อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 586 จิตสังหารแรงกล้า
“เจ้ารู้ไหมว่าคำสาปโลหิตอำมหิตขนาดไหน?”
“หากผู้ชายต้องคำสาปโลหิต จะเสียสติ ไม่รู้จักญาติ ฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่ครอบครัวตัวเองก็ฆ่าล้างจนสิ้น ในตัวพวกเขายังมีพลังกัดกร่อนสายหนึ่ง กัดกร่อนร่างกายพวกเขาตลอดเวลา กระทั่งเน่าเฟะจากภายในสู่ภายนอกจนตาย”
“เรื่องพวกนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่ทรมานที่สุด ที่ทรมานที่สุดคือหลังจากได้สติแล้ว เห็นครอบครัวตัวเองตายใต้คมดาบของตัวเอง ความเสียใจเจ็บแค้นแบบนั้น การตำหนิตัวเองแบบนั้น พวกเขามีชีวิตอยู่กับความระทมสุดขั้วของตัวเอง”
“ส่วนผู้หญิงกระดูกทั้งตัวจะแตกหักทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ร่างกายดุจพันมีดหมื่นทะลวง ทะลวงพวกนางไม่หยุด… กระดูกที่แตกหัก ต้องใช้เวลายี่สิบกว่าวันถึงงอกเหมือนเดิม เหมือนเดิมแล้วก็เริ่มแตกหักอีกทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ไม่จบไม่สิ้น วนเวียนลุกลาม ความทรมานนั้น อเนจอนาถยิ่งกว่าการลงทัณฑ์ชนิดไหนๆ แต่พวกนางต้องแบกรับตั้งแต่วันแรกที่ออกมาดูโลก”
“เพราะคำสาปโลหิตไม่หยุดตามการเกิดการตายของเจ้า มันจะสืบทอดไปพันรุ่นหมื่นรุ่น”
ทุกประโยคที่กู้ชูหน่วนเอ่ย เสียงจะเย็นลงเรื่อยๆ หลายส่วน
สีหน้าเวินเส้าหยีซีดขาว ผิวเผินราบเรียบ ทว่าในใจประหนึ่งคลื่นกรรโชกก็มิปาน
เขารู้มาตลอดว่าคำสาปโลหิตโหดร้ายมาก แต่จะโหดร้ายอย่างไรนั้น เขากลับไม่รู้
แต่เล็กจนโต ที่เขารับการอบรมคือ ฮ่องเต้แคว้นหยกเจ้าเล่ห์แผนลึก วางแผนทำร้ายแคว้นเฉินก่อน
แคว้นเฉินจนใจถึงได้สาปคำสาปโลหิต
หลายปีมานี้ ประชาชนเผ่าหยกเห็นพวกเขาก็ฆ่าล้างอย่างไรจิตใจ
จึงทำให้ศัตรูตัวฉกาจที่สุดของพวกเขาก็คือเผ่าหยก…
มุมปากเวินเส้าหยีขยับนิดๆ แต่กลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ไม่ว่าที่กู้ชูหน่วนกล่าวจะจริงหรือเท็จ นั่นก็ผ่านไปพันกว่าปีแล้ว
บรรยากาศเริ่มเงียบเชียบอีกครั้ง
ปุยหิมะที่ปลัดปลิวตกบนตัวพวกเขา
สายลมหนาวหวีดหวิวพัดกายพวกเขา
อากาศติดลบหลายสิบองศาทำให้สรรพชีวิตบนยอดเขาหิมะแทบจะเป็นศูนย์
แต่ความหนาวเหน็บในใจพวกเขากลับหนาวยิ่งกว่าร่างกายพันเท่าหมื่นเท่า
“เจ้าควรดีใจ ที่เจ้าเจอคือข้า เฮอะ…”
กู้ชูหน่วนโยนกระดูกกระต่ายย่างในมือ ปัดๆ หิมะบนตัว สายตาขรึมเล็กน้อย เตรียมตรวจสอบธารน้ำแข็ง
เวินเส้าหยีกล่าวลอยๆ “เจ้ามั่นใจหรือว่ารวบรวมมุกมังกรครบเจ็ดเม็ดแล้วจะแก้คำสาปได้?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง”
ในแดนเหนือสุดไม่รู้ว่ามีอันตรายมากน้อยเพียงใด เวินเส้าหยีบาดเจ็บหนัก ทั้งยังถูกเข็มทองสกัดจุด พาเขาเข้าไปด้วยก็คือพาตัวถ่วงไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
แหวนมิติเก็บของไม่มีชีวิตได้ หากเก็บของมีชีวิต…
กลัวแต่ถึงเวลาเอาออกมาจะเป็นซากไปเสียแล้ว
ศีรษะกู้ชูหน่วนปวดตุบเป็นระลอก
ทำไมนางต้องมือบอนเอาเวินเส้าหยีมาแดนเหนือสุดด้วยนะ?
คิดจะมัดเขา แต่คิดอีกทีก็ไม่เหมาะ
ไม่รู้ว่านางจะเข้าไปนานเท่าไร เกิดเวินเส้าหยีหิวตายหรือหนาวตาย กระทั่งเกิดมีสัตว์ป่ามาจู่โจมกินเขาไปล่ะ?
ใคร่ครวญครู่หนึ่ง กู้ชูหน่วนจึงเอ่ย “วิชาพิษข้า คาดว่าเจ้าคงรู้อยู่บ้างกระมัง เจ้าถูกพิษของข้า นอกจากยาถอนพิษที่ข้าทำ มิเช่นนั้นต่อให้สุดยอดผู้อาวุโสทั้งหมดของเผ่าเทียนเฟิ่นยกโขยงมาก็ไม่มีประโยชน์”
“วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก”
“พูดกับคนฉลาดก็สบายอย่างนี้แหละ”
“วรยุทธ์เจ้าอ่อนด้อยเกินไป ในนั้นนอกจากมังกรน้ำระดับเจ็ด ไม่รู้ยังมีสิ่งมีชีวิตอะไรอีก บุ่มบ่ามเข้าไปไม่ใช่พฤติการณ์ชาญฉลาด”
กู้ชูหน่วนเงียบ ท่าทีแน่วแน่ สูดลมหายใจเข้าลึก ย่างเท้าสู่ทางเข้าแดนเหนือสุด
แทบเป็นเวลาเดียวกัน จิตสังหารสายหนึ่งหอบโจมตีมาทางนาง
ความเร็วนั้นเหนือกระแสไฟฟ้า ฟิ่วเดียวก็อยู่ตรงหน้านางแล้ว
กู้ชูหน่วนหลบตามสัญชาตญาณ แต่กลับพบว่าหน้าหลังซ้ายขวานางถูกจิตสังหารเข้มข้นปกคลุมหมดแล้ว
จิตสังหารแกร่งกล้านัก นางกับเวินเส้าหยีกลับไม่รู้สึกเลยสักนิด