อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 717 สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกไปทั้งหมด แต่พวกกู้ชูหน่วนต่างก็ฟังออก คนของพวกเขาน่าจะถูกฆ่าตายทั้งหมดแล้ว มีเพียงเขาที่แบกเย่จิ่งหานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนีออกมาได้
ดวงตาของกู้ชูหน่วนมีแววเย็นยะเยือกวาบผ่าน
นางไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา ได้แต่เพิ่มความระมัดระวังในการรักษาให้กับเย่จิ่งหาน
หลังจากตัดเสื้อผ้าของเขาออก บนร่างกายของเขามีรอยฝ่ามือสีดำกระจายอยู่เต็มไปหมด ฝ่ามือสีดำทุกรอยแทบจะเพียงพอต่อการเอาชีวิตเขาได้
กู้ชูหน่วนยากจะนึกภาพออกได้ว่า เขานั้นสามารถหนีมาได้อย่างไร จากการโจมตีของสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่ที่ร่วมมือกัน
ไม่ ไม่ใช่สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่ เป็นสุดยอดผู้อาวุโสทั้งห้า เพราะยังมีรองหัวหน้าเผ่าซือคง
เพื่อจะช่วยแย่งชิงมุกมังกรแทนนาง เขายอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตตนเอง
เสื้อถูกดึงลงไปเรื่อยๆ บริเวณหน้าท้องของเขามีรอยฝ่ามือประทับอยู่ รอยฝ่ามือนั้นมีกลิ่นกัดกร่อนโชยออกมา รอบๆรอยเลือดนั้นเนื้อหนังกำลังค่อยๆเน่าเปื่อยโดยเห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมไปถึงอวัยวะภายในของเขาก็เริ่มเน่าเปื่อยเช่นกัน
ดวงตาของทุกคนต่างก็มีแต่ความตกตะลึง
นี่มันรอยแผลอะไรกันแน่ ทำไมจึงได้ร้ายกาจเช่นนี้
กู้ชูหน่วนลองใช้หลายวิธี แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเน่าเปื่อยไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปได้
เวินเส้าหยีท่าทีเรียบเฉย เอ่ยด้วยเสียงเนิบช้าว่า “นี่เป็นกระบวนท่าไม้ตายเฉพาะตัวของสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮย นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถถอนพิษได้ อีกอย่าง……ขอเพียงถูกฝ่ามือกัดกร่อนของเขาเข้า มากสุดสามวัน หลังจากสามวันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
“ฝ่ามือกัดกร่อน”
กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจ
แต่พวกเสี่ยวลู่ เจี่ยงเสวียรวมไปถึงสวีหู่ต่างก็เข้าใจ
นี่เป็นกระบวนท่าที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดท่าหนึ่งของเผ่าเทียนเฟิ่น
หลายปีมานี้ไม่รู้ว่ามีคนเท่าไหร่ที่ต้องตายเพราะฝ่ามือกัดกร่อนนี้
“ข้าจะหาตาแก่หนังเหนียวคนนั้นเพื่อเอายาถอนพิษ”
เจี่ยงเสวียว่าแล้วก็จะจากไป
กู้ชูหน่วนดึงตัวเขาเอาไว้ทันที
“เจ้าจะไปตายหรืออย่างไร เย่จิ่งหานยังสู้ไม่ได้ เจ้าจะสู้ได้หรือ”
“แล้วจะทำอย่างไร ข้าไม่อาจให้ท่านอ๋อง……”
“เสี่ยวลู่ เจ้ากับผู้อาวุโสหกนำมุกมังกรกับเย่จิ่งหานกลับไปที่เผ่าหยกก่อน ข้าจะพาคนบางส่วนไปหายาถอนพิษ”
