิ่งหาน แทบจะออดอ้อนแล้ว ดวงตาแวววาวคู่นั้นบอกว่าน้อยใจเพียงใดก็น้อยใจมากเพียงนั้น
เย่จิ่งหานโอบเอวอุ้มนางขึ้น สาวเท้าก้าวใหญ่ไปในห้องนอน ทิ้งประโยคอันเย็นชาไว้เพียงประโยคหนึ่ง “ยังนิ่งกันอยู่ตรงนี้ทำไม จวนไม่มีอะไรให้ทำแล้วหรือ?”
“ขอรับขอรับขอรับ…..ข้าน้อยขอตัว”
กลุ่มคนที่ดำเป็นผืนเมื่อครู่ พริบตาเดียวก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหมดแล้ว
ชิงเฟิงดึงแขนเสื้อของเจี่ยงเสวีย กล่าวขอร้อง “เจี่ยงเสวีย ก่อนหน้านี้สองสามคืนข้าเข้าเวรมาตลอด ไม่งั้นคืนนี้เจ้ามาละกัน”
“นายท่านเปลี่ยนให้เจ้าไปคุ้มกันข้างกายพระชายาแล้ว ข้าจะแย่งผลงานเจ้าได้ยังไงล่ะ ยังไงคืนนี้เจ้าก็เข้าเวรไปละกันนะ “
เจี่ยงเสวียพูดพลาง ตบไหล่เขา ส่งสายตาว่าเอาตัวรอดเองละกันนะให้เขาทีหนึ่ง จากนั้นก็จากไปพร้อมชิวเอ๋อร์ทันที
ชิงเฟิงตะลึงแล้ว
นายท่านเปลี่ยนให้เขาไปคุ้มกันพระชายาก็ไม่ผิด แต่ว่า……
ตอนนี้นายท่านเข้านอนไปพร้อมพระชายาแล้ว พวกเขาสองคนไม่ใช่ว่าควรผลัดเปลี่ยนกันเข้าเวรหรือ?
ทำไมถึงได้เป็นเขาทุกคืน?
ทำไมทุกครั้งที่ได้รับบาดเจ็บต้องเป็นเขา?
ชิงเฟิงกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด ไปเข้าเวรด้วยความไม่เต็มใจ
ในห้องนอน เย่จิ่งหานวางกู้ชูหน่วนไว้บนเตียง ทั้งคนก็ทับลงไปโดยตรงแล้ว
“พูด เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าขาที่สามของฮ่องเต้น้อยใช้การไม่ได้?”
กู้ชูหน่วนกลอกตาขาวแล้ว
“เดาเอา”
เย่จิ่งหานใช้สายตาสงสัยพุ่งเข้าใส่
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างโกรธเคือง “ท่านไม่เชื่อข้า?”
“การกระทำทุกอย่างของเจ้า ทำให้คนเชื่อได้หรือ?”
เย่จิ่งหานเยาะเย้าอย่างเย็นชาคำหนึ่ง
ในใจของเขาเชื่อกู้ชูหน่วนเป็นธรรมดา เพียงแต่ปากจิกกัดไม่หยุดเท่านั้น
“ทำตัวเปิดเผย สมคบกับผู้ชายไปทั่ว ข้างกายก็มักมีฝูงแมลงวันบินหึ่งๆพูดจาเหลวไหลอยู่ตลอด น่าสะอิดสะเอียนจะตาย”
กู้ชูหน่วนเอียงตัว ใช้มือค้ำศีรษะที่โยกไม่มาของเย่จิ่งหาน มุมปากปริยิ้มออกมา
“ว้าว นี่ท่านอ๋องของเราหึงแล้วใช่ไหม?”
“ข้าจำเป็นต้องหึงด้วยหรือ?”
“งั้นท่านจะบ่นพึมพำอะไร?”
“แม่สาว คืนนี้เจ้าตายแน่”
เย่จิ่งหานพลิกตัวลงไป จับมือสองข้างของนางไว้ มองดูใบหน้ารูปไข่ที่งดงามไร้ที่ติของนาง ลำคอเคลื่อนไหวเล็กน้อย ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นอย่างควบคุมตัวไม่ได้
“ครั้งเดียว และจำเป็นต้องให้ข้าอยู่ด้านบน” กู้ชูหน่วนกล่าว
“อะไรครั้งเดียว?”
“มากสุดได้แค่ครั้งเดียว คราวที่แล้วท่านทำข้าเหนื่อยและปวดเอวมาจนถึงตอนนี้เชียวนะ”