เย่จิ่งหานพูดขึ้นว่า “ชิงเฟิง มีคำสั่งลงไป ผู้อาวุโสหกของเผ่าหยกดื่มเหล้าเมาจนเสียงาน ถูกกู้ชูหน่วนจับได้ ผู้อาวุโสหกกลัวว่าเผ่าหยกจะตำหนิเขา จึงบีบบังคับให้กู้ชูหน่วนสละตำแหน่งหัวหน้าเผ่า”
กู้ชูหน่วนพูดสนับสนุนอีกว่า “ใช่ ผู้อาวุโสหกแกล้งเมาอาละวาด ที่จริงได้หมายปองตำแหน่งหัวหน้าเผ่ามานานแล้ว เขายังคิดลอบทำร้ายข้า โชคดีที่ข้าดวงแข็ง จึงยังไม่ตาย”
ฟังกู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานยิ่งพูดก็ยิ่งเกินเหตุ และยังสั่งคนไปป่าวประกาศจนทั่วทั้งแผ่นดิน กู้ชูหน่วนก็เตรียมเดินทางไปยังเผ่าหยก
ผู้อาวุโสหกแกล้งต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาเรอเหล้าออกมา กลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าดื่มไปเยอะจริงๆ แต่ข้าก็ยังมีสติอยู่”
“แม่ของข้าเป็นใคร ใช่พระชายายู่ไหม?”
ผู้อาวุโสหกลุกรีลุกรนขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “คือ….จู่ๆ ข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่ายังมีธุระจัดการยังไม่เสร็จ ข้าขอกลับไปจัดการก่อน”
“ปังๆ ปัง……”
บานประตูทั้งหมดถูกปิด คนของเย่จิ่งหานทั้งหมดเตรียมพร้อม
ท่าทีเตรียมพร้อม หากผู้อาวุโสหกกล้าขัดขืน พวกเขาก็พร้อมผู้อาวุโสหก
“ไปหยา อาหน่วน เรื่องเก่าเรื่องแก่ผ่านไปแล้ว ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร เจ้าไปถามผู้อาวุโสใหญ่ดูไหม ผู้อาวุโสใหญ่น่าจะรู้ดี”
“จากที่นี่ไปถึงเผ่าหยกไกลเกินไป ข้ารอไม่ไหว ตอนนี้ข้าขอสั่งเจ้าในฐานะหัวหน้าเผ่า รีบพูดมา”
“อาหน่วน”
“ว่ามา……”
กู้ชูหน่วนเคร่งขรึม สีหน้าจริงจัง ไม่มีวี่แววล้อเล่นเลยสักนิด
ผู้อาวุโสหกรู้ดีว่า นางจริงจังอย่างมาก
หากเขาไม่พูด คงถูกไล่ออกจากเผ่าหยกจริงๆ แน่
“เรื่องนี้ ข้ารู้ไม่มากจริงๆ”
“เจ้ารู้แค่ไหนก็พูดแค่นั้น”
“จะว่าไปเรื่องก็ยาว”
“ข้าใช่ลูกสาวของพระชายายู่หรือไม่?”
“ใช่……”
ผู้อาวุโสหกตบหัวของตนเอง เรื่องเก่าแก่ที่ผ่านมา เขาไม่อยากที่จะไปคิดถึงอีกจริงๆ
เรื่องที่ผ่านมาเมื่อพูดขึ้นมาอีก ก็เหมือนอย่างการเอาเกลือราดบาดแผล
สีหน้ากู้ชูหน่วนขาวซีด ร่างกายโอนเอนโซเซไปหลายก้าว
สิ่งที่นางกลัวที่สุดเกิดขึ้นแล้ว
สีหน้าเย่จิ่งหานแย่ยิ่งกว่ากู้ชูหน่วน
เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด
“ถ้านางเป็นลูกสาวของพระชายายู่ แล้วทำไมนางถึงกลายเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก? เผ่าหยกเกลียดชังพระชายายู่มากไม่ใช่หรือ?” เย่จิ่งหานพูดขึ้น
“ใช่….แต่ยังไงยู่เอ๋อร์ก็เป็นธิดาเทพของเผ่าหยก ต่อให้นางฝ่าฝืนกฎของเผ่า ก็ยังคงเป็นคนของเผ่าหยก”