อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 731 พวกเขาไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
ใช่ เผชิญกับความลำบากยากเข็ญมามากมาย ในที่สุดก็รวบรวมมุกมังกรกลับมาได้ ตลอดทางมานี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
“กลับไปก่อน ผู้อาวุโสไป๋เฉ่า ท่านไปเรียกผู้อาวุโสทั้งหมดในเผ่ามารวมตัว รอข้าไปเยี่ยมพี่เฉินเฟยแล้ว ข้าก็จะหลอมรวมมุกมังกรทันที”
“ได้”
บรรดาฝูงชนต้อนรับกู้ชูหน่วนอันเป็นที่รักและเคารพกลับเผ่า ไม่รู้ว่าใครฝูงชนตะโกนขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “เอ๊ะ สามคนนี้เป็นผู้ใด เหมือนจะไม่ใช่คนเผ่าหยกของพวกเรา”
ประโยคหนึ่งนี้กระตุ้นให้เกิดคลื่นนับพัน ทุกคนรีบมองไปทางจอมมารและคนอื่นๆที่เพิ่งจะถอดผ้าปิดตาออก ในตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ดวงตาคู่นี้ เห้ย เขาคือจอมมาร เจ้าแห่งเผ่าปีศาจ”
ไม่แปลกใจที่คนอื่นๆจำซือโม่เฟยได้ อันที่จริงดวงตาคู่นั้นของเขาในโลกนี้ก็มีเพียงเขาเท่านั้น
ฝูงชนลุกฮือขึ้นในทันที ทุกคนต่างจ้องมองพวกเขาอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าเพียงแค่จอมมารกล้าที่จะทำอะไร พวกเขาก็จะจับกุมพวกเขาไว้ทันทีอย่างไม่เกรงใจ
กู้ชูหน่วนขวางกั้นอยู่เบื้องหน้าของจอมมาร เอ่ยปากขึ้น “เขาเป็นเพื่อนของข้า ตลอดทางโชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากเขา ไม่เช่นนั้นข้าก็คงตายอยู่ในมือของเผ่าเทียนเฟิ่นไปนานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนจึงได้ลดความระมัดระวังลง
จอมมารพวกเขาก็ปล่อยไปแล้ว แต่ด้วยการตะโกนขึ้นของศิษย์ผู้หนึ่ง “คนผู้นี้คือเย่จิ่งหานเทพสงคราม คนผู้นั้นคือองครักษ์ลับข้างกายของเย่จิ่งหาน”
ทุกคนรุมล้อมเย่จิ่งหานและเจี่ยงเสวียขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงกระทั่งชักอาวุธออกมา คิดจะสังหารเย่จิ่งหานและคนอื่นๆไปตรงนั้น
เจี่ยงเสวียได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาคุ้มกันเย่จิ่งหานที่หมดสติอยู่ติดๆ เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทำสงครามกับคนเผ่าหยกทุกเมื่อ
แม้ว่าจะอยู่ข้างกายท่านอ๋องมาหลายปีแล้ว แต่จนตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเผ่าหยกถึงได้มีความเกลียดแค้นต่อท่านอ๋องอย่างลึกล้ำเช่นนั้น ทั้งๆที่ท่านอ๋องก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อเผ่าหยก กระทั่งยังอดทนต่อเผ่าหยกมาครั้งแล้วครั้งเล่าอีกด้วย
“เป็นเย่จิ่งหานจริงๆด้วย ให้คนมา สังหารเขาซะ” ผู้อาวุโสสิบกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา
ชักดาบโก่งคันศร ทันทีที่สัมผัสโดนก็จะเป็นสถานการณ์สงครามทันที
กู้ชูหน่วนสะเทือนดาบในมือของเหล่าศิษย์ที่จะลงมือก่อนกระเด็นไปโดยตรง กล่าวด้วยความโกรธ “บังอาจ ข้าให้พวกเจ้าสังหารเขางั้นหรือ?”
“หัวหน้าเผ่า ปล่อยเย่จิ่งหานไว้ไม่ได้ เขาจำเป็นต้องตาย”
“เช่นนั้นก็บอกข้าทีสิว่า เหตุผลที่เขาต้องตายคืออะไร? เพราะเขาฆ่าคนเผ่าหยกของพวกเรา หรือว่าทำเรื่องที่ทำให้เทพเซียนและคนเกิดความขุ่นเคืองต่อเผ่าหยกของเรางั้นหรือ?”
“เขาไม่ได้ทำอะไร แต่คนเนรคุณเยี่ยงมารดาของเขานั้นกลับทำเรื่องมากมายที่ทำให้เผ่าหยกตกอยู่ในอันตราย หากไม่ใช่เพราะพวกเราโชคดี เกรงว่าทั้งเผ่าก็คงจะถูกทำลายด้วยน้ำมือมารดาของเขาแล้ว”
“แม่ของเขาไม่ใช่แม่ของข้ารึไง พวกเจ้าต้องการฆ่าเขาก็เพราะว่าเขาเป็นลูกชายของพระชายายู่ เช่นนั้นข้าก็คือลูกสาวของพระชายายู่เช่นกัน แม้แต่ข้าพวกเจ้าก็ต้องการจะสังหารด้วยใช่หรือไม่?”
“นี่……”
ผู้อาวุโสไม่กี่คนในเผ่าเข้าใจได้ในทันที
พวกเขาลืมไปได้อย่างไรกัน หัวหน้าเผ่าของตัวเองยังไม่รู้ความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุผลในนั้น
“เย่จิ่งหานเป็นคนที่ข้าพามา ใครกล้าทำร้ายเขา ก็เป็นอริกับข้า”
“หัวหน้าเผ่า ท่านชอบเขาขึ้นมาจริงๆแล้วงั้นหรือ? ท่านจะชอบใครก็ได้ มีเพียงเขาที่ไม่ได้นะขอรับ”
พวกเขายังคิดว่า ตอนนั้นที่หัวหน้าแต่งงานกับเขา ก็เพราะมีจุดประสงค์อื่น ตอนนี้ดูแล้ว เหมือนว่าหัวหน้าเผ่าของพวกเขาจะชอบเขาแล้วจริงๆ
สีหน้าของกู้ชูหน่วนดูไม่ได้ขึ้นมาทันที จิตใจเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างฉับพลัน
“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
ที่ผ่านมาทั้งหมดล้วนเป็นเวรกรรม
หากนางรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของนาง นางจะแต่งงานกับเขาได้อย่างไร
“เช่นนั้นก็ฆ่าเขาซะเลย เพียงแค่เขาตาย บุญคุณความแค้นทุกอย่างในอดีต ก็คลี่คลายตรงนี้ พวกเราจะไม่เอาความอีก”
กู้ชูหน่วนเหลือบมองไปรอบๆ เผ่าหยกที่ยิ่งใหญ่ไม่มีสักคนที่ช่วยขอความเมตตาให้เย่จิ่งหาน และไม่มีคนสงสารเขา
แต่ละคนมองดูเย่จิ่งหานด้วยแววตาที่แทบอยากจะถลกหนังดึงเส้นเอ็นของเขาออกมา
นางรู้สึกเหน็บหนาวในจิตใจ กล่าวทีละคำว่า “พวกเจ้ารู้ว่าทำไมเขาถึงได้บาดเจ็บสาหัสเพียงนี้หรือไม่? เพราะมุกมังกรเม็ดที่เจ็ดเป็นเขาที่สู้อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งชิงมามอบให้พวกเรา ทั้งที่เขารู้ตัวดีว่าจากวิทยายุทธของตัวเองไม่มีทางจะต่อสู้กับสุดยอดผู้อาวุโสไม่กี่คนนั้นได้โดยสิ้นเชิง แต่เขาก็ยังไปแย่งชิงมาโดยไม่สนใจใดๆ หากว่าไม่มีเขา ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีทางรวบรวมมุกมังกรได้ครบเจ็ดเม็ด”
“หากไม่ใช่แม่เพราะของเขา พวกเราก็ได้มุกมังกรเม็ดนี้มานานแล้ว ยังต้องรอมาหลายปีขนาดนี้ด้วยหรือ หนี้ของพ่อลูกต้องชำระ แม้ว่าเขาจะสู้ตายเพื่อแย่งชิงมุกมังกรกลับมา ก็เป็นเรื่องที่ควรจะสมเหตุสมผล”
กู้ชูหน่วนคิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสไม่กี่ท่านที่มีเหตุผลมาโดยตลอดนั้น จะพูดคำพูดที่เย็นชาขนาดนี้ออกมาได้จริงๆ
แม่ของเขาคือแม่ของเขา เขาคือเขา เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
“แล้วข้าล่ะ ในใจของพวกเจ้าข้ามีฐานะอย่างไรกัน? พวกเจ้าเคารพข้าที่เป็นหัวหน้าเผ่าด้วยใจจริง หรือเพราะมีเพียงข้าที่จะสามารถหลอมรวมมุกมังกรได้กันแน่ จึงได้ทำดีต่อข้า?”
