อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่767 ชี่พิฆาตอันแข็งแกร่ง

บทที่767 ชี่พิฆาตอันแข็งแกร่ง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่767 ชี่พิฆาตอันแข็งแกร่ง
ระหว่างที่พูดนั้น ทั้งสองก็คลานไปถึงหน้าคนเฝ้าประตูแล้ว

“เปิดประตู ข้าจะเข้าไป เร็ว” ผู้อาวุโสหกพูด

ลูกศิษย์ที่เฝ้าหน้าประตูงงไปหมด

ทำไมถึงพูดคำนี้อีกแล้ว?

วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

แดนต้องห้ามปกติในรอบหลายปีก็ไม่เคยมีใครเข้ามาเลยสักคน วันนี้กลับมีคนมาสามครั้ง และยังพูดเหมือนกันทั้งน้ำเสียงและคำพูด

“เจ้าเป็นใคร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่ที่ใด?”

“สมองโดนลาเตะมาหรือไง? จำข้าไม่ได้หรือไง”

ลูกศิษย์ที่เฝ้าหน้าประตูก็ถึงเดินดูรอบๆตัวเขา ก็ถึงรู้ตัวทีหลัง

“ท่าน……ท่านเป็นผู้อาวุโสหกเหรอ?”

“ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใครอีก”

“ผู้อาวุโสหก ท่านไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ทำไมถึง……คลานมาล่ะ……”

และท่าคลานนี้ยังเหมือนกับขอทานก่อนหน้านั้นอีกด้วย อย่างกับหมาเลย

“ข้า……ข้าอยากทดลองชีวิตแปลกใหม่น่ะ”

เอ่อ……

คำนี้อีกแล้ว?

ถ้าไม่รู้จักกับผู้อาวุโสหก พวกเขาคงคิดว่าผู้อาวุโสหกกับขอทานเมื่อกี้เป็นพวกเดียวกันเสียอีก

ฮัวฉีหลัวพูดอย่างโมโห “นี่ พวกเจ้าจะคุยอะไรกันเยอะแยะ รีบเปิดประตูแดนต้องห้ามเร็ว พี่หน่วนเข้าไปนานมากแล้วนะ”

“ได้ยินไหม ยังไม่รีบเปิดอีก”

“คือว่า……ถึงท่านจะเป็นผู้อาวุโส พวกเราก็เปิดประตูแดงต้องห้ามให้ท่านไม่ได้ นอกจากจะมีประกาศิตของหัวหน้าเผ่าและประกาศิตของสุดยอดผู้อาวุโส”

“เจ้าโง่ แล้วทำไมเจ้าหมานั่นกับจอมมารถึงเข้าไปได้?”

“เจ้าหมา? ใคร? จอมมาร? ใครอีกล่ะ? เจ้า……คงไม่ได้ปลอมตัวเป็นผู้อาวุโสหกหรอกนะ?”

ลูกศิษย์อีกคนก็เข้าใจทันที รีบหยิบอาวุธขึ้นมา ล้อมผู้อาวุโสหกกับฮัวฉีหลัวเอาไว้

“ข้าว่าแล้ว! ผู้อาวุโสหกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิขนาดนั้น จะคลานมาถึงแดนต้องห้ามอย่างกับหมาได้ยังไง บอกมานะ เจ้าเป็นใครกันแน่ ถ้ายังไม่บอกอีก เดี๋ยวข้าจะกดกระดิ่งเรียกทุกคนมาเดี๋ยวนี้เลย”

“เจ้าโง่ ข้าล่ะจะบ้าตาย”

ถูกลูกศิษย์เรียกว่าหมา ผู้อาวุโสหกก็โกรธจนลุกขึ้นยืน และตบหัวกะโหลกพวกเขาคนละทีแรงๆ

ฮัวฉีหลัวอึ้ง “พลังของเจ้า……ฟื้นฟูกลับมาแล้วเหรอ?”

ผู้อาวุโสกหกหมุนเวียนลมปราณ

เหมือนจะมีพลังกลับมาแล้วบ้าง และกำลังภายในก็ฟื้นฟูกลับมาแล้วบ้างด้วย

ฮัวฉีหลัวลุกขึ้นมา สะบัดแขนขาที่คลานจนเมื่อย เห็นว่าตัวเองไม่รู้ว่าพลังฟื้นฟูกลับมาเมื่อไหร่

ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันว่า “พลังเจ้าฟื้นฟูแล้วทำไมถึงไม่บอก?”

“ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าพลังฟื้นฟูกลับมาหรือยัง เจ้าก็ลากข้าออกมาเลย ให้เวลาข้าไหมล่ะ?”

“ก็ข้ารีบไง?”

คนที่เฝ้าประตูฟังจนมึนไปหมด สุดท้ายก็พูดอย่างโมโหว่า

“ไสหัวไปนะ ออกไปจากที่นี่ซะ เห็นว่าพวกเจ้าเป็นคนของเผ่าหยก พวกข้าจะไม่รายงานกับผู้อาวุโส ถ้ายังไม่ไปอีก อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจนะ”

“นี่มันวันอะไรของข้ากันแน่ ทำไมถึงมีแต่คนมาหาเรื่องนะ”

ผู้อาวุโสหกหยิบป้ายประกาศิตออกมา ป้ายประกาศิตนั้นเป็นของผู้อาวุโสใหญ่จริงๆ

“เห็นหรือยัง ป้ายประกาศิตของผู้อาวุโสใหญ่ ยังไม่รีบเปิดประตูอีก”

“นี่……ท่านเป็นใครกันแน่?”

“เสี่ยวเต๋อจื่อ เสี่ยวจางจื่อ เสียแรงที่ข้าดูแลพวกเจ้าสองคน ตอนที่ผู้อาวุโสใหญ่ลงโทษพวกเจ้า ข้ายังพูดดีเพื่อพวกเจ้าอยู่เลย ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะไม่รู้จักข้า”

“ท่านเป็นผู้อาวุโสหกจริงเหรอ?”

“ไร้สาระ ยังจะให้ข้าพูดอีกกี่รอบ? หัวหน้าเผ่ากำลังมีอันตราย ถ้าเจ้ายังไม่เปิดอีก เกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ พวกเจ้าจะรับผิดชอบเหรอ?”

“อืม…”

“อืมอะไรอีกล่ะ รีบเปิดประตูเร็วเข้า”

“ขอรับๆ……”

ประตูใหญ่ของแดนต้องห้ามเปิดออก สิ่งที่เจอเลยก็คือชี่พิฆาตอันแข็งแกร่งที่พุ่งออกมา

ผู้อาวุโสหกกับฮัวฉีหลัวก็กระเด็นออกไปหลายก้าว

สีหน้าของทั้งสองดูแย่มาก

เป็นชี่พิฆาตที่แข็งแกร่งจริงๆ

ทำไมแดนต้องห้ามถึงมีของแบบนี้นะ?

ถ้าชี่พิฆาตนี้หลุดออกไปจากที่นี่ เผ่าหยกก็คงโดนกระทบไปด้วย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท