อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 623 ความลับของกู้ชูหยุน

บทที่ 623 ความลับของกู้ชูหยุน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 623 ความลับของกู้ชูหยุน
“กู้ชูหยุนน้ำตาคลอเบ้าพูดอย่างน่าสงสารว่าอะไร เสียความบริสุทธิ์ไปแล้วตายซะยังจะดีกว่า เจ้าว่า อย่างน้อยข้าก็เป็นฮ่องเต้ ต้องการผู้หญิงแบบไหนก็มี จะไปแอบดูนางอาบน้ำได้อย่างไร”

เย่หวงเกาศีรษะด้วยความเก้ๆกังๆเล็กน้อย “แต่ว่านะ ข้าเป็นถึงกษัตริย์แห่งแคว้น หากว่าเรื่องที่ไม่เข้าท่าเช่นนี้แพร่กระจายออกไป ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะกลายเป็นเรื่องสนุกปากหลังอาหารของเหล่าประชาชน”

“ดังนั้นจึงเป็นกู้ชูหยุนที่ขอร้องพระองค์ ให้พระองค์พระราชทานงานแต่งงานให้เซียวหยู่เซวียน พระองค์จึงพายเรือตามน้ำ เห็นด้วยไปซะเลยเช่นนั้นหรือ?”

“นี่…..ก็ถือว่าเช่นนั้นแหละ”

เขากำลังคิดหาวิธีว่าจะสลัดกู้ชูหยุนอย่างไรดี แต่กู้ชูหยุนกลับเริ่มขอพระราชทานงานแต่งเอง แน่นอนว่าก็เป็นความปรารถนาที่เขาหามิได้ จึงได้ออกพระราชโองการพระราชทานงานแต่งตรงนั้นเลย

กู้ชูหน่วนยืนขึ้น จัดกระโปรงที่ยับย่น “ข้าเข้าใจแล้ว”

เย่หวงดีใจในพริบตา เคลื่อนเก้าอี้ไปข้างตัวของกู้ชูหน่วน “ในเมื่อเจ้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็ควรเข้าใจในความลำบากใจของข้าด้วย เรื่องงานแต่งงานนี้ ข้าเรียกคืนไม่ได้เด็ดขาด”

“ข้าเข้าใจแล้วว่า คิดจะให้พระองค์ถอนพระราชโองการพระราชทานงานสมรสคืนนั้น ก็ต้องประกาศให้โลกรู้ ว่าท่านฮ่องเต้ผู้สูงส่ง แอบดูกู้ชูหยุนคุณหนูรองจวนเฉิงเซี่ยงอาบน้ำ ทั้งยังทำให้คนอื่นมีมลทินอีก หลังจากเรื่องนั้นรู้สึกว่าคนอื่นเขาไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้จึงได้เอากู้ชูหยุนที่ร่างกายไม่ได้บริสุทธิ์พระราชทานให้กับเซียวหยู่เซวียน ก็เพราะว่าเซียวหยู่เซวียนเป็นลูกผู้ดีที่เอาแต่เที่ยวเล่นซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในพระนคร โดยปกติให้ความสำคัญเพียงแค่หน้าตา ไม่สนใจคุณธรรมศีลธรรม”

กู้ชูหน่วนพูดจบ ก็ออกไปจากอุทยานหลวงอย่างสง่า

เย่หวงโซเซทันที แทบจะตกจากเก้าอี้

เขากลัวจนสีหน้าซีดขาว รีบขวางกู้ชูหน่วนไว้ “ไม่ใช่ เมื่อครูเจ้าไม่ได้ฟังข้าพูดให้ชัดเจนใช่หรือไม่”

“ฟังชัดเจนแล้วนี่เพคะ”

“เช่นนั้นเจ้ายังจะประกาศให้โลกรู้อีก แบบนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าทำลายชื่อเสียงของข้าหรือ?”

“น่าแปลกแล้ว ข้ามาหาพระองค์ เดิมทีก็เพื่อให้พระองค์ยกเลิกพระราชโองการ เพียงแค่พระองค์ยอมถอนพระราชโองการคืน ข้าจะต้องประกาศต่อโลกว่าพระองค์ผู้เป็นฮ่องเต้คนหนึ่งแอบดูคนอื่นอาบน้ำไปทำไมล่ะเพคะ แบบนี้มีประโยชน์อะไรต่อข้าหรือเพคะ?”

กู้ชูหน่วนจงใจตะโกนเสียงสูงว่าฮ่องเต้คนหนึ่งแอบดูคนอื่นอาบน้ำ

เสียงนั่นดังจน แทบจะได้ยินทั้งอุทยานหลวง

เย่หวงแทบอยากจะอุดปากนางไปซะ

“เจ้าเบาเสียงหน่อย เอะอะโวยวายต่อไป ทั้งพระราชวังก็คงจะรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว”

“ได้สิเพคะ เช่นนั้นพระองค์จะถอนพระราชโองการคืนหรือไม่เพคะ”

เย่หวงทั้งเสียใจทั้งโกรธ

เขาบอกความลับที่สำคัญเช่นนี้กับกู้ชูหน่วนได้อย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่เป็นการหาเหาใส่หัวตัวเองหรอกหรือไง?

หากว่าเขาถอนพระราชโองการ ต่อไปคนใต้หล้าจะมองเขาอย่างไร

“ไม่ถอน”

“ฮ่องเต้แอบดูคุณหนูรองของจวนเฉิงเซี่ยงอาบน้ำ……ฮ่องเต้ทำให้คุณหนูรองจวนเฉิงเซี่ยงมีมลทิน……”

“ซู่ แม่ทูนหัวของข้า เบาเสียงหน่อยเบาเสียงหน่อย ข้ารับปากก็ได้”

เย่หวงโมโหจนกระทืบเท้าตลอด เสียดายที่ก่อนหน้านี้เขาเคยชื่นชมนาง ผู้หญิงคนนี้ก็คือนางมารร้าย

กู้ชูหน่วนยิ้มหวานทันที “ฝ่าบาท พระองค์ถอนพระราชโองการคืนเร็วกว่านี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือเพคะ ไม่ว่าอย่างไรพระราชโองการก็เป็นพระองค์ที่ออกใช่หรือไม่เพคะ? เสียวหลี่จือ…..”

กู้ชูหน่วนร้องเรียกเสียวหลี่จือมาโดยไม่เกรงใจ มองจากบนลงล่าง และพูดขึ้นเกียจคร้าน “นายท่านของเจ้าให้เจ้าไปถ่ายทอดพระราชโองการ”

นางบุ้ยปากไปทางเย่หวง

เย่หวงพูดด้วยความเดือดดาล “ถ่ายทอดพระราชโองการของข้า ยกเลิกการหมั่นหมายระหว่างคุณหนูรองจวนเฉิงเซี่ยงและเซียวหยู่เซวียนจวนแม่ทัพ”

เสียวหลี่จือกล่าวด้วยความกลัว “ฝ่าบาท เช่นนั้น….เหตุผลล่ะพ่ะย่ะค่ะ…..”

“ข้าแค่จะถอนพระราชโองการฉบับหนึ่ง ต้องการเหตุผลอะไร ยังไม่รีบไปถ่ายทอดอีก อีกอย่างบอกกู้ชูหยุนด้วยว่า หากนางกล้าเปิดเผยความลับ ข้าจะยึดทรัพย์จวนเฉิงเซี่ยงทั้งหมด”

“พ่ะย่ะค่ะพ่ะย่ะค่ะพ่ะย่ะค่ะ…..”

กู้ชูหน่วนยกนิ้วโป้งให้ หาวทีหนึ่ง จากไปพลาง และเอ่ยไปพลางว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชา ฝ่าบาททรงกล้าหาญ”

“นี่ นี่เจ้าจะไปไหน?”

“ดึกแล้ว แน่นอนว่าจะกลับไปนอนเพคะ จะให้ข้าอยู่ชมจันทร์เป็นเพื่อนพระองค์กลางดึกหรือไงเพคะ?”

ขณะพูด กู้ชูหน่วนก็ได้หายตัวไปจากอุทยานหลวงแล้ว

เย่หวงตกตะลึงตาค้างพูดไม่ออก

เช่นนี้ก็ได้?

นางเห็นพระราชวังเป็นอะไร?

และเห็นเขาเป็นอะไรกัน?

คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป ยังมีข้าฮ่องเต้ผู้นี้อยู่ในสายตาอีกหรือไม่

“กู้ชูหน่วน…..” เย่หวงแทบจะคำราม

ในยามค่ำคืน เสียงอันเกียจคร้านของกู้ชูหน่วนดังมา “ฝ่าบาท กริ้วมากๆทำร้ายร่างกายนะเพคะ แล้วอย่าลืมว่าในมือข้ามีความลับของพระองค์อยู่นะเพคะ…..”

“กู้ชูหน่วน ผู้หญิงคนนี้ น่าโมโหจริงๆ บนโลกนี้ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่ไร้ยางอายเช่นนี้…..นางหยิ่งผยองขนาดนี้ได้เช่นไรกัน”

ขันทีผู้น้อยที่ได้ยินเสียงดังมานั้นกล่าวขึ้นอย่างสั่นเทา “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นางกล้าผยองขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นส่งคนไปจับตัวนางมาลงโทษแบบธรรมดาอย่างจริงจังก็ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เย่หวงถีบขันทีผู้น้อยไปทีหนึ่งตรงๆ “สมองของเจ้าถูกลาดีดโง่ไปแล้วหรือไง? นางเป็นภรรยาของเย่จิ่งหาน ในมือของเย่จิ่งหานกุมอำนาจสำคัญทางการทหาร ข้ากลัวว่ายังจับนางมาไม่ได้ ก็จะถูกเย่จิ่งหานจับได้ซะก่อนแล้ว”

ขันทีผู้น้อยคุกเข่าลงด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรแล้ว

ในยามค่ำคืน อีกมุมหนึ่งของอุทยานหลวง ชายที่ดูอิ่มเอิบมีชีวิตชีวาในชุดผ้านวมบุด้วยฝ้ายสีม่วง ชำเลืองมองไปยังทิศทางที่กู้ชูหน่วนจากไป ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

ชิงเฟิงที่อยู่ด้านหลังของชายผู้นั้นกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “นายท่าน ต้องการให้ข้าน้อยบอกพระชายาหรือไม่ว่า ให้พระชายาถ่อมตัวสักหน่อยตอนเข้าวัง”

เย่จิ่งหานเม้มปากยิ้ม เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “พระชายาของข้าจำเป็นต้องถ่อมตัวด้วยหรือ?”

“ห๊ะ……”

“นางควรจะฮึกเหิมมีชีวิตชีวา หยิ่งผยองห้าวหาญ”

“ใช่ขอรับ……”

พระชายาหยิ่งผยองเพียงพอ ห้าวหาญเพียงพอแล้ว

ตอนนี้ไม่ใช่แค่จวน แต่หลังคาของทั้งพระราชวังทั้งก็จะแทบถูกนางเปิดออกหมดแล้ว

“ขันทีผู้น้อยคนนั้นและเสียวหลี่จือ ควรทำให้พวกเขาจำไว้หน่อย”

“ใช่ขอรับ…..”

ชายชุดม่วงหายตัวไปในยามค่ำคืน เหลืองไว้เพียงกลิ่นหอมที่หลงเหลืออยู่ พระราชวังอันใหญ่โตไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

ชิงเฟิงถอนหายใจอย่างเศร้าๆ

หลังจากที่สองขันทีตัวน้อยถูกลงโทษ คิดว่าทั้งพระราชวัง แม้กระทั่งฮ่องเต้ เมื่อเห็นพระชายาก็คงต้องเดินอ้อมแล้วสินะ?

กู้ชูหน่วนไม่ได้กลับไปที่จวนอ๋องหานในทันที แต่ข้ามกำแพงเข้าไปในจวนเฉิงเซี่ยงแล้ว

เพราะว่าดึกแล้ว คนในจวนเฉิงเซี่ยงก็หลับไปแล้ว กู้ชูหน่วนเดินไปๆมาๆอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยงเหมือนเป็นผีเช่นนั้น

ผ่านไปเป็นเวลานาน นางหยุดอยู่ที่ประตูห้องของกู้ชูหยุน

คนในจวนเฉิงเซี่ยงอยู่กันทุกคน มีเพียงกู้ชูหยุนที่ไม่อยู่

ในเวลานี้ นางจะไม่อยู่ในจวนได้อย่างไร?

กู้ชูหน่วนค้นหาอย่างระมัดระวังอีกครั้ง แทบจะหาทุกห้องแล้ว ก็ไม่พบร่องรอยของกู้ชูหยุน

นางจึงถือโอกาสคลุมหน้าด้วยผ้า ปิดบังหน้าตาอันงดงามเป็นเลิศของตัวเองไว้ มัดสาวใช้ข้างกายของกู้ชูหยุน ถามเบาๆว่า “พูด คุณหนูของเจ้าล่ะ?”

“ไว้…..ไว้ชีวิตด้วย…..คุณหนูของข้าอยู่….อยู่ในห้อง”

“เพ้อเจ้อ คุณหนูของเจ้าอยู่ในห้องไหน?”

กู้ชูหน่วนถีบประตูห้องนอนของกู้ชูหยุน จับสาวใช้เข้ามาด้วย

เมื่อสาวใช้เห็น ทั้งคนก็ตกตะลึงแล้ว

“เป็น….เป็นไปได้ยังไงกันล่ะ ข้าเฝ้าอยู่นอกห้องมาตลอด คุณหนูอยู่ในห้องจริงๆ หรือเพราะข้างีบหลับ คุณหนูจึงออกไปแล้ว? ก็เป็นไปไม่ได้นี่นา เวลานี้ เป็นไปไม่ได้ที่คุณหนูจะออกจากบ้าน”

สีหน้าท่าทางตกตะลึงบนหน้าของสาวใช้ไม่เหมือนโกหก กู้ชูหน่วนจึงตีนางให้สลบไป ค้นหาอยู่เป็นระยะในห้องของกู้ชูหยุน หวังว่าจะสามารถหาพวกกลไกอะไรพบ น่าเสียดาย ห้องนอนห้องนี้ กลไกอะไรก็ไม่มี

แสงทองยามเช้าปรากฏขึ้น พระอาทิตย์เคลือบด้วยสีเหลืองทองชั้นหนึ่ง

กู้ชูหน่วนชำเลืองมองแสงยามเช้าสีทองทางทิศตะวันออก นึกถึงราชวิทยาลัย

จิตใจของกู้ชูหยุนผูกติดกับอาจารย์ซ่างกวน วิชาของอาจารย์ซ่างกวนเป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ไป

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท