อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 705 จิตใจโหดเหี้ยม
กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร “พวกเจ้ามีความแค้นอะไรไว้จัดการกับรองหัวหน้าซือคงได้แล้วค่อยว่ากันได้หรือไม่”
“พี่สาว แค่ข้าคนเดียวก็สามารถจัดการกับตาเฒ่าซือคงได้แล้ว ท่านรีบให้เย่จิ่งหานไสหัวไปเลย”
กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุก
นี่นางคบเพื่อนประเภทไหนกัน
ซือโม่เฟยนั้นวรยุทธสูงส่งก็จริง ถ้าหากเขาไม่ถูกลดระดับลง นางเชื่อว่าซือโม่เฟยสามารถเอาชนะตาแก่ซือคงได้
จุดสำคัญคือเขาระดับเขาลดลงแล้ว อีกทั้งตาแก่ซือคงนั้นเจ้าแผนการยิ่งนัก ถ้าอยากจะจับตัวเขาให้ได้จริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เพราะว่านางกับเย่จิ่งหานนั้นมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกัน หัวใจของเย่จิ่งหานกำลังมีไฟสุมอยู่ เขาราดน้ำมันไปบนกองไฟ เย่จิ่งหานจะไม่เกรี้ยวกราดได้อย่างไร
มองดูเย่จิ่งหานยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศ หรี่ตาลงครึ่งหนึ่งเป่าขลุ่ยหยกขาวในมือเงียบๆ ตัวโน้ตที่มีพลังสังหารรุนแรงค่อยๆไหลออกมาจากปลายนิ้วของเขา กู้ชูหน่วนตาค้าง
นางพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “เย่จิ่งหาน อย่าสนใจเจ้าเด็กคนนั้น จัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงก่อน ”
เย่จิ่งหานที่เดิมทีเห็นจอมมารแล้วรู้สึกรำคาญใจเกิดลังเลขึ้นมาชั่วครู่ สุดท้ายก็ปล่อยจอมมารผู้งี่เง่าไป ตั้งใจต่อสู้กับรองหัวหน้าเผ่าซือคง
จอมมารไม่พอใจ “พี่สาว ทำไมท่านลำเอียงอีกแล้ว”
“ถ้าเจ้าไม่ร่วมกันต่อสู้กับตาแก่ซือคง เจ้าก็ไสหัวออกไป ข้าจะสู้เอง อย่าเอาแต่พูดพร่ำไร้สาระ”
“ก็ได้ก็ได้ อาโม่จัดการกับตาเฒ่านี่ก่อน ค่อยคิดบัญชีกับเย่จิ่งหาน”
ยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดในตอนนี้ร่วมมือกันต่อสู้กับรองหัวหน้าเผ่าซือคง แม้ว่าระดับวรยุทธของพวกเขาจะลดลง รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ยังคงลำบากมากอยู่ดี
ส่งลูกเพลิงออกไปโจมตีติดๆกัน และไม่รู้ว่าถูกใครทำร้ายเข้า ร่างของรองหัวหน้าเผ่าซือคงกระเด็นออกไป กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ
จากนั้นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ตามมาติดๆ บทเพลงสังหารจากขลุ่ยหยกขาวของเย่จิ่งหานนั้นโด่งดังไปทั่ว แค่ถูกโจมตี ก็ต้องกลายเป็นศพทันที ส่วนผู้ที่มีพลังวรยุทธระดับหกขึ้นไปอย่างเขา แม้จะไม่ตาย ก็คงบาดเจ็บสาหัส
รองหัวหน้าเผ่าซือคงหลบหลีกซ้ายขวา ในมือก็รวบรวมพลังภายในไม่หยุด เพื่อป้องกันเสียงสังหาร
เป็นเพราะถูกควบคุมโดยค่ายกล วรยุทธของรองหัวหน้าเผ่าซือคงอย่างน้อยก็ถูกควบคุมไว้ห้าส่วน เขาต้านเย่จิ่งหานได้แต่กลับไม่มีเวลามาคำนึงถึงดอกลำโพงของจอมมาร
ดอกลำโพงที่สีสวยสดงดงามทั้งหลายทยอยกลายเป็นดอกไม้กินคนที่มีปากกว้าง และกัดรองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ปล่อย
ทุกที่ที่ดอกลำโพงพาดผ่าน หิมะละลายกลายเป็นเถ้าธุลี กลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นเสียงสังหารหรือดอกลำโพง แค่เพียงปะทะเข้าก็จัดการได้ลำบากมาก
มองดูถึงตรงนี้ หัวในที่บีบแน่นของกู้ชูหน่วนก็คลายลงไปได้บ้าง
คืนนี้ น่าจะจัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้
คนคนนี้ทำเรื่องเลวร้ายมากมาย น่าจะจัดการตั้งนานแล้ว
วิญญาณที่บริสุทธิ์ของแคว้นคนแคระนับพันนับหมื่น ยังคงรออยู่
“ฟู่……”
ในการต่อสู้ที่ดุเดือด รองหัวหน้าเผ่าซือคงถูกเสียงสังหารของเย่จิ่งหานโจมตีจนบาดเจ็บ แล้วก็ถูกดอกลำโพงของจอมมารพันร่างเอาไว้ ร่างกายระเบิดเป็นหมอกเลือด ราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม คุกเข่าลงกับพื้น ผ่านไปเป็นเวลานานกว่าจะลุกขึ้นมาได้
“ปัง……”
ขลุ่ยหยกขาวค้ำอยู่ที่ลำคอของรองหัวหน้าเผ่าซือคง ขอเพียงเย่จิ่งหานใช้แรงเพียงเล็กน้อย ลำคอของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็จะถูกขลุ่ยหยกขาวเจาะทะลุเป็นรูทันที
ในขณะเดียวกัน ดอกลำโพงได้พันตัวรองหัวหน้าเผ่าซือคงเอาไว้หลายรอบ ขอเพียงจอมมารใช้ความคิด รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็จะถูกดอกลำโพงรัดจนตาย
จอมมารพูดขึ้นว่า”ถ้าไม่ใช่เพราะดอกลำโพงของข้าที่รัดตัวตาเฒ่าซือคงไว้ได้ก่อน เสียงสังหารของเจ้าคงทำร้ายเขาไม่ได้ ไปๆๆ เอาขลุ่ยหยกขาวของเจ้าออกไป คนที่ไม่รู้คนคิดว่าเจ้าเป็นคนจับมาเฒ่าซือคงได้ ”
ดวงตาของเย่จิ่งหานนิ่งสงบเหมือนน้ำ ลึกล้ำดุจบ่อบาดาล มองไม่ออกถึงความตื้นลึกของมัน และมองไม่ออกถึงความรู้สึกยินดียินร้าย เพียงแต่จ้องมองจอมมารนิ่งๆเท่านั้น
จอมมารถูกเขาจ้องมองจนทำตัวไม่ถูก ยังคิดว่าอุจจาระที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงสาดใส่เขาเมื่อครู่ ยังคงหลงเหลืออยู่บนตัวเขา ตกใจจนร้องเสียงหลงออกมา
เก็บดอกลำโพงกลับมาทันที จอมมารสำรวจดูเสื้อผ้าตนเองอย่างละเอียด ดูว่ามีสิ่งสกปรกติดอยู่ตรงไหนหรือไม่
เสื้อผ้านั้นไม่ได้สกปรก แต่เขารู้สึกว่าร่างกายเหม็นมาก เหม็นจนไม่อาจจะทนสูดดมได้
“พี่สาว ในเมื่อจับตัวรองหัวเผ่าซือคงได้แล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน ประเดี๋ยวค่อยกลับมา”
ไม่รอให้กู้ชูหน่วนตอบ จอมมารก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
บรรยากาศผิดปกติขึ้นมาทันที
กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานสบตากัน แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ผ่านไปพักใหญ่ เย่จิ่งหานจึงสกัดจุดต่างๆของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเอาไว้ แล้วปิดกั้นวรยุทธของเขาไว้ชั่วคราว ค่อยเก็บขลุ่ยหยกขาของตนเอง
เขาหันหน้าไป พูดเสียงเรียบว่า “จับตัวได้แล้ว ข้าก็ควรจะไปเสียที”
เสียง”ฟิ้ว……”ดังขึ้น เงาร่างสีม่วงก็หายไปแล้ว รวดเร็วราวกับสายฟ้า
ถ้าหากไม่ใช่เพราะรองหัวหน้าเผ่าซือคงถูกจับตัวเอาไว้ได้อย่างแท้จริงแล้ว เกรงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อครู่นี้คงคิดว่าเป็นแค่ภาพลวงตา
กู้ชูหน่วนมองไปยังทิศทางที่เย่จิ่งหานหายตัวไป ผ่านไปนานก็ยังคงพูดไม่ออก จนกระทั่งเสี่ยวลู่เตือนขึ้นมา กู้ชูหน่วนจึงได้สติ
นางค่อยๆเดินเข้าไปตรงหน้ารองหัวหน้าเผ่าซือคง หลุบตาลงมองเขาที่คุกเข่าอยู่
“คนแก่ชุดดำที่ไล่สังหารฆ่าเมื่อวานใช่เจ้าหรือไม่”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงเบือนหน้าไปทางอื่น ทำเสียงขึ้นจมูก
ลูกน้องของกู้ชูหน่วนรีบเตะเขาอย่างแรงทันที
“ตกอยู่สภาพพ่ายแพ้ขนาดนี้แล้ว ยังกล้าอวดดีอีก นายหญิง ข้าคิดว่า ฆ่าเขาเสียเลยดีกว่า”
กู้ชูหน่วนพูดเสียงเรียบว่า “เจ้าจะเป็นตาแก่ชุดดำคนนั้นหรือไม่ไม่สำคัญ เจ้าจะเป็นเจ้าสำนักของสำนักวิญญาณมืดหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ข้าแค่จะถามเจ้าสามเรื่อง ถ้าหากเจ้ายอมตอบตามความจริง บางทีข้าอาจจะทิ้งให้ศพเจ้ามีชิ้นส่วนอยู่ครบถ้วน ไม่เช่นนั้น ……”
สิ่งที่นางขู่ไม่ต้องพูดออกมาชัดเจนก็เข้าใจความหมายได้
รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็เชื่อ นางต้องทำได้อย่างที่พูดแน่นอน เพราะว่าความบาดหมางระหว่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นวันสองวันนี้
“เรื่องแรก เจ้าเป็นคนอบรมสั่งสอนเลว่อิ่งมากับมือใช่หรือไม่ เจ้าเป็นคนอุ้มลูกฝาแฝดที่เพิ่งคลอดของฮองเฮาฉู่ไป แยกกันเลี้ยงดูพวกเขา คนหนึ่งส่งไปที่เผ่าปีศาจ ปล่อยให้หัวหน้ากองธงกล้วยไม้เล่นสนุกได้ตามใจ ส่วนอีกคนก็ส่งไปเป็นนักฆ่าที่สำนักวิญญาณมืด ใช่ไหม”
“เจ้าจะฆ่าก็ฆ่า อย่าพูดมาก”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงแม้จะถูกสกัดจุด ปิดกั้นวรยุทธ แล้วร่างกายยังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่เผยท่าทีต่ำต้อยน่าสงสารออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังคงทำท่าหยิ่งยโสเหมือนปกติ มองคนอื่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเอ่ยถึงฮองเฮาฉู่หรือไม่ สีหน้าของรองหัวหน้าซือคงดูไม่ดีนัก อารมณ์ดูกราดเกรี้ยวอยู่บ้าง
“เห็นที ข้าคงเดาไม่ผิด เจ้าหลังรักฮองเฮาฉู่ แต่ฮองเฮาฉู่กลับรักฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่อย่างสุดหัวใจ เจ้าไม่พอใจ ฉะนั้นจึงฉวยโอกาสตอนที่ฮองเฮาฉู่ประสูติ แย่งชิงลูกฝาแฝดของนางไป ทำเอาฮองเฮาฉู่ต้องทุกข์ระทม ร่างกายอ่อนแอลงมาก และมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดในทุกวัน”
“และทำให้เลว่อิ่งกับเย่เฟิงต้องมีชีวิตที่น่าเวทนา ตาแก่ซือคง หัวใจเจ้าก็โหดเหี้ยมไม่น้อยเลย”
ทันใดนั้นรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา หัวเราะจนทำให้รู้สึกขนลุก
เพราะว่าในรอยยิ้มของเขาแฝงไปด้วยความเคียดแค้นที่เข้มข้น
“ข้าโหดเหี้ยม เทียบกับพวกนาง ข้าทำเหี้ยมแค่นี้จะเป็นไรไป เพื่อนางแล้ว ข้ายอมเสียสละทุกอย่าง แม้แต่ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นก็ไม่เอา ยังเกือบจะต้องสูญสิ้นชีวิต แต่ข้าได้อะไรตอบแทน ที่ข้าได้ก็แค่สายตาเย็นชาจากนาง นางไม่หวั่นไหวอะไรเลย ในสายตาของนาง ข้าก็แค่คนที่คิดไปเองฝ่ายเดียว”