เสียงของกู้ชูหน่วนสะอึกสะอื้น สีหน้าท่าทางห่อเหี่ยวอ้างว้างเล็กน้อย
นางไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกเขาถึงปฏิบัติตัวแตกต่างกันได้มากเพียงนี้
จอมมารเห็นกู้ชูหน่วนเป็นทุกข์ใจ แรงสังหารผุดขึ้นในพริบตา ดอกลำโพงวนเวียนอยู่ในมือ
ราวกับว่าเพียงแค่มีใครกล้าทำร้ายนางแม้แต่นิด ดอกลำโพงในมือของเขาก็จะโจมตีเข้าไปด้วยความไม่เกรงใจเช่นนั้น
จอมมารไม่สนว่าพวกเขาจะกำลังคนมากมายเพียงใด และไม่สนว่าจะมีศักยภาพถึงระดับไหน
เมื่อเห็นการท่าทางที่เศร้าโศกของกู้ชูหน่วน ทุกคนในเผ่าหยกก็รู้สึกปวดใจมาก
“อาหน่วน เจ้าคิดไปถึงไหนกัน พวกเราเคารพที่เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าอย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าจะหลอมรวมมุกมังกรไม่ได้ เจ้าก็เป็นหัวหน้าเผ่าเพียงผู้เดียวของเผ่าหยกเรา ถุ้ย ข้าปากไม่ดี เจ้าจะหลอมรวมมุกมังกรไม่ได้ได้ยังไง เจ้าสามารถหลอมรวมมุกมังกรได้แน่”
“ในเมื่อพวกท่านยอมรับข้าได้ ทำไมถึงยอมรับเย่จิ่งหานไม่ได้? หรือว่า เดิมทีข้ากับข้าก็เขาก็ไม่ได้มีแม่คนเดียวกัน?”
กู้ชูหน่วนถามอย่างระมัดระวัง นางมีความปรารถนามากเพียงใดที่ตัวเองกับเย่จิ่งหานจะไม่ได้เป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน
ลูกศิษย์ในเผ่าไม่เข้าใจเหตุผล
แต่สีหน้าของผู้อาวุโสในเผ่าได้เปลี่ยนไปทันที
จิตใจของกู้ชูหน่วนสั่นไหวเล็กน้อย ในใจมีประกายแสงแวบผ่าน แม้แต่การหายใจก็เร็วขึ้นแล้ว “ข้ากับเขาไม่ได้มีแม่คนเดียวกันใช่หรือไม่?”
“หัวหน้าเผ่า เรื่องในอดีตเหล่านี้ พวกเราค่อยพูดกันหลังจากนี้ดีหรือไม่ มุกมังกรคือสิ่งสำคัญ เฉินเฟยก็ยังรอท่านอยู่”
“ไม่ ข้าจะต้องรู้ตอนนี้ ข้ากับเย่จิ่งหานไม่ได้มีแม่คนเดียวกันใช่หรือไม่? ดังนั้นพวกท่านถึงยอมรับข้าได้ แต่รังเกียจเย่จิ่งหาน”
“เจ้ากับเขาเป็นพี่น้องกันอย่างแน่นอน พี่น้องแท้ๆ” ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ากล่าวขึ้นด้วยความดุดันในทันใด
ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างมองไปทางไป๋เฉ่า ไม่เข้าใจว่าทำไมไป๋เฉ่าถึงได้บอกกับนางเช่นนั้น
หรือทำเพื่อแยกพวกเขาออกจากกันงั้นหรือ?
ก็ใช่ จากการกระทำทุกอย่างที่แม่ของเย่จิ่งหานได้ทำต่อเผ่าหยก เขาก็ไม่คู่ควรกับการเป็นหัวหน้าเผ่าโดยสิ้นเชิง
ยิ่งกว่านั้น……
สีของกู้ชูหน่วนสีซีดขาวทันที แทบจะยืนไม่ไหว คำพูดนั้นของผู้อาวุโสไป๋เฉ่าวกวนก้องอยู่ในสมองของนางตลอด พวกเจ้าเป็นพี่น้องกัน เป็นพี่น้องแท้ๆกัน……
“อาหน่วน ข้าก็ยังพูดคำเดิม เจ้าจะอยู่กับผู้ใดก็ได้ แต่อยู่กับเขาไม่ได้เพียงผู้เดียว เจ้าไม่อยากสังหารเขา พวกเรารับปากเจ้า ตอนนี้จะไม่แตะต้องเขา รอจนหลอมรวมมุกมังกร ถอนคำสาปโลหิตแล้ว พวกเราค่อยมาหารือเรื่องนี้กันอีกครั้ง”
กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปในเผ่าด้วยจิตใจเหม่อลอย ข้างหูพวกผู้อาวุโสพูดอะไรอีกบ้าง นางก็ฟังไม่เข้าหูโดยสิ้นเชิง นางรู้เพียงจิตใจดวงหนึ่งนี้ของตัวเองมีเลือดหยดอยู่ตลอด
ตลอดทางความหวังที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ก็ถูกตีจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
เหล่าผู้อาวุโสก็ทนไม่ได้ ทำได้เพียงตัดใจตามกู้ชูหน่วนกลับไป