“นายหญิง ไม่ได้เด็ดขาด ท่านไม่กลับไปด้วย แม้จะส่งมุกมังกรกลับไปก็ไร้ประโยชน์ เผ่าหยกไม่มีทางให้เทพสงครามเข้าไปแน่ อีกอย่างทำเช่นนี้ก็อันตรายเกินไป”
“ข้าย่อมมีวิธีการของข้า เวลามีจำกัด พวกเจ้ารีบกลับไปเผ่าหยกก็พอ”
ในขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะกระโดดลงจากรถม้า เวินเส้าหยีเปิดปากเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ข้าสามารถช่วยเย่จิ่งหานได้”
สวบ……
สายตาของทุกคนต่างก็หันไปมองทางเวินเส้าหยีดูเรียบเฉย
เจี่ยงเสวียร้อนใจจนกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมา ถามว่า “บอกมา พิษของท่านอ๋องจะถอนได้อย่างไร”
เวินเส้าหยีเหลือบตาขึ้น กวาดตามองไปทางกู้ชูหน่วนแวบหนึ่ง เอายาขวดหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ โยนให้เจี่ยงเสวีย
เจี่ยงเสวียกำขวดยาไว้แน่น แต่ไม่กล้าจะทาให้เย่จิ่งหานทันที เพราะเกรงว่าเวินเส้าหยีจะใส่บางสิ่งที่ไม่ดีในยาขวดนั้น เพราะว่าพวกเขาต่อสู้กันมานานหลายปี ก็ไม่มีบทสรุปจากการต่อสู้เสียที
ทุกคนยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้
เวินเส้าหยีเอายาถอนพิษออกมาให้ง่ายๆเช่นนี้เลย
โดยไม่มีการต่อรองใดๆ หรือยื่นเงื่อนไขอะไรเลย
กู้ชูหน่วนแย่งยาถอนพิษไป ใช้จมูกดมกลิ่น กลิ่นชี่ทิพย์สดชื่นสายหนึ่งโชยเข้ามาในจมูก
นางเปิดจุกปิดขวดออก อยากจะใช้กับเย่จิ่งหาน
“พระชายา ถ้าเป็นยาพิษเล่า”เจี่ยงเสวียขวางเอาไว้ ดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้นไม่สามารถปิดบังความกังวลไว้ได้
“เขาไม่มีทางวางยาพิษได้ ถ้าหากเขาอยากจะให้เย่จิ่งหานตาย แค่รออีกสามวันก็พอ อีกอย่าง ……ถ้าหากเย่จิ่งหานตาย เขาก็อย่าคิดว่าจะรอดไปได้ ถ้าหากเขาตาย สงครามระหว่างเผ่าหยกและเผ่าเทียนเฟิ่นก็เริ่มปะทุขึ้นอย่างเป็นทางการ”
เจี่ยงเสวียเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง แต่กู้ชูหน่วนได้ทายาให้กับเย่จิ่งหานแล้ว ทำเอาเขาร้อนใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาแล้ว
แต่โชคดี ที่เมื่อทายาแล้ว แผลเน่าเปื่อยที่หน้าท้องของเย่จิ่งหานไม่ได้ขยายวงกว้างต่อ กระทั่งค่อยๆฟื้นฟูให้ดีขึ้น
เจี่ยงเสวียถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่ง หัวใจที่บีบแน่นจึงค่อยๆคลายลง
กู้ชูหน่วนเหงื่อออกจนแทบจะเปียกทั้งแผ่นหลัง
นางเพิ่งจะพบว่า ตนเองตื่นเต้นกว่าเจี่ยงเสวีย
“ซู่……”
ทันใดนั้นก็มีไอสังหารที่แข็งแกร่งหลายสายพุ่งเข้ามา แทบจะครอบคลุมพวกเขาไว้ทั้งหมด แม้แต่ฟ้าดินยังเปลี่ยนสี
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไป
ไอสังหารแข็งแกร่งมาก
ม่านตาของเวินเส้าหยีหดเล็กลง “สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่ไล่ตามมาแล้ว”